ดร.ธเนศ วีระศิริ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า การแข่งขันหุ่นยนต์นักสู้ชิงแชมป์ประเทศไทย ปีนี้คึกคักและตื่นเต้นท้าทาย โดยได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่และมืออาชีพอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์ของการแข่งขันหุ่นยนต์นักสู้แห่งประเทศไทย Battle Robot Warrior 2019 เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยนำความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรมมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบสร้างหุ่นยนต์ วิเคราะห์ วางแผนและการแก้ไขปัญหา ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและความรักสามัคคีของผู้เข้าร่วมแข่งขัน ตลอดจนนำองค์ความรู้ที่ได้ไปต่อยอดเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ให้กับประเทศไทย
การแข่งขันหุ่นยนต์ครั้งนี้เป็นรุ่น 10 กก. มีการกำหนดคุณสมบัติหุ่นยนต์ดังนี้ 1. หุ่นยนต์ต้องมีขนาดตัวไม่เกิน 350x350x350 มม. และสามารถยืดกลไกเพื่อการต่อสู้ หรือเปลี่ยนแปลงขนาดได้ไม่เกิน 500x500x500 มม. 2. แหล่งจ่ายไฟฟ้าไม่เกิน 24 โวลต์ 3.แหล่งจ่ายลมไม่เกิน 6 บาร์ 4. บังคับหุ่นยนต์แบบไร้สาย 5. ไม่จำกัดวัสดุในการสร้างหุ่นยนต์ และต้องติดตั้งอุปกรณ์อาวุธในการต่อสู้ที่ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรลอย่างน้อย 1 อย่าง 6. หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวได้ทุกรูปแบบ โดยใช้รูปแบบสนามแข่งและกติกาตามกฎเกณฑ์มาตรฐานการแข่งขันระดับประเทศ ส่วนสนามแข่งขนาด 3 ตรม. มีค้อนยักษ์หนัก 2.5 กก. อยู่ 2 มุม ทุบลงมาให้หุ่นยนต์คอยหลบหลีกระหว่างการประจัญบาน
ผลการแข่งขัน ผู้ชนะ 4 ทีมได้แก่ รางวัลชนะเลิศ คือ ทีมมินิ ฟรีไตล์, รางวัลอันดับ 2 ทีมเอสพีอาร์ซี 2 และรางวัลอันดับ 3 มี 2 ทีม คือ ทีมเอสพีอาร์ซี 1 และทีมฟาร์เมอร์ โรโบติก
ธวัชชัย มินา (นุ) ตัวแทนทีมมินิ ฟรีไตล์ ผู้คว้าแชมป์ชนะเลิศ ซึ่งมีสมาชิกหนุ้มสาว 3 คน กล่าวว่า การลงมือทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด คิดแล้วต้องลงมือทำ และปรับปรุงทดสอบให้ได้ตามที่เราต้องการ ด้วยความรักและความชื่นชอบที่มีต่อหุ่นยนต์ ทำให้ผมและเพื่อน 3 คน ใช้เวลาว่างหลังเลิกงานและวันหยุดเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม โดยเลือกออกแบบหุ่นยนต์ที่ใช้อาวุธด้วยการหนีบและยกคู่ต่อสู้เพื่อหยุดการเคลื่อนไหว และได้พัฒนาคุณภาพของเหล็กที่ใช้ทำหุ่นยนต์ ทั้งออกแบบเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบขับเคลื่อนภายในตัวหุ่นยนต์ ใช้งบประมาณ 12,000 บาท
ทีมของเรารู้สึกดีใจมากครับที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันหุ่นยนต์นักสู้ครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือการฝึกฝนให้เกิดความคุ้นชินเชี่ยวชาญกับหุ่นยนต์ที่เราสร้าง จนสามารถสั่งการเคลื่อนไหวให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้บังคับได้ และต้องวิเคราะห์จุดอ่อนคู่ต่อสู้เพื่อจู่โจมเป้าหมายโดยได้รับความเสียหายน้อยที่สุด ใช้ความคล่องตัว ทักษะ และความแม่นยำ หยุดคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว
