'ชโย กรุ๊ป’ ขายหุ้นพีพี 40 ล้านหุ้น รับเงิน 153 ลบ. เผยนักลงทุนใหม่พร้อมใจติดไซเลนท์ 6 เดือน

           ชโย กรุ๊ป ขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้นักลงทุน 28 ราย รวมไม่เกิน 40 ล้านหุ้น ราคา 3.83 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นครั้งนี้จำนวนประมาณ 153.2 ล้านบาท เติมเงินสดเข้ากระเป๋าบริษัทเพื่อประมูลซื้อหนี้เพิ่มและใช้รองรับการขยายกิจการ ด้านกลุ่มนักลงทุนใหม่พร้อมเต็มใจให้ไซเลนท์พีเรียด 6 เดือน เรียกความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้นรายย่อย 
          นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO
ผู้ดำเนินธุรกิจเจรจาติดตามและเร่งรัดหนี้สิน และบริหารสินทรัพย์จากการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงิน และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า รวมถึงให้บริการด้านสินเชื่อ เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2562 ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 56 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทนั้น มติที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2562 ได้พิจารณาและอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายแก่นักลงทุน 28 ราย ซึ่งเป็นนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง รวมทั้งมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์หรือศักยภาพในการที่เป็นประโยชน์หรือส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัท 
          ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 19-21 มี.ค.2562 และสำหรับหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลืออีกจำนวน 16 ล้านหุ้น คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดแนวทางต่อไป อย่างไรก็ตาม หุ้นเพิ่มทุนที่เหลือจำนวน 16 ล้านหุ้นจะหมดอายุไปในวันที่ 30 เมษายน 2562 หากไม่มีการจัดสรรต่อไป
          ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดราคาขายหุ้นจำนวนดังกล่าว ในราคา 3.83 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับเงินจากการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จำนวน 153.20 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะนำมาใช้เพื่อการขยายธุรกิจในปี 2562 โดยแบ่งเป็นเพื่อการประมูลซื้อกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน จำนวน 107.24 ล้านบาท สำหรับจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 30.64 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน 
          นายสุขสันต์กล่าวอีกว่า สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นรายย่อย นักลงทุนทั้ง 28 รายตกลงจะไม่ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้รับการจัดสรรในครั้งนี้ เป็นเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่หุ้นของบริษัทเริ่มทำการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Silent Period) ด้วยความสมัครใจ (Voluntary Lock-up)