นายประภัตร กล่าวว่า คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) มีความยาว 104 กิโลเมตร ตั้งแต่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ถึงอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พื้นที่เกษตร 250,000 ไร่ ได้รับประโยชน์กว่า 50,000 ครัวเรือน มีความจุประมาณ 35 ลบ.ม./วินาที แต่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ น้ำในคลองแห้ง ทำให้ข้าวที่อยู่ในระยะกำลังจะออกรวง ซึ่งต้องการน้ำเริ่มจะได้รับความเสียหาย อีกทั้งระดับน้ำอยู่ต่ำจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องสูบน้ำช่วย ดังนั้นในวันนี้จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับเกษตรกร ซึ่งผลการประชุมได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 12 กรมชลประทาน ร่วมกับสำนักเครื่องจักรกล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาด 3 ลบ.ม/วินาที จำนวน 6 เครื่อง บริเวณคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) และคลองมะขามเฒ่า-กระเสียว (คลอง มก.) คาดว่าจะทำให้น้ำในคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) เพิ่มขึ้นรวมประมาณ 18 ลบ.ม./วินาที และสามารถส่งน้ำไปถึงปลายคลองได้ ซึ่งจะเริ่มติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้ โดยขอความร่วมมือเกษตรกรหยุดสูบน้ำตั้งแต่เวลา 18.00 น. (วันนี้) เป็นต้นไป พร้อมทั้งมั่นใจว่าในอีก 2 วันน้ำจะลงมาถึงปลายคลองอย่างแน่นอน ซึ่งในวันเสาร์ที่ 10 ส.ค. นี้ จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งถึงผลการแก้ไขปัญหาและการแบ่งจัดสรรน้ำในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายประภัตร ได้กล่าวย้ำว่ายังต้องอาศัยความร่วมมือของชาวนาที่ต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน ไม่แย่งน้ำจากตอนบน เพราะจะทำให้ปลายคลองขาดน้ำและข้าวล้มตาย ตลอดจนหากพื้นที่ใดเก็บเกี่ยวแล้ว ขอให้หยุดทำการเพาะปลูกต่อเนื่องออกไป
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 25/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 9-18 ต.ค.นี้
สทนช. รุกเปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง จับมือทุกหน่วยเตรียมรับมือมวลน้ำจากภาคเหนือและฝนชุดต่อไป
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 15/2568 เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง วันที่ 7 - 13 สิงหาคม 2568
สทนช. ร่วมขับเคลื่อน "โครงการพระราชดำริด้านน้ำ" เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เดินหน้าสืบสานพระราชปณิธาน นำร่องต่อยอด 22 โครงการ
สทนช. ขับเคลื่อนความร่วมมือ ขยายวงหารือร่วมเมียนมาแก้ปัญหาน้ำกก จับมือ MRC เดินหน้าติดตามคุณภาพน้ำข้ามพรมแดน