ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้
- ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (เมษายน 2563) อยู่ในเกณฑ์ "ซบเซา" (Bearish) (ช่วงค่าดัชนี 40 - 79) โดยลดลง 9.91% มาอยู่ที่ระดับ 72.75
- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ใน Zone ซบเซา (Bearish)
- ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ใน Zone ซบเซา (Bearish)
- ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศลดลงมาอยู่ใน Zone ซบเซา (Bearish)
- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนรายบุคคลเพิ่มขึ้นอยู่ใน Zone ทรงตัว (Neutral)
- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดการแพทย์ (HELTH)
- หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)
- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
- ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์การท่องเที่ยว
"ผลสำรวจ ณ เดือนมกราคม ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลดลงมาอยู่เกณฑ์ซบเซาเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยความเชื่อมั่นนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ซบเซา หากพิจารณารายกลุ่ม กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศลดลงมาอยู่ที่เกณฑ์ซบเซาจากเกณฑ์ทรงตัวในเดือนก่อน ขณะที่กลุ่มบัญชีนักลงทุนรายบุคคลเพิ่มขึ้นจากเกณฑ์ซบเซามาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว และกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่เกณฑ์ซบเซาเช่นเดิม
ในช่วงเดือนมกราคม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยช่วงต้นเดือน ดัชนีทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 1600 จุด จากนั้นปรับตัวลดลงมากในระยะสั้นมาอยู่ที่ระดับ 1550 จุดจากปัจจัยความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับผลดีจากการลงนามข้อตกลงการค้าขั้นที่ 1 ระหว่างสหรัฐและจีน โดยดัชนีทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1600 จุดในช่วงกลางเดือน จากนั้นดัชนีเคลื่อนไหวลดลงค่อนข้างมากจากร่างพรบ.งบประมาณล่าช้าและปัญหาการแพร่ขยายของเชื้อไวรัสโคโรน่าในจีนและการห้ามนักท่องเที่ยวจีนกรุ๊ปทัวร์เดินทางไปยังต่างประเทศ โดยดัชนีฯ ลดลงมาอยู่ที่ 1510-1520 จุด ในช่วงปลายเดือน โดยทิศทางการลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุดคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รองลงมาคือนโยบายภาครัฐและภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่นักลงทุนกังวล การท่องเที่ยวจากปัญหาเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวจีนในไทยเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือความขัดแย้งระหว่างประเทศจากปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากเชื้อไวรัสโคโรน่า ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังการลงนามข้อตกลงทางการค้าขั้นที่ 1 ทิศ ทางนโยบายทางการเงินและนโยบายทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก สำหรับปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามคือการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาล นโยบายเศรษฐกิจภาครัฐเพื่อกระตุ้นการลงทุน การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว แนวโน้มค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง ผลของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย และการไหลเข้าออกของเงินทุน"
ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนกุมภาพันธ์ 2563
ผลจากดัชนีคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และอายุ 10 ปีมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงในอีก 7 สัปดาห์ข้างหน้า นับจากวันที่สำรวจ (3 ก.พ. 63)
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปีและ 10 ปี ในรอบการประชุม กนง. มีนาคม 2563 (ประมาณ 7 สัปดาห์ข้างหน้า) อยู่ที่ระดับ 50 และ 66 ตามลำดับ ลดลงจากครั้งที่แล้วเล็กน้อยเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลได้ปรับลดลงแล้วในช่วงต้นปีก่อนทำการสารวจความเห็น ซึ่งได้มีการรับรู้เหตุการณ์แพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส การปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และความล่าช้าของการอนุมัติงบประมาณ ผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์แล้วจึงมีโอกาสลดลงอีกไม่มาก โดยผู้ตอบแบบสอบถามที่มีมุมมองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงมีจานวนมากขึ้น ดัชนีคาดการณ์จึงยังคงอยู่ในเกณฑ์ "ไม่เปลี่ยนแปลง (Unchanged)" จาก 1.11% ในรุ่นอายุ 5 ปี และ 1.28% ในรุ่นอายุ 10 ปี ณ วันที่ทาการสารวจ (3 ก.พ. 63) โดยปัจจัยหนุนสำคัญ ได้แก่ อุปสงค์อุปทานในตลาดตราสารหนี้ที่ทรงตัว การขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัว แนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลกที่ทรงตัว และ Fund flow จากต่างชาติที่ลดลง
 
                             FETCO IAA ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเชิญร่วมสัมมนา "โอกาสหุ้นไทย ภายใต้เศรษฐกิจโลกผันผวน" 8 พ.ย. นี้
                            FETCO IAA ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเชิญร่วมสัมมนา "โอกาสหุ้นไทย ภายใต้เศรษฐกิจโลกผันผวน" 8 พ.ย. นี้
                         ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นสู่เกณฑ์ร้อนแรง นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ
                            ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นสู่เกณฑ์ร้อนแรง นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ
                         "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นสู่เกณฑ์ทรงตัว  นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากภาคท่องเที่ยวและการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟด"
                            "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นสู่เกณฑ์ทรงตัว  นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากภาคท่องเที่ยวและการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟด"
                         "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นักลงทุนคาดหวังภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วยหนุนความเชื่อมั่น"
                            "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นักลงทุนคาดหวังภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วยหนุนความเชื่อมั่น"
                         "ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนคงตัวในเกณฑ์ร้อนแรง นักลงทุนคาดหวังแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 และฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ"
                            "ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนคงตัวในเกณฑ์ร้อนแรง นักลงทุนคาดหวังแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 และฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ"
                         ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลงสู่เกณฑ์ซบเซา นักลงทุนคาดหวังแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 และฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
                            ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวลงสู่เกณฑ์ซบเซา นักลงทุนคาดหวังแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 และฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
                         “ดัชนีฯ เดือนมกราคม 2563 ลดลงอยู่ในโซนทรงตัวเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน นักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การเมือง”
                            “ดัชนีฯ เดือนมกราคม 2563 ลดลงอยู่ในโซนทรงตัวเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน นักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การเมือง”
                         FETCO นำส่งผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุน
                            FETCO นำส่งผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุน