เอชเอสบีซีชี้สมดุลระหว่างนวัตกรรมและกฎระเบียบนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          การให้ความสำคัญกับนวัตกรรมดิจิทัลและกฎระเบียบอย่างเท่าเทียมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนที่กำลังขยายตัว ทั้งนี้ใจความดังกล่าวเป็นสาระสำคัญจากธนาคารเอชเอสบีซีในงาน ASEAN-EU Business Summit ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร
          เศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมูลค่า 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 และคาดว่าจะขยายตัวเป็น 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568
          อย่างไรก็ตาม นายจอห์น ชู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารเอชเอสบีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า ความร่วมมือเพิ่มเติมในแนวทางการกำกับดูแลและกฎระเบียบทั่วทั้งภูมิภาคเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้อานิสงส์อย่างเต็มที่จากเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเจริญเติบโตนี้
          "ขณะที่เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน แต่กฎระเบียบที่กำกับดูแลกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น โดยสามารถก่อให้เกิดความท้าทายสำหรับธุรกิจระดับโลกที่ประกอบกิจการเทคโนโลยีระดับโลก วิถีทางที่ดีที่สุดในการจัดการปัญหานี้ทำได้ด้วยการที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่กำกับดูแล และองค์กรภาคธุรกิจต้องทำงานร่วมกันโดยอาศัยความร่วมมือในระดับภูมิภาค"
          ในอีก 10 ปีข้างหน้า มีประเด็นสำคัญบางเรื่องที่จะเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ รวมถึงการปรับข้อมูลให้เข้ากับท้องถิ่น (Data localisation) เทคโนโลยี Cloud Computing ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)
          ในการแสดงปาฐกถา ธนาคารเอชเอสบีซีได้ให้ข้อเสนอแนะ 4 ประการถึงวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่มีพลวัตและความร่วมมือกันมากขึ้นระหว่างองค์กรธุรกิจ รัฐบาล และผู้กำกับดูแลกฎระเบียบแบบองค์รวม (Holistic Regulation) เพื่อดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องและชอบธรรมของระบบการเงินระดับโลก การพัฒนากรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสมโดยไม่คำนึงถึงแบบจำลองธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกองค์กรธุรกิจ 
          คำนึงถึงกิจกรรมเป็นหลัก (Activities-Based) ต้องหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์การกำกับดูแล 2 ชั้น (two-tier regulatory regime) เพื่อลดความเสี่ยงในการหาประโยชน์จากความแตกต่างในการกำกับดูแล (regulatory arbitrage) การให้บริการแบบเดียวกันด้วยความเสี่ยงระดับเดียวกันต้องหมายถึงการบังคับใช้กฎระเบียบเดียวกันตั้งแต่การปฏิบัติงานอย่างรอบคอบและระมัดระวังไปจนถึงการคุ้มครองลูกค้าและข้อมูล
          การประสานงานระดับภูมิภาค (Regional coordination) ผู้กำหนดนโยบายของอาเซียนควรพิจารณาแผนกลยุทธ์ในอนาคต เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้แผนแม่บทไอซีที (ICT Masterplan 2020) การพัฒนาแผนปฏิบัติการกรอบการบูรณาการอาเซียน (DIFAP) และกรอบการกำกับดูแลข้อมูลดิจิทัล (Framework on Digital Data Governance) อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกระบวนการบริหารองค์กรที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมวัตถุประสงค์เหล่านี้ การดำเนินการดังกล่าวจะเพิ่มความน่าเชื่อถือของอาเซียนในการเป็นฐานการผลิตทางเลือกสำหรับธุรกิจระดับโลก 
          มาตรฐานระดับโลก (Global standards) ควรมีการประสานงานระดับโลกในด้านต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ เรามุ่งหวังจะกระตุ้นให้ผู้กำกับดูแลภาคบริการการเงิน เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลและการแข่งขันทางการค้า รัฐบาลแห่งชาติ (national governments) องค์กรเหนือชาติ (supranational bodies) และอุตสาหกรรมให้ทำงานร่วมกันในเวทีเสวนาระดับโลกเพื่อมุ่งไปสู่ความต้องการที่สอดคล้องต้องกันมากยิ่งขึ้น
          นายชู กล่าวต่อว่า "ผู้กำหนดนโยบายควรพิจารณาว่าจะสามารถกำหนดกฎเกณฑ์การกำกับดูแลแบบองค์รวมที่เชื่อมโยงและสอดประสานกันได้อย่างไร โดยเป็นกฎเกณฑ์ที่องค์กรธุรกิจทุกขนาดและทุกประเภทสามารถที่จะพัฒนานวัตกรรมตามศักยภาพ และผู้กำหนดนโยบายมีความสามารถเพียงพอในการตรวจสอบดูแลและบังคับใช้กฎระเบียบ"

          1. ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย เอชเอสบีซีเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกในประเทศไทย เปิดสำนักงานให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2431 ธนาคาร เอชเอสบีซีเปิดให้บริการด้านการเงินและการธนาคาร ทั้งบริการด้านเงินฝาก สินเชื่อธุรกิจ พาณิชย์ธนกิจ ธุรกิจสถาบันการเงิน บริการด้านบริหารเงินและตลาดทุน บริการหลักทรัพย์ บริการการค้าและเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศ และบริการจัดการด้านการเงินและบริหารสภาพคล่องแก่ลูกค้าประเภทองค์กร 
          2. เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 
          เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มเอชเอสบีซี มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กลุ่ม เอชเอสบีซีให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยเครือข่ายสาขาใน 66 ประเทศและเขตปกครองทั้งในยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ และละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ เอชเอสบีซี เป็นสถาบันผู้ให้บริการด้านการเงินและการธนาคารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีสินทรัพย์รวม 2,558 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561)
เอชเอสบีซีชี้สมดุลระหว่างนวัตกรรมและกฎระเบียบนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวo:finวันนี้

CIMB THAI records net profit of THB 1,830.4 million for 9M2025

Mr. Wut Thanittiraporn, President and Chief Executive Officer, CIMB Thai Bank PCL (CIMB THAI) commented on the unreviewed consolidated financial results for the nine months ended 30 September 2025, CIMB THAI Group's consolidated operating income decreased by THB 236.1 million or 2.2% year-on-year ("YoY") to THB 10,549.4 million from 9M2024. The lower operating income was mainly due to the 15.1% decline in net interest income and a 0.5% decrease in net fee and service income, offset with a 34.0%

นายวุธว์ ธนิตติราภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ... ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิ งวด 9 เดือน ปี 2568 จำนวน 1,830.4 ล้านบาท — นายวุธว์ ธนิตติราภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนา...

นางศุภมาศ เผ่าธัญลักษณ์ (กลาง) ผู้อำนวยกา... กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มอบโชคใหญ่ส่งท้ายปี ชวนลุ้นรับรางวัล รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท — นางศุภมาศ เผ่าธัญลักษณ์ (กลาง) ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท อยุ...

ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม "วา... ธ.ทิสโก้ จัดกิจกรรมวางแผนการเงินให้พนักงาน ต่อเนื่องจาก "วันวางแผนการเงินโลก" — ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม "วางแผนการเงิน" ณ อาคารทิสโก้ทาวเวอร...

นายอารภัฏ สังขรัตน์(ที่ห้าจากซ้าย) ประธาน... เมย์แบงก์ จัดสัมมนาเจาะลึกโอกาสการลงทุน ท่ามกลางศึกยักษ์ใหญ่จีน-สหรัฐ — นายอารภัฏ สังขรัตน์(ที่ห้าจากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก...