ปัจจุบันสถานการณ์มะเร็งในหญิงไทยมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่โชคดีที่เราสามารถมีวิธีการสืบค้นได้มากขึ้น มีการตรวจพบในระยะต้นๆได้มากขึ้น และพบได้กับคนไข้ในกลุ่มที่อายุน้อยมากขึ้น มะเร็งในผู้หญิงเรา มีมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม
มักพบในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่ก็อาจพบได้ในคนที่มีอายุน้อย ๆ เช่น 20 ปี โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีคู่นอนหรือมีสามีหลายคน หรือมีสามีที่มีความสำส่อนทางเพศ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้
จากข้อมูลจากสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ปี 2560 ระบุว่าในแต่ละปีจะพบว่าสตรีไทยป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ 5,513 ราย และหากลงลึกไปอีกจะพบว่าในแต่ละวันจะมีสตรีป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มถึง 15 ราย และแต่ละปีจะมีสตรีไทยเสียชีวิตเพราะมะเร็งปากมดลูกถึง 2,251 ราย หรือเฉลี่ยจะมีสตรีไทยเสียชีวิตเพราะมะเร็งปากมดลูกวันละ 6 ราย ผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ถึง 8,184 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก
ทั้งนี้ สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากไวรัสเอชพีวีที่ก่อให้เป็นมะเร็งปากมดลูก โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้จะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุในอวัยวะสืบพันธุ์ จึงทำให้เชื้อไวรัสสามารถเข้าไปอยู่ที่ปากมดลูก ทำให้ปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ของปากมดลูก จนกลายเป็นเซลล์หรือเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง (ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก)
และเป็นมะเร็งในที่สุด
การรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก สามารถรักษาด้วยการผ่าตัด การใช้เคมีบำบัด และการฉายแสง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค และชนิดของเซลที่ทำให้เกิดโรค หากเป็นในระยะเริ่มต้นส่วนใหญ่จะรักษาด้วยการผ่าตัด หากเป็น ระยะ 2 และ 3 ขึ้นไป การรักษาเป็นการฉายแสงและหรือ ร่วมกับยาเคมีบำบัด โดยการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 มีการประยุกต์เทคนิคการผ่าตัดส่องกล้องที่ทั่วโลกใช้มานาน เป็นการผ่าตัดแบบไร้แผลให้ผู้ป่วยมะเร็งนรีเวช แทนการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องหรือส่องกล้องทางหน้าท้องที่ต้องตัดมดลูกออก โดยการสอดกล้องเข้าไปทางช่องคลอดแล้วใช้วิธีการที่พัฒนาขึ้นในการแยกปากมดลูกและท่อปัสสาวะได้ชัดเจน ก่อนจะตัดปากมดลูกที่เป็นมะเร็งออก ทำให้สามารถรักษามดลูกของผู้ป่วยไว้ได้ ซึ่งผู้ป่วยเป็นมะเร็งส่วนใหญ่มักสิ้นหวังกับการมีชีวิต คิดว่าเป็นมะเร็งแล้วจะต้องตายแน่ๆ แต่จริงๆ แล้ว มะเร็งยิ่งรักษาเร็วยิ่งมีโอกาสรอดชีวิตสูง และกำลังใจของผู้ป่วยนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
และการป้องกันตัวเองจากมะเร็งปากมดลูก สำหรับผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกภายใน 3 ปีหลังการมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เว้นแต่กับผู้ชายที่จะให้เป็นพ่อของลูก และหากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์อาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไปโดยการตรวจแปปสเมียร์ (Pap test) ร่วมกับการตรวจหาเชื้อ HPV ส่วนผู้หญิงที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ที่มีอายุตั้งแต่ 9 - 26 ปีควรฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับต่อต้านเชื้อ HPV ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
โดยปีที่ผ่านมา(2561) รพ.ราชวิถีมีผู้ป่วยด้านมะเร็งนรีเวช จำนวน 639 คน อาทิ มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูกและมะเร็งนรีเวชอื่นๆ เป็นต้น และปัจจุบันยังมีผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รอรับการรักษา ทั้งด้วยการผ่าตัดการให้ยาเคมีบำบัด หากเขาเหล่านั้นได้รับการรักษาเร็วโอกาสที่จะหายและสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติมากขึ้นจากการที่ รพ.ราชวิถี มีผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รอรับการรักษาอยู่จำนวนมากนั้น เนื่องจากรพ.เป็นศูนย์รับส่งต่อที่ใหญ่ที่สุดของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงมีการรอคิวในการรักษาที่ค่อนข้างยาวและผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ยากไร้ มีฐานะยากจน ดังนั้นทางรพ.ราชวิถีและมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี จึงได้จัดตั้ง "กองทุนพิชิตมะเร็ง มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี" เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ ให้ได้มีโอกาสรับการรักษาและสามารถกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน สามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชี "มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี" หมายเลขบัญชี 0512163221 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี หรือ สอบถามโทร 02-3547997-9หรือ www.rajavithifondation.com มาร่วมต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่รอโอกาสทางการรักษา
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ สำคัญอย่างไร?
รู้เท่าทัน "โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง" ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
รพ.เมดพาร์ค ชูแคมเปญใหม่ ชวนประชาชน ตรวจคัดกรองมะเร็งระบบทางอาหาร
"ส่องกล้องลำไส้ใหญ่" ใครบ้าง?... ที่ควรตรวจ
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มอบเครื่องส่องกล้องลำไส้ใหญ่ จำนวน 10 ชุด รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ให้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี
"มะเร็งลำไส้ใหญ่" ภัยร้ายที่มักพบเมื่อสาย…แพทย์ รพ.วิมุต ชี้ "ส่องกล้องลำไส้ใหญ่" จำเป็น ย้ำอายุ 45 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองแม้ไม่มีอาการ
"มะเร็งลำไส้ใหญ่" ตรวจพบก่อน เพิ่มโอกาสรักษาหาย
"มะเร็งลำไส้ใหญ่"... ป้องกันได้ด้วยการ ตรวจส่องกล้อง