วิบูรณ์ วังกราน (แพน) ตัวแทนทีมเอสพีอาร์ซี 2 รางวัลอันดับที่ 2 สมาชิกทีม 12 คน กล่าวว่า บางคนเข้าใจว่าหุ่นยนต์นักสู้คือการแข่งขันที่ใช้ความรุนแรงและไม่มีประโยชน์ แท้จริงแล้วเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นใหม่มาก เพราะหุ่นยนต์นักสู้มีทั้งความตื่นเต้น สนุกท้าทาย ทำให้สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และดึงดูดให้คนสนใจเข้าถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมได้ง่ายขึ้น จึงสร้างแรงบันดาลใจ ฝึกให้เราทำงานเป็นทีม รู้จักออกแบบ วิเคราะห์ วางแผน ระหว่างแข่งขันคู่ละ 2 รอบ เมื่อหุ่นยนต์เสียหายจากการปะทะต่อสู้ เราต้องซ่อมภายในเวลาอันจำกัด แก้ปัญหาฉุกเฉิน
สุทัศน์ ฉิมพันธ์ (ทัศน์) ตัวแทนทีมเอสพีอาร์ซี 1 รางวัลอันดับที่ 3 กล่าวว่า เป็นการแข่งขันที่ผมและทีมได้ประสบการณ์ตรงและยังได้เห็นพัฒนาการความก้าวหน้าของหุ่นยนต์คู่แข่ง รู้สึกประทับใจมากที่ได้เห็นทีมน้องๆ ระดับชั้นประถมศึกษาก็มาร่วมการแข่งขัน ซึ่งหุ่นยนต์ของเขามีความแข็งแกร่งและออกอาวุธได้ไม่แพ้มืออาชีพเลย เหนือสิ่งอื่นใดคือมิตรภาพ การรู้แพ้รู้ชนะ น้ำใจนักกีฬาที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในแง่ผู้ชมก็รู้สึกสนุกสนานไปกับการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบด้วยกลยุทธ์ต่างๆ หล่อหลอมให้สังคมไทยเป็นสังคมนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น
นันทศักดิ์ พรรณขาม (เอ็ม) ตัวแทนทีมฟาร์เมอร์ โรโบติก ซึ่งคว้ารางวัลรองอันดับที่ 3 อีกทีมหนึ่ง กล่าวว่า ในทีมเรามี 5 คน ในยคดิจิทัลดิสรัพชั่น หุ่นยนต์นักสู้เป็นกีฬาที่น่าสนใจ ทั้งความตื่นเต้นเร้าใจ โดนใจคนรุ่นใหม่และคนรักหุ่นยนต์ครับ ได้เรียนรู้และใช้หลักการออกแบบหุ่นยนต์กับศาสตร์ต่างๆ ทั้งเครื่องกล ดิจิทัล ไฟฟ้า วัสดุ เป็นการแข่งขันที่เราได้ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ทำให้กล้าคิด กล้าทำ นำไปต่อยอดพัฒนาหุ่นยนต์ไทยได้อีกหลายด้านครับ
นับเป็นอีกหนึ่งการพัฒนายกระดับวงการหุ่นยนต์นักสู้ของไทยสู่เวทีโลกในอนาคต
ผู้บริหารบางจากฯ ร่วมแบ่งปันมุมมอง จากตลาดคาร์บอนสู่เวทีวิศวกรรม
"สมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข" STI รับมอบเกียรติบัตรในฐานะ "วิศวกรอาสา" ร่วมมือ กทม. ช่วยเหลือตรวจสอบอาคาร และให้คำแนะนำในเหตุการณ์แผ่นดินไหว
AIT ส่งทีมวิศวกรเข้าร่วมสำรวจโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี เพื่อตรวจสอบโครงสร้าง ความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคารเรียน
บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI จัดอบรมการใช้เครนอย่างปลอดภัยในการก่อสร้าง เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย
STI GROUP ร่วมสนับสนุนกิจกรรม วิศวกรอาสา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ผู้ประสบอุทกภัย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
SPU ปรบมือให้! ไกรศร วิเชียรสาร นศ.วิศวกรรมโยธา คว้ารางวัลเรียนดีจาก วสท. พร้อมได้รับเลือกเข้าค่ายอบรมสุดพิเศษ EIT-TOC Academic Camp 2024
นักศึกษา เก่ง! สาขาวิศวกรรมโยธา ม.ศรีปทุม เข้ารับพระราชทานเหรียญรางวัลเรียนดี ประจำปี 2566