ตัวแทนจาก National Geographic Society และ Campaign for Nature จับมือนานาชาติผลักดันแผนอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ผู้นำรัฐบาล องค์กรเอ็นจีโอ ภาคธุรกิจ และนักการกุศล ร่วมผลักดันนานาชาติให้ช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่อย่างน้อย 30% ของโลกภายในปี 2573

          เหลือเวลาอีกเพียง 18 เดือนก่อนที่ผู้นำทั่วโลกจะรวมตัวกันที่ประเทศจีนเพื่อสรุปข้อตกลงในการแก้ปัญหาการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ลดอัตราการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่า บรรเทาผลกระทบของภาวะโลกร้อน และปกป้องผืนป่าที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลก ด้วยเหตุนี้ ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ (24-25 เมษายน) ตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนจากกว่า 10 ประเทศ จึงมารวมตัวกันที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เพื่อผลักดันแผนอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก

          การประชุมสุดยอด Nature Champions Summit ซึ่งจัดโดยรัฐบาลแคนาดา จะปูทางไปสู่การประชุม Convention on Biological Diversity Conference of Parties ณ เมืองคุนหมิง ประเทศจีน ในเดือนตุลาคม 2563 เพื่อกำหนดนโยบายระดับโลกว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับทศวรรษต่อไป การประชุมสุดยอดที่แคนาดาเปิดฉากขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่สำนักข่าว Agence France-Presse (AFP) รายงานผลการศึกษาสถานะความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งบ่งชี้ว่าการสูญเสียธรรมชาติและวิกฤตการสูญพันธ์ของสัตว์ป่าเลวร้ายกว่าที่เราคิด โดย Intergovernmental Science-Policy Platform on Biodiversity and Ecosystem Services (IPBES) จะเผยแพร่รายงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการในภายหลัง

          คุณ Brian O'Donnell ผู้อำนวยการ Campaign for Nature ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดในสัปดาห์นี้ กล่าวว่า "ชุมชนวิทยาศาสตร์เห็นตรงกันว่า นานาชาติจำเป็นต้องเร่งและยกระดับการปกป้องโลกก่อนที่จะสายเกินไป เราต้องอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำให้มากกว่านี้ จึงจะสามารถปกป้องธรรมชาติเพื่อประชากรหลายพันล้านคนที่ต้องพึ่งพาพื้นที่ธรรมชาติที่สมบูรณ์"

          ตัวแทนจากรัฐบาลชิลี จีน คอสตาริกา เยอรมนี นอร์เวย์ สหราชอาณาจักร ฯลฯ ได้ร่วมหารือกับรัฐบาลแคนาดาที่มอนทรีออล การประชุมสุดยอดระดับสูงครั้งนี้สะท้อนถึงความเร่งด่วนในการกำหนดเป้าหมายใหม่อย่างจริงจังเพื่อปกป้องผืนดินและมหาสมุทรทั่วโลก ดังที่คุณ Hansjorg Wyss นักการกุศลผู้บริจาคเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ได้กล่าวไว้ในบทความในหนังสือพิมพ์ Toronto Star ฉบับวันจันทร์ว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นโอกาสอันสำคัญยิ่งที่นานาชาติจะได้เริ่มหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการปกป้องสรรพชีวิตบนโลกใบนี้

          การประชุมสุดยอดครั้งนี้เน้นที่สองประเด็นสำคัญที่จะช่วยให้แผนอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลกประสบความสำเร็จ ได้แก่ การอัดฉีดเงินเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ และการอนุรักษ์ที่นำโดยคนพื้นเมือง

          ในการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำบนโลกให้ได้อย่างน้อย 30% นั้น ประชาคมโลกต้องทุ่มเททรัพยากรที่จำเป็นต่อการบริหารจัดการอุทยาน เขตอนุรักษ์ทางทะเล เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตสงวนอื่นๆ โดยจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรในการวางแผน การเฝ้าสังเกต และการลาดตระเวนในพื้นที่อนุรักษ์และเขตสงวน

          อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือการอนุรักษ์ที่นำโดยคนพื้นเมือง แม้ว่าคนพื้นเมืองจะมีสัดส่วนเพียง 5% ของประชากรโลก แต่ก็ดูแลหรือครอบครองผืนดินบนโลกมากกว่า 25% ซึ่งมีความหลากหลายของพืชพรรณและสัตว์ป่ากว่า 80% ของโลก นานาชาติต้องให้อำนาจและส่งเสริมคนพื้นเมืองในการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำของตัวเอง จึงจะประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์ธรรมชาติในระดับที่จำเป็นต่อการปกป้องสัตว์ป่าและผืนป่า

          เพื่อสกัดกั้นการสูญเสียทางธรรมชาติ กลุ่มนักวิทยายาศาสตร์ คนพื้นเมือง ผู้นำรัฐบาล กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ ภาคธุรกิจ และนักการกุศล ได้ร่วมกันผลักดันเป้าหมายในการอนุรักษ์พื้นที่อย่างน้อย 30% ของโลกภายในปี 2573 โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มต่างๆ กว่า 75 กลุ่มทั่วโลก ได้ประกาศสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของโลก 19 คนได้ตีพิมพ์งานวิจัยในวารสาร Science Advances เพื่อนำเสนอกรณีศึกษาด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับ

          ดร. Enric Sala นักสำรวจประจำของ National Geographic และหนึ่งในผู้เขียนงานวิจัยดังกล่าว ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดในสัปดาห์นี้ กล่าวว่า "วิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เราจำเป็นต้องอนุรักษ์พื้นที่ 30% ของโลกภายในทศวรรษข้างหน้า เราต้องการผู้นำทางการเมืองเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติที่ผลิตออกซิเจนให้เราหายใจ สร้างอาหารให้เราได้กิน และเป็นต้นกำเนิดของน้ำสะอาดที่เราดื่ม"

          บรรดานักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า ปัจจุบันธรรมชาติอยู่ในสภาวะย่ำแย่ ในยุคนี้มีสัตว์ป่าล้มตายรวดเร็วกว่าทุกยุคทุกสมัยในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติถึง 1,000 เท่า และปัญหานี้กำลังแย่ลงเรื่อยๆ สัตว์มากมายกำลังอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ นก 14% สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 25% และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 40%

          ชุมชนต่างๆ กำลังเผชิญกับผลกระทบที่ชัดเจนจากการสูญเสียธรรมชาติอย่างรวดเร็ว โดยมลภาวะ การทำประมงเกินขนาด และการระบาดของชนิดพันธุ์รุกราน ล้วนส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ขณะเดียวกัน การตัดไม้ทำลายป่าและการทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำก็ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดพายุเฮอร์ริเคน น้ำท่วม และภัยธรรมชาติอื่นๆ นอกจากนี้ การสูญเสียสัตว์ขนถ่ายละอองเรณูทำให้บางชุมชนต้องจ้างคนมาถ่ายละอองเรณูด้วยมือ แต่ในทางตรงกันข้าม เด็กๆที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่อนุรักษ์มีสุขภาพและสถานะทางเศรษฐกิจดีกว่าเด็กกลุ่มอื่นๆ 

          คุณ Hansjorg Wyss ได้กล่าวไว้ในบทความว่า 

          "เราทุกคน ทุกประเทศ ทุกวัย และทุกวัฒนธรรม ต้องร่วมมือกันปกป้องธรรมชาติ... การประชุมสุดยอด Nature Champions Summit ในสัปดาห์นี้เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เริ่มเส้นทางการอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมกันเพื่อสรรพชีวิตทั้งมวล"

          รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/876566/National_Geographic_Baffin_Island.jpg 
          โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/876674/Wyss_Logo.jpg
ตัวแทนจาก National Geographic Society และ Campaign for Nature จับมือนานาชาติผลักดันแผนอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก

ข่าวภาวะโลกร้อน+วิทยาศาสตร์วันนี้

'เวฟ บีซีจี' ผนึก 'พีทีจี เอ็นเนอยี' พลิกนาข้าวลดภาวะโลกร้อน ร่วมพัฒนาเกษตรกรไทย ส่งเสริมโครงการ "ปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" บนที่นา 500 ไร่ จ.สุพรรณบุรี

ลดการปล่อยก๊าซมีเทนและต่อยอดเป็นคาร์บอนเครดิต หนุนภาคเกษตรกรรมและองค์กรเติบโตยั่งยืน บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (WAVE BCG) ผู้ให้บริการ Climate Solution ครบวงจร เดินหน้าโครงการ Climate พัฒนา "การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" นวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่บนที่นากว่า 3,300 ไร่ มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงช่วยเพิ่มผลผลิต นำร่องความร่วมมือกับ 'บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี' เปิดโครงการ "ข้าวยั่งยืน ลดมีเทน ด้วยนาเปียกสลับแห้ง" ผนึกกำลังกลุ่มเกษตรกร จ.สุพรรณบุรี

นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พ... นักวิจัย จุฬาฯ พัฒนา "ปะการังสู้โลกร้อน" เพื่อทางรอดระบบนิเวศทางทะเล — นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พัฒนาแนวทางช่วยปะการังให้ปรับตัวรับมือกับภา...

นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พ... นักวิจัยจุฬาฯ พัฒนา "ปะการังสู้โลกร้อน" เพื่อทางรอดระบบนิเวศทางทะเล — นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พัฒนาแนวทางช่วยปะการังให้ปรับตัวรับมือกับภาว...

หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ... มทร.ธัญบุรี เจ๋ง! คิดค้นกระถางรักษ์โลกจากวัสดุชีวมวล สร้างรายได้ ลด PM 2.5 — หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ห...

เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ว... วัตสันร่วมมือกับลูกค้าลดคาร์บอน 4,000 ตัน สู้ภาวะโลกร้อน — เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก (Earth Day) วัตสัน แบรนด์สุขภาพและความงามชั้นนำของ เอเอส วัตสัน ประ...

บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ก... 60+ Earth Hour 2025 MBK ชวนปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกันทั่วโลก เสาร์ 22 มีนาคมนี้ — บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร องค์การ WWF ...

"ยะลา" เป็นพื้นที่พหุสังคม ที่มีความหลากห... เปิด 'ยะลาโมเดล' ชวนฟังเคล็ดลับสร้างเมืองสุขภาพดี จากนายกฯ พงษ์ศักดิ์ ที่งาน Active City Forum — "ยะลา" เป็นพื้นที่พหุสังคม ที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติแ...