LPN ปรับกลยุทธ์การขายโครงการ “ลุมพีนี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์” ผ่านระบบโทรศัพท์ (Telesales) เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่-2019 (โควิด-19) ทำยอดขายแตะระดับร้อยละ 70 ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย สะท้อนกำลังซื้อในตลาดยังไปได้ ถึงแม้เศรษฐกิจชะลอตัว
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์การขายโครงการ “ลุมพีนี เพลส เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์” ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการติดต่อกับลูกค้าที่เยี่ยมชมโครงการและลงทะเบียนแสดงความสนใจซื้อโครงการก่อนหน้านี้ทางโทรศัพท์ ในระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากการที่ลูกค้าจำนวนมากมาชุมนุมกันที่สำนักงานขายของโครงการในวันเปิดขายจริงวันที่ 7-8 มีนาคม 2563
“การนำระบบการติดต่อกับลูกค้าทางโทรศัพท์มาใช้ในช่วงวันที่ 5-6 มีนาคม ช่วยลดปริมาณของลูกค้าที่เดินทางไปที่สำนักงานขายในวันที่เปิดขายระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคมลงไปได้มาก และยังสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 300 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย สร้างยอดขายขายกว่า 750 ลบ. ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อในตลาดที่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ในทำเลที่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้า ในระดับราคาที่เหมาะสม ถึงแม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชะลอตัว” นายโอภาส กล่าว
โครงการลุมพีนี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกที่ LPN เปิดขายในปี 2563 เพราะมองเห็นศักยภาพของทำเลเตาปูน - บางซื่อ ที่เป็นทำเลที่ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จากการสำรวจของบริษัทพบว่า ย่านนี้มีบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 12,500 คน รวมทั้งทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับรัฐสภาใหม่ที่มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่มากกว่า 2,000 คน ประกอบกับทำเลนี้อยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงสถานีบางซื่อ-ท่าพระ และการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในต้นปี 2564 ที่คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการไม่น้อยกว่า 200,000 คนต่อวัน ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยที่อยู่โดยรอบพื้นที่เตาปูน ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและมีชุมชนโดยรอบเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อยูนิต
เมื่อสถานีกลางบางซื่อเปิดให้บริการในปี 2564 สถานีกลางบางซื่อจะกลายเป็นสถานีศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยจะมีรถไฟฟ้าถึง 4 สายที่เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อในอนาคต ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน รวมทั้งยังเป็นสถานีต้นทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กิโลเมตร และกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีส่วนต่อขยายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ 5 สถานี จากสถานีพญาไทเชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ
“เตาปูนเป็นทำเลที่ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ และมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินผ่าน ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และเพื่อการลงทุน โดยการซื้อเพื่อการลงทุนให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5 ต่อปี โดยมีการปล่อยเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000 – 10,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องที่มีพื้นที่ประมาณ 22-28 ตารางเมตร ในแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่เหมาะสำหรับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน” นายโอภาสกล่าว
โครงการลุมพีนี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโดสูงขนาด 30 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 3 ไร่ จำนวนห้อง 710 ยูนิต มีห้องพักให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) รูปแบบสตูดิโอ ขนาด 22.50 – 23.00 ตร.ม. 2) รูปแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.00 – 34.00 ตร.ม. 3) รูปแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43.00 ตร.ม. มูลค่าโครงการรวม 1,780 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว
โครงการ ลุมพีนี เพลส เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ อยู่บนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ใกล้รถไฟฟ้าสถานีเตาปูนเพียง 100 เมตร พร้อมเชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างรวดเร็วด้วยทางด่วนศรีรัชฯ ภายในโครงการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ โถงพักผ่อน ห้องอเนกประสงค์ ห้องคุณหนู สระว่ายน้ำ ห้องเฮ้าส์เวิร์ก สวนอินฟินิตี้ ฟิตเนสและสวนดาดฟ้า พร้อมที่จอดรถ 278 คัน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. Grand Opening ราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LPN Call Center 02-689-6888 หรือ www.lpn.co.th
พร้อมเพิ่มทางเลือกคุ้มค่าด้วยสินค้าราคาประหยัด "Retake และ Retry" แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง นันยาง ประกาศกลยุทธ์รุกตลาดรับเปิดเทอมปี 2568 มุ่งเน้นนวัตกรรมสินค้าและความคุ้มค่า เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจชะลอตัว โดยยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 45% จากมูลค่าตลาดรองเท้านักเรียนรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องที่ 3-5% ในปีนี้ นันยางยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับความต้องการของเด็กนักเรียนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดย
"เมอร์เคิล แคปปิตอล" ชี้แรงกดดันของประเด็นภาษีสหรัฐฯ และเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน นักลงทุนหนีความเสี่ยง หันถือครองทองคำ และ Bitcoin เพิ่ม
—
ช่วงที่ผ่านมา ค่าเง...
LDC ปรับพอร์ตสาขา - รุกตลาดภาคใต้ ชูทันตกรรมพรีเมียม มองหาโอกาสใหม่
—
LDC เผยปี 68 เดินหน้าเชิงรุกเจาะตลาดภาคใต้ ปักธง 3 สาขาใหม่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร และภู...
สรุปผลสำรวจปี 2567 สถาบันวิจัยฮาคูโฮโดเผย THAIDOM EFFECT มาแรง ช่วยเสริมสร้างความสุข ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว
—
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเท...
A5 ประกาศความสำเร็จ ย้ายเข้าเทรด SET ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาล
—
A5 ประกาศความสำเร็จ ได้ฤกษ์เข้าเทรด SET กลุ่มพ...
เทลสกอร์ ร่วมกับ เดอะมอลล์ ประกาศผล สุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แห่งปี ชี้คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ก้าวทัน แพลตฟอร์มใหม่ เน้นสนุก เนื้อหาแน่น ทัชใจ
—
โลกกำลังก้าวสู่เศ...
เทลสกอร์ ร่วมกับ เดอะมอลล์ ประกาศผล สุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แห่งปี
—
เทลสกอร์ ร่วมกับ เดอะมอลล์ ประกาศผล สุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แห่งปีชี้คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ก้าว...
TJRI เปิด Insight อนาคต 'ยานยนต์ญี่ปุ่น' แนะผลักดันความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น ดึงลงทุนเพิ่ม
—
โครงการ TJRI (โครงการศึกษาวิจัยการลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย) ผู้เช...