นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน "SDGs หรือ Sustainable Development Goals" ขององค์การสหประชาชาติ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ควบคู่กับความปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมไทยให้ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ "Changes for the Better" หรือ "การเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่า"
"ในปี 2563 นี้ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ได้ก้าวเข้าสู่วาระครบรอบ 100 ปีแห่งการประกอบการ เรายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าประกอบธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งสู่ความสำเร็จของการสร้างความเติบโตทางธุรกิจ ให้บรรลุยอดขายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้านเยน รวมถึงการยกระดับภาพลักษณ์จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสู่แบรนด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ดีในอนาคต"
"แม้สภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ที่ผ่านมาจะมีการชะลอตัว อันมีผลมาจากภาวะการลดต่ำลงของธุรกิจภาคส่งออกและการลดต่ำลงของอัตราการบริโภคภายในประเทศ แต่ภาพรวมของตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศในประเทศไทยยังคงมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท มีการขยายตัวไม่ต่ำกว่า 6 % ทั้งในกลุ่มของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และกลุ่มที่พักอาศัย สำหรับมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ในปีที่ผ่านมา เครื่องปรับอากาศภายในบ้านและปั๊มน้ำ ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่พร้อมฟังก์ชันพิเศษ "Fast Cooling" เย็นเร็วทันใจในปุ่มเดียว และฟิลเตอร์กรองอากาศ PM 2.5 Filter ประสิทธิภาพสูงที่ช่วยกรองและตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอนด้วยประจุไฟฟ้า และจากข้อมูลสำรวจแนวโน้มการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่พบว่า ผู้บริโภคกว่า 50% ยังคงเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผลประกอบการในปีงบประมาณ 2562 ของบริษัทฯ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้ จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้กว่า 15,500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตหรือทำได้สูงกว่ายอดขายรวมที่ทำได้ในปีก่อนหน้านี้ เพิ่มขึ้นกว่า 7%"
นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า "ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เดินหน้ายกระดับการบริการหลังการขาย รวมถึงพัฒนาช่องทางการติดต่อ ผ่าน Hot Line 1325 เพื่อสร้างมาตรฐานและประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยมแก่ผู้บริโภค ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในปี 2563 บริษัทฯ จึงทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาศักยภาพศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ด้วยการขยายสาขาศูนย์บริการแต่งตั้งมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ให้ครอบคลุมพื้นที่ใหม่ๆ ทั่วประเทศ รวมไปถึงศูนย์บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ "สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ" ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการในหัวเมืองใหญ่ๆ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี ชลบุรี และนครศรีธรรมราช และมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึง และสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งขยายเวลาการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคและปัญหาการใช้งานผลิตภัณฑ์ผ่าน Hot Line 1325 โดยเปิดให้คำปรึกษาในเวลา 08.30 -19.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ พร้อมเปิดให้บริการซ่อมเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ประเภทด่วนพิเศษ "Express Team Service" ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากได้รับการแจ้งซ่อมจากลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยทีมช่างเทคนิคพร้อมอุปกรณ์และอะไหล่ที่ได้มาตรฐานจาก มิตซูบิชิ อีเล็คทริค พร้อมกันนี้ยังได้คิดค้นระบบ Smart Service Tool เครื่องมือพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อตรวจเช็คอาการผิดปกติของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ระบบอินเวอร์เตอร์โดยเฉพาะ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาความผิดปกติของเครื่องปรับอากาศได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่าน Mobile Application
นอกจากนี้ เราได้การรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องปรับอากาศและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ด้านเครื่องปรับอากาศ ให้มีความรู้ความสามารถและทักษะฝีมือ เพื่อลดการสูญเสีย เกิดความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนช่วยให้ความรู้ในการสร้างบุคลากรช่างเทคนิคไทยที่มีคุณภาพและบริการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทดสอบให้กับช่างของศูนย์บริการแต่งตั้ง ช่างตัวแทนจำหน่ายและช่างอิสระ ได้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเสริมศักยภาพพนักงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดอบรมให้ความรู้ทักษะความชำนาญเกี่ยวกับการบริการในด้านต่าง ๆ โดยเน้นการปฏิบัติงานตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสู่การบริการอย่างมืออาชีพมากยิ่งขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน
นายทาคาชิ ฟูจิกิ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า "ปัจจุบันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่ "ใส่ใจ" ในทุกองค์ประกอบมากขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน จึงทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตลาดมากขึ้น บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการทำตลาดแบบ Business-to-Consumer หรือ B2C ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบัน สำหรับธุรกิจในแบบ Business-to-Business หรือ B2B นั้น บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายไปยังหัวเมืองใหญ่ รวมไปถึงต่างจังหวัดตามการเจริญเติบโตของระบบสาธารณูปโภค อาทิ ร้านค้า โรงแรม และได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนขนาดใหญ่ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่ (Mr.Slim R32 INV Series) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานระดับสูง รวมถึงการเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคตซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คำนึงถึง และถือเป็นกลยุทธ์หลักในปีนี้ที่จะมุ่งสร้างประสบการณ์และรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ขยายฐานลูกค้า ทั่วประเทศ เปิดศูนย์กระจายสินค้า "Mitsubishi Electric Smart Hub" จังหวัดลำปาง ด้วยพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร เพื่อพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ ครอบคลุมการให้บริการ 12 จังหวัด ในเขตภาคเหนือ โดยหวังผลให้ผู้บริโภคได้รับสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้นและมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกๆ ด้าน รวมถึงบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้งร้านค้าผู้แทนจำหน่าย โมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เก็ต โครงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และยกระดับการบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย"
ในปี 2563 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าการขายรวมกว่า 16,700 ล้านบาท โดยสินค้าใหม่ 3 กลุ่ม ที่เปิดตัวในปีนี้ได้ตอกย้ำแนวคิด"Changes for the Better" มุ่งมั่นในการมอบวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สะดวกสบายแก่ผู้บริโภคแล้ว เรายังให้ความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่
- เครื่องปรับอากาศ อินเวอร์เตอร์ รุ่น JS Series และ รุ่น KS Series (Happy Inverter) เพิ่มความเย็นเร็วทันใจกับระบบ Fast Cooling เทคโนโลยีเพื่อความเย็นเร็วภายในปุ่มเดียว ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค เป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยรีโมทคอนโทรลที่สามารถแสดง Error Code เพื่อช่วยในการตรวจสอบอาการผิดปกติเบื้องต้นของเครื่องปรับอากาศได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟิลเตอร์กรองอากาศ PM 2.5 Filter เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ช่วยกรองและตรวจจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน ด้วยประจุไฟฟ้า ทำให้ได้รับอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์ (เฉพาะรุ่น GR Series และเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่น JS Series, KS Series)
- เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนขนาดใหญ่ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม รุ่นใหม่ ใช้สารทำความเย็น R32 พร้อมเพิ่มขนาดใหม่ 13,000 BTU ในรุ่น PLY, PCY และ PEY Series พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานระดับสูง
- ตู้เย็น 3 ประตู รุ่น Smart Freeze Glass Edition ระบบ Neuro Inverter สวยหรูด้วยบานกระจกนิรภัย พร้อมเทคโนโลยี Supercool Chilling เก็บรักษาความสดของอาหารโดยไม่เป็นน้ำแข็ง สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมปรุงอาหารได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาทำละลาย ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter, ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น FC Series ระบบ Neuro Inverter ดีไซน์ใหม่ เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บอาหารได้มากกว่าเดิม ด้วยขนาด ความจุเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ลิตร และ ตู้เย็น 1 ประตู รุ่น J Smart Defrost มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมการทำงานด้านนอกตัวเครื่อง ทำให้สะดวกในการใช้งาน
- พัดลม เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม กับปลั๊ก 3 ขาใหม่ที่มีสายดินป้องกันไฟดูดหากเกิดไฟรั่ว พร้อมกล่องเหล็กครอบสวิตซ์ ป้องกันการลุกลามไฟ มั่นใจ ปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม
TEI ผนึก กรมบัญชีกลาง อบก. กรมควบคุมมลพิษ เซ็น MOU ดัน "จัดซื้อจัดจ้างสีเขียว" ปั้นตลาดภาครัฐสู่ Net Zero
บมจ. เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จับมือพันธมิตรจีน ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทยยั่งยืน
"แอล ดับเบิลยู เอสฯ" แนะ ภาคอสังหาฯ ใช้วัสดุคอนกรีตก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนประเทศสู่ Net Zero ในปี 2608
แสนสิริ จับมือ 11 แบงก์ชั้นนำ มอบสินเชื่อบ้านรักษ์โลก สนับสนุนประเทศสู่สังคม Net-Zero ยั่งยืน
SABINA เปิดตัว "กรีน ลีฟวิ่ง สโตร์" ต้นแบบร้านยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม ปักหมุดสาขาแรก ณ พุทธมณฑลสาย 5 ตอกย้ำแบรนด์แฟชั่นรักษ์โลก
ทีทีบี ผนึก แสนสิริ ออก "สินเชื่อบ้านรักษ์โลก" ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.75% ต่อปี เดินหน้าสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง LBM ในเครือปูนอินทรีเปิดวิสัยทัศน์ "Innovating Sustainable Building Solutions" ขับเคลื่อนแนวทางวัสดุก่อสร้าง ตอบโจทย์เทรนด์ก่อสร้างยุคใหม่สู่ความยั่งยืน
GPSC ผนึก Axens ศึกษาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน DMX(TM) มุ่งสู่การลดคาร์บอนภาคการผลิตไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
สอน. ลงพื้นที่ขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนอุตฯ อ้อยและน้ำตาลสีเขียว วางแนวทางลดเผาอ้อย - ลด PM 2.5 สอดรับนโยบายรัฐบาล