เที่ยวงานวัดร่วมสมัย เวรี่คูล ช่วงสงกรานต์ สีสันกีฬาและการละเล่นแบบไทยเพียบ

          สัมผัสมนต์เสน่ห์ประเพณีดีงาม พร้อมขานรับปีวัฒนธรรมแห่งอาเซียน "ASEAN Cultural Year 2019" กันเต็มที่!! ด้วยการร่วมรณรงค์แต่งไทย, ใช้ผ้าขาวม้า ร่วมเทศกาลนี้ให้โลกเห็น ในงาน "Water Festival 2019 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย" ครั้งที่ 5 แนวคิด "อยู่เย็น เป็นสุข" ชูความเป็นไทยให้โลกเห็น รวมหลากหลายวัฒนธรรม ประเพณี สีสันกีฬา การละเล่นแบบไทย รำวง ชิงช้าสวรรค์ ฯลฯ มาไว้พร้อม แถมท้ายไฮไลท์บริการเรือฟรี ล่อง ๙ ท่าน้ำริมเจ้าพระยา แวะไหว้สักการะพระพุทธรูป ๔ วัดดังคู่ชุมชนริมน้ำและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย ขึ้นเรือกันได้แล้ว ณ จุดเริ่มต้นเอเชียทีค คนอยากเที่ยวสงกรานต์เชิงอนุรักษ์ ต้องตามรอย (13 เม.ย. 62) 
          ก่อนอื่น ต้องถามว่า รู้หรือไม่ ?? ปัจจุบัน "สงกรานต์" กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมที่บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก เพราะมีความ หลากหลาย สร้างสรรค์ ยั่งยืน (Diversity, Creativity, sustainability) จึงได้รับการบรรจุในปฏิทินอาเซียนว่าเป็นกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมประเพณีที่ไม่ควรพลาด
          ในแต่ละปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน เป็นที่มาให้ ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฯลฯ รวมใจ ชวนชาวไทยร่วมกันเผยแพร่สิ่งที่ดีงามผ่านการจัดงาน "Water Festival 2019 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย" ครั้งที่ 5 ที่รวมกิจกรรมทางวัฒนธรรม เป็นประเพณีดีงามหลากหลายของไทยให้พวกเราได้สืบทอด งานเริ่มวันแรกแล้ว เรารวมกิจกรรมเด่น ต้องทำ มาไว้ให้ อาทิ 
          สักการะพระวัดดังที่อยู่คู่แผ่นดินไทยมาช้านาน อาทิ พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงอัญเชิญมาจากวัดศาลาสี่หน้า (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร) หลวงพ่อรุ่งอรุณ (วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร) เพื่อความรุ่งเรือง หลวงพ่อพุทธนาคน้อย (วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร) เพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน การศึกษา 
          สรงน้ำพระประจำวันเกิด นิยมทำตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ เพื่อสะเดาะเคราะห์ เสริมต่างๆ ปรางค์ต่างๆ ละเอียดอ่อน แฝงด้วยกุศโลบาย ฯลฯ 
          รดน้ำดำหัว แสดงความนอบน้อม และขอพรจากผู้ใหญ่ รวมถึงการขอโทษ ขออภัย ซึ่งกันและกัน มีทั้ง ดำหัวตัวเอง ดำหัวผู้น้อย และดำหัวผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นประเพณีที่ยังทรงคุณค่าถึงทุกวันนี้ 
          ก่อพระเจดีย์ทราย คนไทยผูกโยงกับพระพุทธศาสนา การก่อเกิดจากนำเศษดินทรายที่ติดเท้าออกไปจากวัดไปมาคืนวัดในรูปเจดีย์ เหนือสิ่งอื่นใดยังมีคติที่แฝงไว้ อยากให้ชุมชนสร้างสามัคคี 
          ชมการแสดงทางวัฒนธรรม ปัจจุบันการแสดงบางอย่าง หาดูได้ยากนัก แต่ถ้าอยากย้อนยุคไปชม เช่น รำวงย้อนยุค สามช่า มวยทะเลฮาเฮ ชิงช้าสวรรค์ บูทผ้าขาวม้า ฯลฯ รวมไว้ในที่เดียว ให้มาที่ เอเชียทีค ได้เลย จุดเริ่มต้นขึ้นเรือและกลับมาแวะชมสีสันแสงไฟในยามค่ำด้วย
          แบบนี้จะไม่ให้เรียก สงกรานต์ เวรี่คูล แบบไทยได้อย่างไร ว่าแล้วก็ชวนทุกคน รีบๆ ออกไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม ครบครันทุกอย่างได้ในงาน"Water Festival 2019 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย" ที่จัดขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 ภาค ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน นี้ www.waterfestivalthailand.com 
          ดาวน์โหลดรูปเพิ่มเติม https://drive.google.com/drive/folders/18cxFQDllgPPSaIkl9T3t6HNO59PpFU7_