ฟิทช์ประกาศจัดอันดับเครดิตที่คาดว่าจะให้แก่หุ้นกู้มีประกันของ Risland (Thailand) เป็นครั้งแรกที่ AA(tha)(EXP)

23 Apr 2019
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่คาดว่าจะให้ (National Long-term Expected Rating) ที่ AA(tha)(EXP) แก่หุ้นกู้มีประกันจำนวนไม่เกิน 3.5 พันล้านบาท ซึ่งกำลังจะออกโดย บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ RLT บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย

RLT จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจและชำระคืนเงินกู้จากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน อันดับเครดิตสุดท้ายที่จะให้ (Final Rating) ขึ้นอยู่กับการได้รับเอกสารที่ครบถ้วนตามข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้า

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันที่กำลังจะออกดังกล่าว สะท้อนถึงการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไขและเพิกถอนไม่ได้โดย Country Garden Holdings Company Limited (CGH, BBB-/Stable) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ RLT โดยหนี้จากการค้ำประกันมีสถานะทางกฏหมายเท่าเทียมกับหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของ CGH

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป

อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันที่กำลังจะออกของ RLT สะท้อนถึงสถานะทางเครดิตของผู้ค้ำประกัน CGH (BBB-/Stable) ผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยชั้นนำในประเทศจีน โดยเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีที่ดินกระจายอยู่ในหลายภูมิภาคในประเทศจีนเมื่อเปรียบเทียบคู่แข่ง ซึ่งส่งผลให้ CGH สามารถรักษาระดับรายได้ได้ค่อนข้างสม่ำเสมอตลอดวัฏจักรของธุรกิจ CGH มีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่กว่าและมีการกระจายความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ของกระแสเงินสดที่มากกว่าบริษัทในประเทศไทยที่มีอันดับเครดิตอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เช่น บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ThaiBev (BBB-/AA(tha)/Negative) ซึ่งเป็นผู้นำทางการตลาดในตลาดสุราและเบียร์ แม้ว่า ThaiBev จะมีขนาดธุรกิจที่เล็กกว่า แต่ก็ได้รับการชดเชยด้วยสถานะความเป็นผู้นำทางการตลาดที่แข็งแกร่งในตลาดสุราในประเทศไทย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ ThaiBev สะท้อนถึงความเสี่ยงที่บริษัทฯ ต้องเผชิญในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าในการที่จะลดอัตราส่วนหนี้สินลง

CGH มีสถานะทางเครดิตที่แข็งแกร่งกว่า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC (BBB/AA(tha)/Stable) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย DTAC ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการกอบกู้ส่วนแบ่งตลาดกลับคืน และรักษาระดับรายได้ให้สม่ำเสมอในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและการมีเครือข่ายที่มีความครอบคลุมน้อยกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงได้รับการบรรเทาโดยอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งส่งผลให้ DTAC มีอันดับเครดิตเมื่อพิจารณาเครดิตของ DTAC โดยลำพัง (Standalone Rating) ที่ aa-(tha) ในขณะที่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ DTAC ที่ AA(tha) ได้รวมการเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นหนึ่งอันดับจาก Standalone Rating ของ DTAC เพื่อสะท้อนถึงความเกี่ยวโยงในระดับปานกลางกับ Telenor ASA แห่งประเทศนอร์เวย์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ DTAC

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยบวก:

อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันที่กำลังจะออกอาจได้รับการปรับเพิ่มหากอันดับเครดิตสากลระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของ CGH ได้รับการปรับเพิ่ม

ปัจจัยลบ:

อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันที่กำลังจะออกอาจถูกปรับลดหากอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ CGH ถูกปรับลด

ส่วนปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตสากลระยะยาวในอนาคตของ CGH ตามที่เคยแสดงใน Rating Action Commentary ลงวันที่ 2 เมษายน 2562 ได้แก่

ปัจจัยบวก:

  • อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA Margin) ที่สูงกว่าร้อยละ 20 อย่างต่อเนื่อง (ปี 2561: ร้อยละ 21)
  • อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อสินค้าคงเหลือที่ปรับปรุงแล้ว ที่ต่ำกว่าร้อยละ 30 อย่างต่อเนื่อง (สิ้นปี 2561: ร้อยละ 33)
  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (CFO) หลังจากหักเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยลบ:

  • อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อสินค้าคงเหลือที่ปรับปรุงแล้ว ที่สูงกว่าร้อยละ 35 อย่างต่อเนื่อง
  • อัตราส่วนยอดขายต่อหนี้สินรวม (Attributable contracted sales/gross debt) ที่ต่ำกว่า 1.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง (สิ้นปี 2561: 1.3 เท่า)
  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (CFO) หลังจากหักเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ที่เป็นลบอย่างต่อเนื่อง