GS1 Thailand มุ่งสู่การขับเคลื่อนภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพิ่มความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และมูลค่าสินค้าอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สถาบันรหัสสากล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ GS1 Thailand จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ภายใต้หัวข้อ "Driving the Business with Advanced Technologies" โดยมีเป้าหมายมุ่งไปสู่การขับเคลื่อนภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงตามทิศทางของ GS1 Global โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ Supply Chain และการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้งานเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสทางการค้าทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยมีผู้ประกอบการสมาชิกสถาบันรหัสสากล ผู้ให้บริการด้านระบบบาร์โค้ดและอาร์เอฟไอดี รวมถึงบุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐ และมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้กว่า 500 คน ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ 202 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
          นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมว่า สถาบันรหัสสากล หรือ GS1 Thailand เป็นหน่วยงานหลักภายใต้ ส.อ.ท. ซึ่งมาตรฐานสากล GS1 นั้น เปรียบเสมือนเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยบริหารจัดการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าให้กับทุกธุรกิจได้ ที่ผ่านมา ส.อ.ท. ได้กำหนดนโยบาย Industry Transformation ที่มุ่งเน้นส่งเสริมและผลักดันให้อุตสาหกรรมไทยทุกระดับสามารถก้าวทันเทคโนโลยี เกิดความตระหนักและวางแผนปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดได้ในยุค Digital Disruption ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก การจัดงานประชุมใหญ่ภายใต้หัวข้อ "Driving the Business with Advanced Technologies" ในครั้งนี้ จึงสอดคล้องกับนโยบาย ส.อ.ท. ที่จะเป็นองค์กรหลักนำพาผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมให้ก้าวไปสู่การแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยวันนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งในและต่างประเทศมาแชร์องค์ความรู้และประสบการณ์ในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาช่วยบริหารจัดการ Supply Chain โดยเฉพาะการตรวจสอบย้อนกลับของผลิตภัณฑ์ (Traceability) และเทคโนโลยี Blockchain ที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค เพิ่มความน่าเชื่อถือ และเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้อย่างยั่งยืน
          นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา ประธานคณะกรรมการสถาบันรหัสสากล และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเสริมว่า สถาบันรหัสสากล หรือ GS1 Thailand เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร มีหน้าที่หลักในการเป็นนายทะเบียนออกเลขหมายบาร์โค้ดตามมาตรฐานสากล GS1 ที่ใช้ได้ทั่วโลก และทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการนำระบบมาตรฐานสากล GS1 ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สถาบันฯ ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเป็นประจำทุกปี เพื่อรายงานผลการดำเนินงานประจำปี พร้อมเผยแพร่ความรู้และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้แก่สมาชิก โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา ได้จัดงานฉลองการจัดตั้งสถาบันฯ ในโอกาสครบรอบ 30 ปี และจัดการประชุมในหัวข้อ "30 ปี บาร์โค้ด ก้าวไกล Advancing to The Digital Era" เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับธุรกิจและพัฒนาประเทศ ซึ่งมีสมาชิกที่สนใจและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานกว่า 400 คน
          ในปีนี้ สถาบันฯ ได้จัดให้มีช่วงการแนะนำบริการใหม่ๆ จากทางสถาบันฯ รวมถึงอัพเดตโครงการ ที่ร่วมดำเนินการกับภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการตรวจสอบย้อนกลับกัญชาทางการแพทย์ที่กำลังดำเนินงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อีกทั้งมีการบรรยายหัวข้อที่น่าสนใจที่เป็นประโยชน์ ต่อผู้ประกอบการมากมาย อาทิ "Agriculture Product Traceability" โดย Asian Development Bank, "Global Trend of GS1" โดย GS1 Global Office, "Next Generation Manufacturing 2019" โดย ส.อ.ท. สำหรับช่วงบ่าย ผู้แทนจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติมาบรรยายเรื่อง "2D Barcode for Food Safety" ซึ่งจะนำเสนอแนวทางการปรับเปลี่ยนบาร์โค้ดในอุตสาหกรรมค้าปลีก และสุดท้ายเป็นการบรรยายเรื่อง "Success case: Food Traceability & Blockchain Technology" โดยบริษัท LINA Network ซึ่งเป็น Partner ของสถาบันฯ ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Blockchain" นายธนารักษ์ กล่าว




GS1 Thailand มุ่งสู่การขับเคลื่อนภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพิ่มความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และมูลค่าสินค้าอย่างยั่งยืน

GS1 Thailand มุ่งสู่การขับเคลื่อนภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพิ่มความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และมูลค่าสินค้าอย่างยั่งยืน GS1 Thailand มุ่งสู่การขับเคลื่อนภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพิ่มความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และมูลค่าสินค้าอย่างยั่งยืน

ข่าวo:busวันนี้

CP AXTRA Continues Strong Growth in Q1/2025 with Total Revenue of Baht 129,950 Million Net Profit of Baht 2,643 Million; Online Sales Surge, Reinforcing Its Position as Thailand's No. 1 Grocery E-Commerce

CP AXTRA Public Company Limited ("the Company" or "CPAXT"), the operator of leading wholesale and retail brands Makro and Lotus's, announced its Q1/2025 results, reporting total revenue of Baht 129,950 million. The adjusted net profit increased by 10.3% (YoY), driven by strong performance across both the wholesale and retail businesses. Key contributors to this growth included new store openings and robust omnichannel sales, fresh food sales, the Company's private label products, and exclusive

โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ในเครือโรงพยาบาลพ... "เปาโล โชคชัย 4" มุ่งพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ดูแลด้วยใจ ใส่ใจทุกสิทธิ์ — โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ในเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ภายใต้กลุ่ม BDMS ยืนยันเจตนารมณ...

แม้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดธุรกิจ Food D... finbiz by ttb แนะ 5 กลยุทธ์สร้างความโดดเด่นให้ร้าน SME บนแพลตฟอร์ม Food Delivery — แม้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดธุรกิจ Food Delivery ของประเทศไทย มีความเติ...

โชว์กำไรนิวไฮ 1,218 ล้านบาท เติบโต 10.3% ... TIDLOR ผลประกอบการ Q1/68 แข็งแกร่ง ธุรกิจนายหน้าประกัน-สินเชื่อ โตต่อเนื่อง — โชว์กำไรนิวไฮ 1,218 ล้านบาท เติบโต 10.3% (YoY) พร้อมคุม NPL ต่ำ 1.78% เตรียม...

บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ระบุ ตั้งแต... QTC เดินเกมรุกธุรกิจ Green Energy โชว์รายได้ไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 2.8% — บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ระบุ ตั้งแต่ต้นปีประเทศไทยเผชิญความท้าทาย ทั้งเศรษฐ...