แควนตัสยังปลื้มผลประกอบการครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2563 แม้เผชิญความท้าทายรอบข้าง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          แควนตัสกรุ๊ปประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2563 (กรกฏาคม-ธันวาคม 2562) ด้วยกำไรก่อนภาษี 16,079 ล้านบาท (711 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และกำไรตามกฎหมายก่อนหักภาษี 13,514 ล้านบาท (648 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (26,472 ล้านบาท) น้อยกว่าผลการดำเนินงานเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่ผ่านมา 84 ล้านบาท (4 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
          แม้จะได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผกผัน 1,063 ล้านบาท (51 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) จากตลาดขนส่งทางอากาศ (เฟรท) ระหว่างประเทศที่อ่อนตัวลงและวิกฤตในฮ่องกง 68 ล้านบาท (68 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขายเทอร์มินัล (อาคารผู้โดยสาร) ภายในประเทศ 55 ล้านบาท (1,147ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) แต่ผลประกอบการแควนตัสกรุ๊ปยังแข็งแกร่งอยู่ซึ่งเกิดจากหลากหลายปัจจัยได้แก่ ความมีวินัยในการดำเนินงาน โครงการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานที่ยังคงดำเนินต่อไป และการเติบโตด้านส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดหลักๆ หลายแห่ง โดยแควนตัสกรุ๊ปได้ปรับกลยุทธ์ครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2563 จากผลกระทบในการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการปรับลดเที่ยวบินในตลาดที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังคงความยืดหยุ่นในการสามารถปรับเพิ่มหรือลดเที่ยวบินตามความเหมาะสม
          มร.อลัน จอยส์ ประธานกรรมการบริหาร แควนตัส กรุ๊ป เผยถึงผลการดำเนินในรอบครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2563 ว่า "แควนตัสกรุ๊ปพอใจผลประกอบการจากการดำเนินงานในครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2563 ที่ยังคงดีและการดำเนินงานของเรายังมีความแข็งแกร่งอยู่ ในตลาดภายในประเทศออสเตรเลียเราประสบกับดีมานด์ด้านการเดินทางที่ลดลงและการเปลี่ยนแปลงจากการขายเทอร์มินัล (อาคารผู้โดยสาร) ภายในประเทศ อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วการดำเนินงานของทั้งสายการบินแควนตัสและสายการบินเจ๊ทสตาร์เป็นไปด้วยดี สำหรับในตลาดต่างประเทศ รายได้การเติบโตของผู้โดยสารได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในฮ่องกงและผลกระทบของตลาดขนส่งทางอากาศ (เฟรท) จากสงครามการค้า ส่วนในเส้นทางระยะไกลพิเศษเพิร์ธ-ลอนดอนยังคงมีทิศทางที่สดใส และในส่วนของแควนตัสรอยัลตี้มีผลประกอบการดีเช่นเดียวกัน โดยการยกเครื่องโปรแกรมสะสมคะแนนแควนตัสฟรีเคว่นฟลายเออร์ได้ช่วยยกระดับปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกเพิ่มมากขึ้นซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของโปรแกรมในระยะยาว"
          - เส้นทางบินภายในประเทศแควนตัสกรุ๊ป
          โดยพื้นฐานแล้วเส้นทางบินภายในประเทศออสเตรเลียแควนตัสกรุ๊ปยังคงความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามความผันผวนที่เกิดขึ้นทำให้รายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีลดลง 981ล้านบาท (47 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ไปอยู่ที่ 13,455 ล้านบาท (645 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในการนี้มีสัญญาณบวกจากดีมานด์การเดินทางในช่วงไตรมาสที่สอง
          เส้นทางบินภายในประเทศออสเตรเลียมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายสนามบินเพิ่มสูงขึ้นทำให้รายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีลดลงร้อยละ 2.7 ไปอยู่ที่9,701 ล้านบาท (465 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) สายการบินแบบพรีเมี่ยมยังคงมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดองค์กรรวมถึงตลาดเอสเอ็มอีคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ26 สำหรับสมาชิกแควนตัสบิสสิเนสรีวอร์ดส (Qantas Business Rewards) รายได้จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ยังคงมีอัตราการเติบโตโดยคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังของงบประมาณในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 10 รวมทั้งแควนตัสกรุ๊ปกำลังประเมินการเพิ่มเครื่องบินแอร์บัส A320 ไปให้บริการในตลาดรัฐออสเตรเลียตะวันตก
          สายการบินเจ๊ทสตาร์เส้นทางภายในประเทศออสเตรเลียมีรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีคิดเป็น 3,751 ล้านบาท (180 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ลดลงร้อยละ 16 เนื่องจากดีมานด์ในตลาดลดลง รวมทั้งความผกผันจากอัตราแลกเปลี่ยนและเหตุประท้วงหยุดงาน อย่างไรก็ตามเจ๊ทสตาร์มีรายได้ผู้โดยสารต่อคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และจากสมาชิกคลับเจ๊ทสตาร์ (Club Jetstar) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10
          - แควนตัสเส้นทางบินต่างประเทศ
          แควนตัสกรุ๊ปเส้นทางบินต่างประเทศมีรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้น 84 ล้านบาท (4 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ไปอยู่ที่ 3,375 ล้านบาท (162 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยสายการบินแควนตัสเส้นทางบินต่างประเทศมีรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ไปอยู่ที่ 2,541 ล้านบาท (122 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากรายได้ต่อหน่วยมาจากการที่สายการบินคู่แข่งลดจำนวนเที่ยวบินลงราวร้อยละ 2 นอกจากนั้นสายการบินแควนตัสยังได้ประโยชน์เพิ่มจากการเปลี่ยนเครื่องบินที่ให้บริการจากโบอิ้ง 747 เป็นโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์และการเปิดให้บริการเที่ยวบินระยะไกลพิเศษ เส้นทางบินเพิร์ธ-ลอนดอนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีรวมทั้งการเปิดเที่ยวบินใหม่บริสเบนไปชิคาโกและซานฟรานซิสโกที่เริ่มจำหน่ายตั๋วโดยสารในครึ่งปีแรก และการร่วมมือทางธุรกิจกับสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์สซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย
          - แควนตัสรอยัลตี้
