การประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย เชื่อมโยงมณฑลไห่หนานกับประเทศต่างๆ ตามแนวเส้นทางสายไหม

03 Apr 2019
ตัวแทนจากมณฑลไห่หนานทางภาคใต้ของจีน รวมถึงตัวแทนจากเมืองและจังหวัดต่างๆ ของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้ลงนามในโครงการความร่วมมือ ณ การประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia: BFA) ที่ปิดฉากลงไปแล้วเมื่อวันศุกร์ โดยให้คำมั่นว่าจะร่วมกันยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์จีน-อาเซียน

การลงนามโครงการความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการเจรจาผู้ว่าการและนายกเทศมนตรีอาเซียน-จีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุม BFA ที่จัดขึ้นในเมืองโป๋อ่าว เมืองชายฝั่งของมณฑลไห่หนาน

คุณหวัง เซิง ผู้อำนวยการสำนักกิจการต่างประเทศมณฑลไห่หนาน กล่าวว่า "BFA กลายเป็นเวทีสำคัญของมณฑลไห่หนานในการมีส่วนร่วมกับโครงการ Belt and Road"

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มณฑลไห่หนานได้กระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ตามแนวเส้นทางสายไหม ด้วยการจัดการประชุมและการอภิปรายแบบคณะหลายครั้ง เช่น การเจรจาผู้ว่าการและนายกเทศมนตรีอาเซียน-จีน และการประชุมเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21: ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเกาะ

ในการเจรจาเมื่อปีที่แล้วได้มีการนำเสนอโครงการการท่องเที่ยวทางเรือตามแนวเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ

จนถึงขณะนี้ มณฑทลไห่หนานได้เปิดเส้นทางเดินเรือสำราญรวม 14 เส้นทางไปยังเวียดนาม ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศและเมืองอื่นๆ ในอาเซียน

สำหรับการเจรจาในปีนี้ภายใต้หัวข้อ "เชื่อมโยงอาเซียน-จีน และท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน" ได้มีการเน้นย้ำถึงการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน ทั้งทางทะเลและทางอากาศ

เที่ยวบินจากไห่หนานสามารถพาผู้โดยสารไปยัง 21 ประเทศและดินแดนในเอเชียภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง และไปยัง 59 ประเทศและดินแดนในเอเชีย โอเชียเนีย ยุโรป และแอฟริกาภายในเวลา 8 ชั่วโมง

นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในการเจรจาว่า "เราหวังที่จะผลักดันการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างเชียงใหม่กับไห่หนาน"

นอกจากนี้ การประชุม BFA ยังผลักดันความร่วมมือระหว่างไห่หนานกับประเทศตามแนวเส้นทางสายไหม ด้วยการริเริ่มโครงการมากมายในช่วงไม่กี่ปีมานี้

ตัวอย่างเช่น โครงการแบ่งปันเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวระหว่างไห่หนานกับหลายประเทศในอาเซียน โดยเทคโนโลยีที่ได้รับการผลักดันในการเจรจาผู้ว่าการและนายกเทศมนตรีอาเซียน-จีนครั้งที่แล้ว ได้ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญเกือบ 100 ชีวิตมาที่ไห่หนานเพื่อศึกษาเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในแต่ละปี

จนถึงขณะนี้มีการปลูกข้าวลูกผสมบนพื้นที่ 550,000 เฮกตาร์ในฟิลิปปินส์, 2.5 ล้านเฮกตาร์ในอินเดีย, 330,000 เฮกตาร์ในปากีสถาน, 700,000 เฮกตาร์ในเวียดนาม และ 200,000 เฮกตาร์ในอินโดนีเซีย

คุณหวังกล่าวว่า "ไห่หนานมีบทบาทสำคัญในการสร้างความร่วมมือด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ในกลุ่มประเทศอาเซียน"

ในการเจรจาปีนี้มีการบรรลุโครงการความร่วมมือหลายโครงการ เช่น ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและข้อมูลระหว่างไห่หนานกับเกาหลีใต้ รวมถึงความร่วมมือด้านการปศุสัตว์กับประเทศสวีเดน

การประชุม BFA สร้างโอกาสมากมาย ส่งผลให้ไห่หนานได้สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น โดยจำนวนเมืองมิตรภาพได้เพิ่มขึ้นเป็น 60 เมือง และจะมีอีกหลายเมืองตามมา

คุณหวังกล่าวว่า การประชุม BFA จะรองรับการดำเนินโครงการ Belt and Road ได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต โดยจะมีการจัดอภิปรายแบบคณะว่าด้วยเขตการค้าเสรีไห่หนานและการปฏิรูป นวัตกรรมทางสถาบัน การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาระบบนิเวศท่าเรือการค้าเสรี

"ไห่หนานจะเดินหน้าจัดการประชุมและการเจรจาต่างๆ เพื่อผลักดันความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจสีน้ำเงิน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา เทคโนโลยี เกษตรเขตร้อน และการผลิตเมล็ดพันธุ์" เขากล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: สำนักกิจการต่างประเทศมณฑลไห่หนาน

AsiaNet 78130