เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 ณ ห้องประชุมพลอยแดง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดตราด นายดุลยเดช วัชรสินธุ์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง และนายสายันต์ เอี่ยมรอด ผู้ตรวจราชการกรมประมง จัดทีมประมงจังหวัดลงพื้นที่ภาคตะวันออก (ตราด ระยอง และจันทบุรี) เพื่อประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ รวมถึงปัญหาในการประกอบอาชีพประมงจากตัวแทนกลุ่มชาวประมงทั้งพื้นบ้านและพาณิชย์ในพื้นที่รวมกว่า 200 คน พร้อมชี้แจงการดำเนินการของภาครัฐที่ได้แก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อช่วยเหลือชาวประมงโดยไม่ปล่อยผ่าน
นายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าวเป็นไปตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ซึ่งในที่ประชุมมีตัวแทนชาวประมงได้ร่วมกันเสนอปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพด้านการประมงในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสรุปได้ ดังนี้ ประเด็นด้านกฎหมายประมง ชาวประมงเสนอให้มีการปรับแก้กฎหมาย พรก.ประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560 และขอให้ยกเลิกกฎหมายบางมาตรา เนื่องจากมองว่าการออกกฎหมายที่ผ่านมาไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งในประเด็นดังกล่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการออกคำสั่งที่ 452/2561 แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขกฎหมายอันส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบอาชีพทำการประมง และมีข้อสรุปในการแก้ไข พรก.การประมง 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมทั้งสิ้น 18 มาตรา โดยแบ่งเป็นประมงพาณิชย์ จำนวน 15 มาตรา และประมงพื้นบ้าน จำนวน 3 มาตรา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนยกร่างตัวบทกฎหมาย ประเด็นการขาดแคลนแรงงาน โดยชาวประมงให้ข้อมูลว่าแม้จะอยู่ใกล้เขตชายแดนแต่ก็ยังขาดแคลนแรงงานประมง อีกทั้งยังมีความยุ่งยากในขั้นตอนการจ้างแรงงานที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเข้าสู่ระบบสูง จึงขอให้ใช้แรงงานกลุ่มที่ถือบัตรสีชมพู (บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย) ต่อไป และให้ใช้มาตรา 83 แห่ง พรก. การประมงตลอดทั้งปี ซึ่งในประเด็นนี้ได้มีการชี้แจงต่อชาวประมงว่า เดิมภาครัฐได้ใช้มาตรา 83 แห่ง พรก. การประมง พ.ศ. 2558 กรณีเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แต่ขณะนี้ได้แก้ปัญหาโดยการนำเข้าแรงงานต่างด้าวในเรือประมงด้วยวิธี MOU ซึ่งเป็นการปกป้องตัวแรงงานและเจ้าของเรือเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ใช้แรงงานผิดกฎหมาย และตัวแรงงานได้รับค่าจ้างตามที่ตกลง โดยกระทรวงแรงงานได้ทำ MOU แล้ว 3 ประเทศ ได้แก่ พม่า กัมพูชา และลาว ส่วนการจัดตั้ง One stop service บริเวณพรมแดนเรื่องแรงงานต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีได้มีการชี้แจงถึงประเด็นการแจ้งเข้าแจ้งออกเรือประมงและเครื่องมือวีเอ็มเอส (VMS) ซึ่งได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง และเงื่อนไขเอกสารที่ได้ปรับลดลงตามข้อเสนอของชาวประมงแล้ว พร้อมทั้งจะเร่งช่วยเหลือเรื่องการปิดสัญญาณ VMS กรณีเรือไม่ประสงค์ออกไปทำการประมงเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ประเด็นเรื่องอวนลากแมงกะพรุน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกประกาศเพื่อให้สามารถทำการประมงได้ตามข้อเสนอ ประเด็นการซื้อเรือคืน ล่าสุดได้มีการจ่ายเงินชดเชยงวดที่หนึ่งเข้าบัญชีชาวประมงจำนวน 250 รายเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียง 2 ราย ที่ต้องรอคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ปัญหาการประกอบอาชีพ บางประเด็นต้องรวบรวมข้อมูลจากจังหวัดต่าง ๆ มาพิจารณาและดำเนินการแก้ไขปัญหาในภาพรวมต่อไป ส่วนประเด็นอื่นๆ ชาวประมงยังเสนอให้มีการกำหนดมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรประมง พื้นบ้าน พาณิชย์ และภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างเหมาะสมเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนในระดับจังหวัด ซึ่งได้มอบหมายให้ประมงจังหวัดไปดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมต่อโดยใช้กลไกการทำงานของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด
รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงได้มอบหมายให้ประมงจังหวัดลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้และรับฟังความคิดเห็นชาวประมงอย่างต่อเนื่องเพื่อนำปัญหาและข้อเสนอแนะของชาวประมงทั้งพื้นบ้านและพาณิชย์มาพิจารณาหาแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมกับทุกฝ่ายภายใต้บริบทของกฎหมาย และย้ำว่าทุกเสียงสะท้อนจะไม่ปล่อยผ่าน ขอให้พี่น้องชาวประมงได้โปรดให้ความร่วมมือกับทางราชการโดยคำนึงถึงการสร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรประมงเป็นสำคัญ
"รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ
ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
กยท. ร่วมมหกรรมเกษตรในร่มที่ใหญ่ที่สุดในไทย "FARM EXPO 2025" จัดเต็ม !! เนรมิตพื้นที่แสดงผลงาน ชู "ขับเคลื่อนนวัตกรรม ยางพาราไทย สู่โลกอนาคต
'โตโยต้า ฟาร์มเอ็กซ์โป' สร้างปรากฏการณ์คนล้นหลาม ร่วมชมมหกรรมเกษตรแห่งอนาคตที่ใหญ่ที่สุดในไทย ยกระดับเกษตรไทยสู่เวทีโลก ผสานนวัตกรรม-เทคโนโลยี สร้างฐานรากเศรษฐกิจไทยยั่งยืน
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
"รมว.อรรถกร"นำ กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกำลังภาคเอกชน พัฒนา 'จุลสาหร่าย' สู่พลังงานสะอาด-นวัตกรรมอาหารสัตว์ ยกระดับทรัพยากรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี สรุปผลการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2568 ในพื้นที่ 8 จังหวัด 6 ศูนย์ปฏิบัติการ ภาคตะวันตก