          แควนตัสรอยัลตี้ยังคงเดินหน้ามีกำไรด้วยผลการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ไปอยู่ที่ 4,080 ล้านบาท (196 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยการยกเครื่องโปรแกรมสะสมคะแนนฟรีเคว่นฟลายเออร์ได้ช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น มีสมาชิกที่ไม่เคยแลกคะแนนสะสมระยะทางมาก่อนแลกคะแนนเป็นการเดินทางในช่วงเวลา 18 เดือนที่ผ่านมากว่า 400,000 เที่ยวบิน มีที่นั่งในห้องโดยสารพรีเมี่ยมจากการแลกคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 รวมถึงการใช้เครดิตการ์ดและจำนวนลูกค้าจากซูเปอร์มาเก็ตวูลเวิร์ทส (Woolworths) ที่เพิ่มขึ้นซึ่งมาจากการเป็นพันธมิตรร่วมกันด้วย นอกจากนั้นยังมีรายได้ในธุรกิจใหม่ ได้แก่ เครดิตการ์ดแควนตัส ประกันสุขภาพ และความร่วมมือด้านประกันภัยรถยนต์ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นด้วย
          - ขอบข่ายทางการเงินและเครื่องบิน
          ในปีงบประมาณครึ่งปีแรกแควนตัสกรุ๊ปบรรลุเป้าทุกประการ โดยเงินสดหมุนเวียนที่มีความแข็งแกร่งได้ช่วยให้หนี้สุทธิอยู่ในระดับต่ำที่ 110,479 ล้านบาท (5,300 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยหนี้มีการปรับลดดีขึ้นและสภาพคล่องด้านเงินสดในระยะสั้นยังมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 35,435 ล้านบาท (1,700 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) และอีก20,851 ล้านบาท (1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ในทรัพย์สินอื่นที่ไม่สามารถถอนได้
          ในปีงบประมาณครึ่งปีแรก สายการบินแควนตัสเส้นทางบินต่างประเทศได้รับการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 จำนวน 3 ลำ ทำให้มีเครื่องบินรุ่นนี้ประจำฝูงบินทั้งหมด 11 ลำ รวมทั้งมีการปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 1 ลำ และมีอีก 6 ลำที่รออยู่ ส่วนในโครงการซันไร้ซ์ แควนตัสได้เลือกเครื่องบินแอร์บัส A350-1000 โดยมียอดสั่งซื้อมากถึง 12 ลำ ขึ้นอยู่กับการสรุปยอดในเชิงธุรกิจโดยคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563
          - การปันผลผู้ถือหุ้น
          ในครึ่งปีแรกปีงบประมาณนี้ แควนตัสกรุ๊ปมีกำหนดจ่ายเงินปันผลและการซึ้อหุ้นจากตลาดเป็นเงิน 13,460 ล้านบาท (647 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ตามกรอบด้านการเงิน แควนตัสกรุ๊ปมีมติจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีก 7,307 ล้านบาท (351 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) เพิ่มขึ้น 3.75 บาท (13.5 เซนต์) ต่อหุ้น (เพิ่มขึ้นจาก 2.50 บาท (12 เซนต์) ในปีงบประมาณครึ่งปีแรกปี 2562) โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 9 เมษายน 2563 ตามเวลาบันทึก ณ 3 มีนาคม 2563 และในส่วนของการซื้อหุ้นคืนอีก 3,126 ล้านบาท (150 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
          - แควนตัสกรุ๊ปกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
          เมื่อมีดีมานด์ลดลงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แควนตัสกรุ๊ปได้ดำเนินการทันที โดยมร.จอยส์ กล่าวว่า "การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้แควนตัสกรุ๊ปยกเลิกเที่ยวบินไปประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนชั่วคราว และในเส้นทางอื่น เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยขณะนี้เราได้ปรับลดเที่ยวบินไปเอเชียจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมลงราวร้อยละ 15 และจากการที่ต้องปรับลดเที่ยวบินในบางเส้นทางลงทำให้กระทบบุคลากรของเราบางส่วน โดยเราเปิดโอกาสให้หยุดพักร้อนประจำปี นอกจากนั้นดีมานด์การเดินทางภายในประเทศออสเตรเลียช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้มีอัตราลดลงในการนี้แควนตัสกรุ๊ปได้ปรับเที่ยวบินสายการบินแควนตัสและสายการบินเจ๊ทสตาร์ในช่วงครึ่งปีหลังปีงบประมาณ 2563 ลดลงร้อยละ 2 อย่างไรก็ตามเส้นทางสำคัญๆ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด"
          "สิ่งสำคัญในการดำเนินงานของแควนตัสกรุ๊ปคือการที่เรามีความยืดหยุ่นในการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เราสามารถปรับลดจำนวนเที่ยวบินได้ และในขณะเดียวกันก็สามารถปรับเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเมื่อมีความต้องการในการเดินทางกลับมา ซึ่งเราทราบดีว่าจะต้องกลับมา ท้ายที่สุดเมื่อมองในมุมกว้างแล้ว แควนตัสกรุ๊ปเรายังมีความแข็งแกร่งกว่าผู้ประกอบการอีกหลายๆ ราย ซึ่งช่วยให้เรามีความมั่นใจในธุรกิจของเราแม้ว่าจะมีปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ จากภายนอกก็ตาม" มร.จอยส์กล่าว
          - ภาพรวม
          จากสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การลดเที่ยวบินและค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันที่ลดลงทำให้แควนตัสกรุ๊ปคาดการณ์ว่า ภาพรวมผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2563 จะอยู่ที่ราว 2,079-10,388 ล้านบาท (100-500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี ทั้งนี้เป็นการคาดการณ์ตามสถานการณ์ปัจจุบันโดยจะมีการอัพเดทอีกครั้งในการประกาศการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ในเดือนเมษายน
          การคาดการณ์ปัจจุบันสำหรับปีงบประมาณ 2563
          - คาดการณ์ว่าผลประกอบการของแควนตัสกรุ๊ปเส้นทางบินต่างประเทศ (การลดลงเน้นที่เน็ทเวิร์คในเอเชีย และการเติบโตเส้นทางบินสหรัฐอเมริกา) ในครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2563 จะลดลงราวร้อยละ 3.8 และในเส้นทางบินภายในประเทศลดลงร้อยละ 2.3
          - ค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันก่อนการประกาศการปรับลดเที่ยวบินที่มาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คาดว่าจะอยู่ที่ 80,027 ล้านบาท (3,850ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
          - ประโยชน์ตามโครงการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานคาดว่าจะลดลงราว 8,316 ล้านบาท (400 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
          - คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดในปีงบประมาณ 2563 จะอยู่ราว 41,542 ล้านบาท (2,000 ล้านออสเตรเลีย) โดยในช่วงปีงบประมาณครึ่งปีแรกใช้จ่ายไปแล้ว26,999 ล้านบาท (1,300 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
          - คาดการณ์ว่าค่าเสื่อมราคาและการผ่อนชำระหนี้สุทธิด้านดอกเบี้ยลดลง 2,079 ล้านบาท (100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) สูงกว่าปีงบประมาณปี 2562
          - คาดการณ์ว่าการขายเทอร์มินัล (อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ) จะทำให้รายได้ลดลงราว 2,079 ล้านบาท (100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ซึ่งรวมถึงที่ไม่ใช่เงินสดอีก 1,455 ล้านบาท (70 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
แควนตัสยังปลื้มผลประกอบการครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2563 แม้เผชิญความท้าทายรอบข้าง
 
 

ข่าวระหว่างประเทศ+แควนตัสกรุ๊ปวันนี้

PTTT ผนึก Centrica เดินหน้ายกระดับศักยภาพการแข่งขันในตลาด LNG ระดับเอเชีย

PTT International Trading Pte Ltd (PTTT) และ Centrica LNG Company Limited (Centrica) ลงนามในสัญญา LNG Sale and Purchase Agreement (SPA) สำหรับการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ระยะยาว ตามกรอบความร่วมมือในข้อตกลงเบื้องต้น (Heads of Agreement : HoA) ที่ลงนามเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมี นายจตุรงค์ วรวิทย์สุรวัฒนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) (กลาง) นางธนันต์พร ตั้งพิทักษ์กุล รักษาการกรรมการผู้จัดการ PTTT (ซ้าย) นายไวธยางค์

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสา... บางกอกแอร์เวย์ส จัดโปรส่งท้ายปี บินสุดคุ้ม Super Sale 12.12 — บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มอบโปรโมชันส่งท้ายปี "Super ...

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ (ซ้าย) ประธา... LEO มั่นใจโค้งสุดท้ายปี 68 มีโอกาสเติบโต ลุยทั้ง Logistics และ Non-Logistics สร้างรายได้ยั่งยืน — นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริ...