กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 8 จังหวัดตะวันออกและภาคใต้ ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในระยะนี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง กอปรกับประกาศกรมทรัพยากรธรณี ฉบับที่ 3/2562 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 ให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม เนื่องจากหลายพื้นที่เริ่มชุ่มน้ำ ทำให้มีความอ่อนไหวต่อการเกิดดินถล่ม ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี พื้นที่ที่ต้องติดตามเฝ้าระวังพิเศษ ได้แก่ ระนอง บริเวณอำเภอเมืองระนอง อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น และอำเภอกะเปอร์ และพังงา บริเวณอำเภอตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอ ท้ายเหมือง อำเภอคุระบุรี และอำเภอกะปง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากน้ำป่าไหลหลากหรือดินถล่ม หากประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่ามีแนวโน้มอาจเกิดอันตรายหรือผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ให้พิจารณาสั่งการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ ชวนคนไทยตรวจสอบระบบไฟฟ้า 7 จุดควรระวัง ทั้งในบ้านและอาคารด้วยตัวเองเบื้องต้น รับมือฉลองเทศกาลสงกรานต์ พร้อมแนะบริการตรวจสอบการจ่ายไฟฟ้าแรงดันสูงในอาคาร Busduct / Busway หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพื่อเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยให้กับลูกค้ามากขึ้น จากสถิติกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ปัจจุบันสาธารณภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคืออัคคีภัย 73% ทั้งในพื้นที่บ้านและอาคารขนาดใหญ่ ทั้งนี้สา
สงกรานต์นี้ เดินทางอย่างไร้กังวล! FWD ประกันชีวิต แจกประกันอุบัติเหตุฟรี 30,000 สิทธิ์
—
เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเดินทาง เพื่อช่วยลดควา...
มท.1 มอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตามโครงการ "มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน" ในพื้นจังหวัดกาญจนบุรี
—
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ...
สกสว.พร้อมเป็นโซ่ข้อกลางรับมือเอลนีโญ สานทัพมหาดไทยหนุนทำแผนปฏิบัติการ
—
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดการประชุมทำแผนป...
ไทยเบฟ สนับสนุนทีม USAR ช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี
—
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย คุณประวิช สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด...
ปิดท้ายคาราวาน "ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก" ส่งต่อ "การให้" ที่ยั่งยืน กับโครงการ "ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 23" สู่พี่น้องชาวพะเยา
—
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ...
LINE ประเทศไทย เปิดตัว LINE ALERT บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง นำร่องความร่วมมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ และกรมอุตุนิยมวิทยาฯ
—
LINE ประเทศไทย นำร...
28 เม.ย. วิศวะมหิดล - ปภ. เชิญร่วมสัมมนามาตรฐานบุคลากรกู้ภัยทางน้ำ-โครงการจัดตั้งสถานีฝึกกู้ภัยทางน้า (Water Rescue Training Center)
—
ประเทศไทยมีชื่อเสีย...