finbiz by ttb แนะใช้สกุลเงินท้องถิ่นสร้างความแข็งแกร่ง ลดความผันผวนในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนเช่นนี้ ผู้ประกอบการต้องเริ่มมองหาวิธีบริหารความเสี่ยงที่จะทำให้ธุรกิจมีความเสถียรมากที่สุด เพื่อให้สามารถบริหารธุรกิจต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง finbiz by ttb จึงแนะให้หันมามองสกุลเงินท้องถิ่นที่จะมีส่วนช่วยลดความผันผวนในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

finbiz by ttb แนะใช้สกุลเงินท้องถิ่นสร้างความแข็งแกร่ง ลดความผันผวนในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ได้ทำหน้าที่เป็นเสมือน "ภาษากลาง" ของระบบการค้าโลก ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในระบบการเงินระหว่างประเทศ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแส De-Dollarization หรือการลดการพึ่งพาดอลลาร์ได้เริ่มชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ ทั้งจากแรงผลักภายในและปัจจัยจากภายนอก เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการปรับตัวของประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการสร้างความหลากหลายในระบบการเงินของตนเอง การเปลี่ยนแปลงนี้เปิดโอกาสให้สกุลเงินอื่น ๆ เช่น ยูโร (EUR) และปอนด์สเตอริง (GBP) ได้มีบทบาทมากขึ้นในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายและความยืดหยุ่นในระบบการเงินโลก finbiz by ttb แนะใช้สกุลเงินท้องถิ่นสร้างความแข็งแกร่ง ลดความผันผวนในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ การลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐยังช่วยให้ประเทศต่าง ๆ สามารถจัดการกับความเสี่ยงทางการเงินได้ดีขึ้น และสร้างความมั่นคงให้เศรษฐกิจภายในประเทศ ในขณะเดียวกันหลายประเทศในทวีปเอเชีย ก็มีการสนับสนุนให้ใช้สกุลเงินท้องถิ่น ประกอบกับการที่จีนเดินเกมรุกด้วยการผลักดันให้หยวนจีน (CNY) ขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินหลักในธุรกิจระหว่างประเทศ

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของระบบการเงินโลกที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนในระยะยาว

เมื่อเงินหยวนจีนเติบโต และดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สกุลเงินสัดส่วนการใช้งาน (%)
ข้อมูล ณ มิ.ย. 2023
สัดส่วนการใช้งาน (%)ข้อมูล ณ มิ.ย. 2024
ดอลลาร์สหรัฐ (USD)42.02%47.08%
ยูโร (EUR)31.25%22.72%
ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP)6.88%7.08%
หยวนจีน (CNY)2.77%4.61%

ที่มา: SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication)

จากข้อมูลข้างต้น ดอลลาร์สหรัฐยังคงครองตำแหน่งสกุลเงินหลักในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 42.0% ในเดือน มิ.ย. ปี 2023 เป็น 47.08% ในเดือนมิ.ย. ปี 2024 ขณะที่หยวนจีนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 2.77% เป็น 4.61% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นการที่หยวนจีนแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 4 แทนที่เยนญี่ปุ่น เมื่อดูที่ตัวเลขอาจจะดูไม่มาก แต่ความเป็นจริงคือการเติบโตเกือบเท่าตัวของหยวนจีนในการใช้เป็นสกุลเงินในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ และเมื่อมาพิจารณาความผันผวนในช่วงปี 2023- 2025 ดอลลาร์สหรัฐ ก็มีความผันผวนถึง 9% ในขณะที่สกุลเงินท้องถิ่นในเอเชียไม่ว่าจะหยวนจีน บาทไทย หรือเยนญี่ปุ่น มีความผันผวนเพียง 3% เท่านั้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง

1.ความพยายามของจีนในการส่งเสริมการใช้หยวน

จีนได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการใช้หยวนจีนในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ เช่น การขยายระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน (CIPS) และการจัดตั้งธนาคารเคลียร์ริ่งหยวนจีนในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังขาในด้านการควบคุมเงินทุนและความไม่โปร่งใสในตลาดการเงิน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการยอมรับหยวนจีนในระดับสากล

2.การลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ

บางประเทศเริ่มลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยหันมาใช้สกุลเงินท้องถิ่นหรือสกุลเงินอื่น ๆ เช่น หยวนจีน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความผันผวนของดอลลาร์และมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

ทำไมประเทศในเอเชียควรใช้สกุลเงินท้องถิ่น?

การใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียจะสร้างความได้เปรียบหลายประการ ดังนี้

ความได้เปรียบรายละเอียด
ลดต้นทุนธุรกรรมไม่ต้องผ่านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยลดความเสี่ยงจากความผัวผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อแปลงสกุลและค่าธรรมเนียม
เสถียรภาพในระดับภูมิภาคช่วยให้ประเทศมีภูมิคุ้มกันจากความผันผวนของดอลลาร์สหรัฐ
ส่งเสริมนโยบายการเงินร่วมกันเอเชียสามารถร่วมมือกำหนดแนวนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่ตอบโจทย์ภูมิภาค
เพิ่มความยืดหยุ่นในการค้าระดับทวิภาคีสร้างความแข็งแกร่งระดับภูมิภาค ในการเจรจาและทำธุรกิจได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ขึ้นกับตลาดทุนตะวันตก

แม้ดอลลาร์สหรัฐจะยังคงเป็นสกุลเงินหลักในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ แต่แนวโน้มการใช้สกุลเงินท้องถิ่น โดยเฉพาะหยวนจีนกำลังเพิ่มขึ้นในบางภูมิภาค การพิจารณาใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าระหว่างประเทศอาจเป็นทางเลือกที่ดีในการลดความเสี่ยงและต้นทุนทางการเงิน

สำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนในเอเชีย การเข้าใจและติดตามแนวโน้มนี้จะช่วยให้สามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์ทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รับมือความผันผวนของเงินตราต่างประเทศ ด้วยบริการ ttb Local Currency Solutions

จากข้อได้เปรียบในการใช้สกุลเงินท้องถิ่น ทีทีบีจึงมีโซลูชันเพื่อให้ผู้ประกอบการพร้อมรับมือกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการคาดเดาได้ยาก ครอบคลุมทั้งบริการ ttb Local Currency Solutions และบริการการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดระบบนิเวศใหม่ของอัตราแลกเปลี่ยน (New FX Ecosystem) เพื่อให้ผู้นำเข้า-ส่งออกสามารถรับมือกับความผันผวนเงินตราต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทีทีบีมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันบริหารความเสี่ยงที่สามารถตอบโจทย์ผู้นำเข้า-ส่งออก ด้วยบริการ ttb Local Currency Solutions เพื่อช่วยผู้ประกอบการบริหารจัดการธุรกิจด้วยสกุลเงินท้องถิ่นซึ่งครอบคลุมเงินสกุลท้องถิ่นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยกว่า 90% อาทิ สกุลหยวนจีน รูปีอินเดีย ริงกิตมาเลเซีย ดองเวียดนาม วอนเกาหลี เป็นต้น โดยมีบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • "Yuan Pro Rata Forward" เพื่อลดความผันผวน และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันความเสี่ยงจากบริการรับจองอัตราแลกเปลี่ยนด้วยสกุลหยวนจีน โดยทีทีบี เป็นธนาคารแรกที่ให้บริการ
  • บัญชีสำหรับบริหารหลายสกุลเงิน (ttb multi-currency account) สะดวก คล่องตัว ด้วยการบริหารจัดการเงินสกุลหลักและสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เพียงใช้บัญชีเดียวสามารถใช้ซื้อ ขาย รับ จ่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สะดวกมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ควบคู่ไปกับธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจอย่าง ทีทีบี บิสสิเนสวัน (ttb business one)
  • สามารถเบิกใช้วงเงินกู้ Trade Finance ได้ทั้งสกุลเงินหลักและสกุลเงินท้องถิ่นได้ถึง 13 สกุลเงิน รวมถึงหยวนจีน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินกับคู่ค้า

ttb Local Currency Solutions จึงเป็นโซลูชันที่ตรงใจ เข้าถึงได้ ให้มากกว่า ที่จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนธุรกิจและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจลง รวมถึงเพิ่มโอกาสขยายตลาดไปยังเป้าหมายใหม่และเจรจาการค้าได้ง่ายขึ้น โดยธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการและโซลูชันที่มุ่งตอบโจทย์ผู้นำเข้า-ส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงในการทำการค้าระหว่างประเทศ พร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์ ก้าวผ่านความท้าทายต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศและบริการด้านการค้าระหว่างประเทศ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าหน้าที่บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจของท่าน (หากท่านเป็นลูกค้าธุรกิจของทีทีบี) หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต โทร. 0 2643 7000 วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ 08:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดธนาคาร


ข่าวการค้าระหว่างประเทศ+ระหว่างประเทศวันนี้

PTTT ผนึก Centrica เดินหน้ายกระดับศักยภาพการแข่งขันในตลาด LNG ระดับเอเชีย

PTT International Trading Pte Ltd (PTTT) และ Centrica LNG Company Limited (Centrica) ลงนามในสัญญา LNG Sale and Purchase Agreement (SPA) สำหรับการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ระยะยาว ตามกรอบความร่วมมือในข้อตกลงเบื้องต้น (Heads of Agreement : HoA) ที่ลงนามเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมี นายจตุรงค์ วรวิทย์สุรวัฒนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) (กลาง) นางธนันต์พร ตั้งพิทักษ์กุล รักษาการกรรมการผู้จัดการ PTTT (ซ้าย) นายไวธยางค์

เส้นทางการค้าใหม่จากโอกาสทางตลาดใหม่ ๆ แล... ผลสำรวจจากเฟดเอ็กซ์ ชี้ 85% ของ SMEs ในเอเชียแปซิฟิกมั่นใจการค้ากับยุโรปยังเติบโตต่อเนื่อง — เส้นทางการค้าใหม่จากโอกาสทางตลาดใหม่ ๆ และความท้าทายด้านการค้...

สองนักแสดงชื่อดัง มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง แ... มาย-อาโป เตรียมร่วมงาน THAI SELECT FESTIVAL ที่อเมริกา — สองนักแสดงชื่อดัง มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และ อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ เตรียมร่วมงาน "THAI SELEC...