ในการพัฒนาประเทศให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลก การพัฒนางานวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมถือเป็นภารกิจสำคัญของสถาบันอุดมศึกษา โดยที่ผ่านมา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มีนโยบายที่จะผลักดันให้มหาวิทยาลัยมหิดล เป็น 1 ในมหาวิทยาลัยต้นแบบของประเทศที่จะขึ้นไปอยู่ใน 1 ใน 100 อันดับมหาวิทยาลัยโลก
สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหน่วยงานที่ทำรายได้จากนวัตกรรมเป็นลำดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งเกิดจากการผลักดันงานวิจัยที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและยาวนานมากว่า 30 ปี ไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะเรื่องวัคซีนเดงกี่ หรือ ไข้เลือดออก ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทเอกชนที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีกำลังทำการศึกษาวิจัยในคน และมีแนวโน้มที่จะนำออกไปสู่ตลาดโลก เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อไข้เลือดออก
อาจารย์ ดร. นายแพทย์กิตติพงศ์ ไพบูลย์สุขวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานวัตกรรม สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงนโยบายในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมของสถาบันฯ โดยมองไปถึงตัวชี้วัดในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกในด้านความเป็นนานาชาติ (Internationalization) ซึ่งที่ผ่านมา สถาบันฯ ได้มีการลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยในประเทศอินโดนีเซีย 2 มหาวิทยาลัย ในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา โดยได้เปิดให้นักศึกษาทางการแพทย์จากประเทศอินโดนีเซียมาศึกษาดูงานเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ที่สถาบันฯ เพื่อเพิ่มบรรยากาศความเป็นนานาชาติ โดยในปีที่ผ่านๆ มาได้จัดให้มีกิจกรรม 3 ช่วง คือ เดือนมกราคม กรกฎาคม และพฤศจิกายน
อาจารย์ ดร. นายแพทย์กิตติพงศ์ ไพบูลย์สุขวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ปกตินักศึกษาแพทย์ที่มาดูงานจะยังไม่มีพื้นฐานทางด้านงานวิจัย เพราะฉะนั้นเราจึงปูพื้นให้ก่อนในสัปดาห์แรกที่มาถึงว่า งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร โดยสอนให้รู้จักการใช้เครื่องมือ และเทคนิคพื้นฐานต่างๆ ทางชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล ตลอดจนได้ให้ปฏิบัติงานจริงในห้องปฏิบัติการต่างๆ ที่สร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีชื่อเสียงให้กับสถาบันฯ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวัคซีน ธาลัสซีเมีย การวิจัยระบบประสาท ไวรัส แบคทีเรีย และการวิจัยทางด้านอณูชีววิทยาอื่นๆ รวมทั้งห้องปฏิบัติการที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ได้แก่ กุ้ง และมันสำปะหลัง จากนั้นนักศึกษาจะได้ทำโครงการวิจัยเล็กๆ และนำเสนอผลการวิจัยทั้งที่ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล และที่มหาวิทยาลัยในประเทศอินโดนีเซีย นักศึกษาจะได้ฝึกตั้งโจทย์วิจัย คิดกระบวนการแก้ปัญหา และฝึกทำวิจัยจริงๆ โดยได้รับการปรึกษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางสถาบันฯ ได้จัดมีการฝึกอบรมเสริมทางด้านการเขียนรายงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Report) ให้อีกด้วย
Mr.Ulum Nidhamuddin นักศึกษาแลกเปลี่ยนจากมหาวิทยาลัย Swadaya Gunung Jati ประเทศอินโดนีเซีย กล่าวถึงความมุ่งหมายในการศึกษาดูงานเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล ได้แก่ การตรวจสอบความผิดปกติทางพันธุศาสตร์โดยการวิเคราะห์ PCR การออกแบบยาในระดับโมเลกุลถึงโรคเฉพาะทาง เทคนิคทางโมเลกุล/ไวรัสวิทยา ซึ่งมหาวิทยาลัย Swadaya Gunung Jati กำลังมีการพัฒนาห้องปฏิบัติการทางพันธุกรรม โดยส่วนตัวประทับใจการปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเซลล์สัตว์และไวรัส เนื่องจากได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัสวิทยา ได้รู้จักกับการติดเชื้อไวรัสที่พบมากที่สุดในชีวิตประจำวัน ได้ฝึกการระบุและวิเคราะห์ทางไวรัสวิทยา ศึกษาแนวโน้มของปัญหาการติดเชื้อไวรัสที่ท้าทายในอนาคต ตลอดจนการพัฒนาวัคซีนที่เกี่ยวข้อง โดยหวังจะนำประสบการณ์ความรู้และทักษะใหม่ๆ ไปประยุกต์ใช้ต่อไป ซึ่งประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับจากโครงการฯ นั้นมีประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและมหาวิทยาลัยเป็นอย่างยิ่ง
“ธาลัสซีเมีย” เป็นโรคที่มักพบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพบมากทั้งในประเทศไทย และอินโดนีเซีย จากการแลกเปลี่ยนวิชาการทำให้เราได้องค์ความรู้ใหม่ๆ ว่า พยาธิสภาพของโรคในคนไข้ที่ยังได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างไร หากได้รับยาตัวใหม่ๆ จะเป็นอย่างไร ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ และพัฒนาการรักษาให้ดียิ่งขึ้นต่อไปได้ในอนาคต โดย Ms. Apriliani Nur Puspita Sari ซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากมหาวิทยาลัย Swadaya Gunung Jati ประเทศอินโดนีเซียเช่นกัน เล่าว่า มีความสนใจในห้องปฏิบัติการธาลัสซีเมีย เนื่องจากได้เรียนรู้จากข้อมูลทางคลินิกจากผู้ป่วยจริง การตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียสำหรับคู่สมรสที่มีความเสี่ยงสูง การวิเคราะห์ดีเอ็นเอเพื่อวินิจฉัยผู้ป่วยธาลัสซีเมีย ตลอดจนการให้คำปรึกษาทางพันธุกรรมแก่ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย โดยได้มีโอกาสไปฝึกภาคสนามที่ คลินิกธาลัสซีเมีย โรงพยาบาลนครปฐม โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล คอยอธิบายเกี่ยวกับพยาธิสภาพของผู้ป่วย อาการทางคลินิก ลักษณะทางพันธุกรรม และการดูแลรักษาผู้ป่วย ตลอดจนให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งตลอดระยะเวลาของโครงการฯ มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย รู้สึกประทับใจในความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีและอาจารย์ที่มีคุณภาพ คิดว่ามหาวิทยาลัยมหิดลมีศักยภาพพร้อมที่จะเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก และหวังว่าในอนาคตจะได้กลับมาอีกเพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยมหิดล
“งานวิจัยในยุคปัจจุบันไม่อาจมุ่งเน้นแค่งานวิจัยพื้นฐานแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องทำงานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของสังคม และประเทศชาติ โดยเรามองไปถึงร่วมมือในระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนางานวิจัยของเราให้ไปสู่ระดับความเป็นสากลมากขึ้น และนำองค์ความรู้นั้นไปช่วยแก้ไขปัญหาของระดับชาติและนานาชาติได้ด้วย” อาจารย์ ดร. นายแพทย์กิตติพงศ์ ไพบูลย์สุขวงศ์ กล่าวทิ้งท้าย
ศูนย์ร่วมคิดพาณิชย์นวัตกรรม (MICC) โดยสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) ม.มหิดล ขอเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ เข้าร่วมงานสัมมนา Mahidol Sustainable and Modern Energy for All "Solar Cell" วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2566 (เวลา 09.00-12.00 น.)ณ MaSHARES Co-Working Space สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุลหรือทาง FB LIVE ของสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม Highlight Topic - นโยบายภาครัฐกับโซลาเซลล์- การพัฒนาเรือพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการท่องเที่ยวตามแนวปะการัง- นวัตกรรม 'เพอรอฟสไกต์'
ม.มหิดลร่วมแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีไทย-จีน เพื่อควบคุมป้องกันโรคธาลัสซีเมีย
—
สมรภูมิแห่งการควบคุมโรคธาลัสซีเมีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย ไม่เคยห่างหาย...
ม.มหิดลเสริมทักษะคิดเชิงวิเคราะห์ขั้นสูงให้นศ.ทดลองออกแบบและผลิตวัคซีน
—
โปรตีนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์ การศึกษาเกี่ยวกับโปรตีน (Proteomics) มีความส...
ม.มหิดล เร่งสร้างขุมพลังยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ
—
เมื่อโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการนำองค์ความรู้จากงานวิจัยและงา...
คณะ ICT ม. มหิดลขอเชิญคณาจารย์ นักวิจัย บุคลากร นักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล และผู้สนใจ เข้าร่วมเสวนาเชิงวิชาการ Mahidol AI Talk#2
—
คณะ ICT ม. มหิดลขอเชิญ...
ม.มหิดล ย่อโลกการแพทย์แม่นยำสร้างสรรค์ AI ช่วยออกแบบยา "MANORAA"
—
กว่าจะคิดค้นและผลิตยารักษาโรคแต่ละชนิดต้องใช้เวลากว่าหนึ่งทศวรรษ และต้องอาศัยการลงทุนด้...
ม.มหิดล พัฒนานวัตกรรม "น้ำยาทำละลายโปรตีนโปรลามีนส์" ใช้ทดสอบเพื่อหาข้อบ่งชี้โรคภูมิแพ้กลูเตนในแป้งข้าวสาลี
—
ปัจจุบันอุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้พบมากขึ้นทั่...
ม.มหิดล - ไบโอเทค ค้นพบ "โพรไบโอติกส์ต้านโรคสัตว์น้ำ" จากการวิจัยในระดับ "ยีน" ครั้งแรก
—
ความหายนะทางเศรษฐกิจจากการที่เกษตรกรฟาร์มกุ้งไทยส่วนใหญ่ต้องประส...