นางสาวบงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ประจำปี 2562 ในงานสัมมนาเรื่อง "ลงทุนไทย 2562: รุ่งแค่ไหนในสายตาต่างชาติ" เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ โดยได้สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 600 บริษัท พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 97.3 มีแผนการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยร้อยละ 65.5 ยังคงรักษาระดับการลงทุนในไทย ในขณะที่ร้อยละ 31.83 มีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มเติม
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจขยายหรือรักษาระดับการลงทุนในประเทศไทยนั้น พบว่าสามอันดับแรก คือ มีวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่เพียงพอ ร้อยละ 55 ตามด้วยสองปัจจัย คือ มีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน และมีซัพพลายเออร์เพียงพอ ที่ระดับร้อยละ 51 เท่ากัน
"นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่มองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะทรงตัวจากปีก่อนพิจารณาได้จากปริมาณยอดขายในช่วงที่ผ่านมายังมีเท่าเดิมหรือลดลงเล็กน้อย และคาดว่าจะยังทรงตัวต่อไปในอนาคต นักลงทุนต่างชาติโดยรวมมีความพึงพอใจต่อโครงสร้างพื้นฐานของไทยและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้นักลงทุนที่ทำธุรกิจอยู่แล้วภายในประเทศมีแผนจะขยายการลงทุน" นางสาวบงกชกล่าว
นอกจากนี้ การสำรวจความพึงพอใจต่อการบริการของบีโอไอ พบว่านักลงทุนต่างชาติมีความพึงพอใจ โดยเฉพาะการปรับใช้ระบบออนไลน์ (e-Services) มีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยนักลงทุนสามารถยื่นแบบฟอร์มขอรับการส่งเสริมการลงทุนออนไลน์ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นจากบริการที่ได้รับจากศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (OSOS) และบริการที่ได้รับจากศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เมื่อเทียบกับผลสำรวจของปีที่ผ่านมา
จากการสำรวจเชิงลึกในปัจจัยด้านการลงทุน พบว่า นอกจากปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นแล้ว นักลงทุนต่างชาติมีความพึงพอใจต่อสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน และแรงงานที่มีคุณภาพ
ส่วนด้านปัจจัยอื่นๆ นักลงทุนเห็นว่าหน่วยงานภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการดำเนินงาน ที่โปร่งใส อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนต้องการให้บีโอไอพิจารณาให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นแก่อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้นวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศให้ครอบคลุมในหลากหลายด้าน เป็นต้น
FETCO IAA ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเชิญร่วมสัมมนา "โอกาสหุ้นไทย ภายใต้เศรษฐกิจโลกผันผวน" 8 พ.ย. นี้
ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นสู่เกณฑ์ร้อนแรง นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ
"ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นสู่เกณฑ์ทรงตัว นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากภาคท่องเที่ยวและการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟด"
"ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นักลงทุนคาดหวังภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วยหนุนความเชื่อมั่น"
"ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนคงตัวในเกณฑ์ร้อนแรง นักลงทุนคาดหวังแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 และฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ"
ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลงสู่เกณฑ์ซบเซา นักลงทุนคาดหวังแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 และฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
“ดัชนีฯ เดือนมกราคม 2563 ลดลงอยู่ในโซนทรงตัวเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน นักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การเมือง”