เอ็นไอเอร่วมกับ RISC – สยามคูโบต้า เปิดตัว 10 สุดยอดสตาร์ทอัพสายเกษตร ตั้งเป้าไขซีรีย์ภาคเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ พร้อมปูทางสู่ครัวโลกเอ็นไอเอตั้งเป้าปั้นสตาร์ทอัพสายเกษตรสู่ “ยูนิคอร์นโลก” ผ่านเวที “AGROWTH” เทียบชั้นสาย ฟินเทค – ดีพเทค

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) และบริษัท เนสท์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว 10 สตาร์ทอัพด้านการเกษตรจากโครงการ AGROWTH พร้อมเตรียมนำสตาร์ทอัพกลุ่มดังกล่าวไปช่วยพัฒนาเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านการเกษตร พร้อมสร้างแนวทางใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีการผลิตพืช การเกษตรแม่นยำสูง การแบ่งปันเครื่องจักร ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าให้โครงการ AGROWTH ช่วยปูทางการเพิ่มจำนวนสตาร์ทอัพด้านการเกษตรให้สอดคล้องกับจำนวนบุคลากรในอุตสาหกรรมเกษตรมีความพร้อมที่จะผลิตพืชพันธุ์ต่างๆ ที่มีคุณภาพ ตลอดจนผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นยูนิคอร์น เทียบเท่ากับสาขาอื่นๆ ที่เป็นที่นิยม เช่น การเงิน การท่องเที่ยว และก้าวสู่ผู้นำด้านเกษตรกรรมได้ในอนาคตอันใกล้
          ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า AGrowth เป็นโปรแกรมการเร่งสร้างการเติบโตของสตาร์ทอัพด้านเกษตรในระดับนานาชาติครั้งแรกในประเทศไทย โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง NIA บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ภายใต้บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท เนสท์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี 10 สตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกจาก 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย ออสเตรเลีย อินเดีย มาเลเซีย ฮ่องกง ไนจีเรีย และสหรัฐอเมริกา จากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ 240 บริษัท ตามความต้องการของภาคธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์และสร้างการแก้ปัญหาแนวทางใหม่ๆ ได้แก่ เทคโนโลยี การผลิตพืช การเกษตรแม่นยำสูง การใช้โปรแกรมอัตโนมัติ การแบ่งปันเครื่องจักร การใช้โดรน การทำเกษตรในร่ม และการบริหารจัดการพื้นที่ทำการเกษตร ผ่านกระบวนการเร่งสร้างให้เกิดการเติบโตและขยายผล ด้วยการทดสอบระบบสาธิต (Proof-of-Concept) ในประเทศไทยภายใต้การจัดงาน AGrowth Demo Day เพื่อนำเสนอผลงานแก่นักลงทุนนานาชาติ องค์กรภาครัฐและเอกชน
          สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าวมีสตาร์ทอัพที่พร้อมออกสู่ตลาดและพร้อมที่จะนวัตกรรมเข้าไปช่วยเหลือและพัฒนากิจกรรมด้านการเกษตร 10 ราย ได้แก่ (ประเทศไทย) EVERGROW ผู้พัฒนาเรือนกระจกสำหรับการเพาะปลูกพืช โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่แปลงเกษตรขนาดใหญ่ รวมถึงระบบอัตโนมัติต่างๆที่จะช่วยควบคุมคุณภาพของผลผลิต พร้อมลดอุปสรรคจากสภาพภูมิอากาศ ศัตรูพืช และทำให้การจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ GetzTrac ระบบเชื่อมต่อผู้ให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรกับเกษตรกรที่ต้องการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น รถแทรคเตอร์ รถเกี่ยวข้าว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการซื้อเครื่องมือดังกล่าวและนำไปใช้ในการเกษตร Fresh Produce Kings สตาร์ทอัพด้านการเกษตรระบบปิด และการใช้เทคโนโลยีไฮโดรโปนิกส์เพื่อผลิตผักสดสำหรับผู้บริโภคในเมือง (มาเลเซีย) Poladrone ผู้พัฒนาระบบภาพถ่ายจากโดรน เพื่อคาดการณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเก็บเกี่ยวผลิตผล และสำรวจพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อปกป้องการทำลายป่าไม้ Plant Cartridge ผู้พัฒนาพื้นที่แปลงเกษตรขนาดเล็ก สำหรับผู้ที่มีพื้นที่อาศัยในเมืองที่มีขนาดจำกัด และสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกพืชเป็นงานอดิเรก (สหรัฐอเมริกา) Agrisource Data ซอฟต์แวร์ในการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของพืชเพื่อเฝ้าระวังเกี่ยวกับสุขภาพพืชและคาดคะเนวันเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยอ้างอิงจากข้อมูลของแสงสะท้อนจากคลอโรฟิลล์ในใบไม้ (อินเดีย) Cropin โซลูชั่นและการให้บริการด้านข้อมูลต่างๆที่จำเป็นสำหรับเกษตรกร ทำให้ผู้เพาะปลูกสามารถรับรู้สถานการณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเกษตรได้แบบเรียลไทม์ (ฮ่องกง) Farmacy HK สตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบพื้นที่การทำเกษตรในเมือง โดยเฉพาะในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร โรงแรม และครัวเรือน ทำให้มีพืชผักไว้บริโภคได้ตลอดทั้งปี (ออสเตรเลีย) FoodCube โซลูชั่นการทำเกษตรในเมืองแบบอัจฉริยะ โดยปลูกในพื้นที่สี่เหลี่ยมขนาดเพียง 18 ตารางเมตร แต่ให้ผลผลิตสูง สามารถติดตั้งบนดาดฟ้า ในห้องใต้ดิน หรือในออฟฟิศ และ(ไนจีเรีย) Hello Tractor แพลตฟอร์มให้บริการรถแทรคเตอร์และเครื่องมือทางการเกษตรแก่ชุมชน ในราคาที่สมเหตุสมผล และยังครอบคลุมสินเชื่อการซื้อแทรกเตอร์จากธนาคาร และผู้แทนจำหน่ายที่ให้บริการซ่อมแซม 
          ดร.กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวถือเป็นแนวทางที่สำคัญที่จะทำให้เกิดความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการเกษตรให้เป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันประสิทธิภาพในการทำการเกษตรของไทยนั้นยังถือว่าต่ำกว่าอีกหลายประเทศ ส่วนหนึ่งเนื่องจากการขาดแคลนเทคโนโลยีและนวัตกรรม และนวัตกรรมจากสตาร์ทอัพเหล่านี้ จะเป็นเครื่องมือและอาวุธสำหรับเศรษฐกิจยุคใหม่ของภาคเกษตรไทยให้พร้อมรับมือโฉมหน้าโลกเกษตรในอนาคตอันใกล้ โดยยังเป็นการปูทางในการเพิ่มจำนวนสตาร์ทอัพด้านการเกษตรให้สอดคล้องกับจำนวนเกษตรกร หรือผู้ประกอบการด้านธุรกิจการเกษตรที่มีอยู่กว่า 25 ล้านรายให้มีความพร้อมในการผลิตพืชพันธุ์ต่างๆ ที่มีคุณภาพในฐานะการเป็นครัวของโลก นอกจากนี้ NIA ยังมีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาสตาร์ทอัพกลุ่มเกษตรให้เป็นกลุ่มที่มีความแข็งแกร่ง สามารถไต่ไปสู่การเป็นยูนิคอร์น (ธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ) เทียบเท่ากับสาขาอื่นๆ ที่เป็นที่นิยม เช่น การเงิน (ฟินเทค) การท่องเที่ยว (ทราเวลเทค) กลุ่มเทคโนโลยีเชิงลึก (ดีพเทค) ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีมูลค่าอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มมากขึ้น และก้าวสู่ผู้นำด้านเกษตรกรรมได้ในอนาคตอันใกล้ 
          ด้าน มร. จอห์น เครน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนสท์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เนสท์มีความภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตรมาสู่ประเทศไทยร่วมกับ NIA ด้วยเครือข่ายธุรกิจสตาร์ทอัพในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ทำให้เราสามารถเข้าถึงและทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพระดับโลกและคัดเลือกธุรกิจสตาร์ทอัพ 10 รายที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเหมาะสมกับประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมโครงการ AGrowth ครั้งแรกในประเทศไทย และขอขอบคุณการสนับสนุนด้วยดียิ่งจากพันธมิตรทั้ง 2 องค์กร ได้แก่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ที่เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ทำโครงการนี้ประสบความสำเร็จ" 
          ทั้งนี้ ตลอดช่วง 12 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัดได้ร่วมทำงานกับสตาร์ทอัพ 6 ราย ได้แก่ Poladrone (มาเลเซีย) Hello Tractor (ไนจีเรีย) Cropin (อินเดีย) Agrisource Data (สหรัฐอเมริกา) รวมทั้ง GetzTrac และ Evergrow จากประเทศไทย ในการปรับใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเกษตรกรไทยและแก้ปัญหาความท้าทายต่างๆ ที่พวกเขาต้องเผชิญในขณะนี้ 
          นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ช่วงแรกของการทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพรุ่นใหม่จากนานาประเทศถือว่าค่อนข้างท้าทาย แต่ภายหลังไม่นานรู้สึกประทับใจที่บริษัทเหล่านี้แสดงถึงความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเกษตรกรไทยในการพัฒนาผลิตผล ปริมาณการผลิต และรายได้ ตัวอย่างเช่น GetzTrac ผู้ให้บริการระบบจับคู่เพื่อเชื่อมต่อเจ้าของเครื่องจักรกลทางการเกษตรกับเกษตรกรที่ต้องการใช้เครื่องจักรได้มอบส่วนลดสำหรับแพคเกจค่าบริการเก็บเกี่ยวและอัดฟาง ส่งผลให้มีจำนวนผู้จองใช้บริการมากถึง 300 รายต่อปี และเนื่องจากโดยปกติจะต้องใช้เวลาเฉลี่ยในการรอเครื่องจักรเพื่อใช้งานนานถึง 4 วันด้วยบริการนี้ทำให้ชาวนาลดเวลารอได้มากถึง 1,200 วันต่อปี อีกทั้ง ยังช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการเก็บเกี่ยวได้ร้อยละ 10 หรือเป็นจำนวนเงินประมาณ 1.7 ล้านบาท ซึ่งนี่เป็นแค่ตัวอย่างจากการทำนาข้าวเพียงอย่างเดียว
          ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน กล่าวว่า "ในฐานะที่บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนในประเทศไทย เราจึงมองหาโอกาสที่จะเติมเต็มวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และเน้นการทำเกษตรในเมืองที่จะมีบทบาทสำคัญในการทำให้เป้าหมายที่วางไว้ประสบความสำเร็จ การที่ได้มีโอกาสร่วมทำงานในโครงการ AGrowth กับ NIA เนสท์ กรุ๊ป และบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด รวมทั้งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ครั้งนี้ นับว่าเป็นประสบการณ์การทำงานที่มีคุณค่าและสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก นอกเหนือจากการที่เราสามารถลดเวลาและต้นทุนที่บริษัทต้องใช้ในการทำวิจัยและพัฒนาเอง" 
          จากหลักฐานพบว่าผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อวงจรผลผลิตทางการเกษตร ดังนั้น ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนจึงส่งเสริมการทำเกษตรในเมืองให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งอาหารสำหรับคนเมืองและผู้พักอาศัยแถบชานเมือง ทางศูนย์ฯ ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ Plant Cartridge จัดทำพื้นที่การเกษตรขนาดเล็กในโครงการบ้านพักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ Aspen Tree ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด แต่ยังเป็นการจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้ดูแลพืชผักและมีผักสดรับประทาน นอกเหนือจากการให้บริการการทำเกษตรในเมืองแก่ผู้พักอาศัยในโครงการอื่นของบริษัทฯ อีกด้วย โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานร่วมกับ Plant Cartridge ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการประหยัดวัสดุอุปกรณ์ในการปลูกถึง 200 เท่า การลดลงของเวลาเตรียมงานร้อยละ 20 ต้นไม้มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นร้อยละ 30 และการลดการใช้น้ำและปุ๋ยถึงร้อยละ 90 นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ที่ใส่ต้นไม้ยังสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ 100% และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 
          ดังนั้น โครงการ AGrowth จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพลิกโฉมการเกษตรของประเทศไทย เพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากจนในกลุ่มเกษตรกร อีกทั้งเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงให้สตาร์ทอัพด้านการเกษตรจากนานาประเทศได้เข้าถึงระบบนิเวศของสตาร์ทอัพไทย รวมถึงจะเป็นตัวเร่งในการสร้างสรรค์สตาร์ทอัพด้านการเกษตรรุ่นใหม่ในประเทศไทยให้มีความหลากหลายและเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น
          สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-0175555 เว็บไซต์ www.nia.or.th หรือ facebook.com/niathailand
เอ็นไอเอร่วมกับ RISC – สยามคูโบต้า เปิดตัว 10 สุดยอดสตาร์ทอัพสายเกษตร ตั้งเป้าไขซีรีย์ภาคเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ พร้อมปูทางสู่ครัวโลกเอ็นไอเอตั้งเป้าปั้นสตาร์ทอัพสายเกษตรสู่ “ยูนิคอร์นโลก” ผ่านเวที “AGROWTH” เทียบชั้นสาย ฟินเทค – ดีพเทค
 
เอ็นไอเอร่วมกับ RISC – สยามคูโบต้า เปิดตัว 10 สุดยอดสตาร์ทอัพสายเกษตร ตั้งเป้าไขซีรีย์ภาคเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ พร้อมปูทางสู่ครัวโลกเอ็นไอเอตั้งเป้าปั้นสตาร์ทอัพสายเกษตรสู่ “ยูนิคอร์นโลก” ผ่านเวที “AGROWTH” เทียบชั้นสาย ฟินเทค – ดีพเทค
 
เอ็นไอเอร่วมกับ RISC – สยามคูโบต้า เปิดตัว 10 สุดยอดสตาร์ทอัพสายเกษตร ตั้งเป้าไขซีรีย์ภาคเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ พร้อมปูทางสู่ครัวโลกเอ็นไอเอตั้งเป้าปั้นสตาร์ทอัพสายเกษตรสู่ “ยูนิคอร์นโลก” ผ่านเวที “AGROWTH” เทียบชั้นสาย ฟินเทค – ดีพเทค
เอ็นไอเอร่วมกับ RISC – สยามคูโบต้า เปิดตัว 10 สุดยอดสตาร์ทอัพสายเกษตร ตั้งเป้าไขซีรีย์ภาคเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ พร้อมปูทางสู่ครัวโลกเอ็นไอเอตั้งเป้าปั้นสตาร์ทอัพสายเกษตรสู่ “ยูนิคอร์นโลก” ผ่านเวที “AGROWTH” เทียบชั้นสาย ฟินเทค – ดีพเทค
 
 
 

ข่าวสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ+สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่นวันนี้

เซ็นทรัลพัฒนา คว้ารางวัล Prime Minister Award 2025 'Innovation for Sustainability' ตอกย้ำผู้พัฒนา Centre of Life และผู้นำการเติบโตอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมาย NET Zero 2050

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all เชื่อมโยงทุกธุรกิจทั้ง Retail-Residence-Hotel-Office ตอกย้ำบทบาท Placemaker ผู้พัฒนา "ศูนย์กลางการใช้ชีวิตและชุมชน" ที่ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืน คว้ารางวัล Prime Minister Award 2025 ประเภท Innovation for Sustainability เวทีสูงสุดที่เชิดชูผู้ประกอบการและองค์กรผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศสู่ความยั่งยืนจัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ครั้งแรกในประเทศไทยกับการยกระดับมาตรฐานกา... ครั้งแรกในไทย นวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่ออนาคตสุขภาพสัตว์เลี้ยง — ครั้งแรกในประเทศไทยกับการยกระดับมาตรฐานการดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยสเต็มเซลล์ PetGeneX ธนาคารสเต็ม...

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้อ... เอ็นไอเอเปิดฟอรั่มโอกาสเฮลท์เทคไทย พร้อมเผยผลการจัดอันดับนวัตกรรมโลก 2025 — ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ ...

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ห... NIA ร่วมกับ ซีพี ซีดดิ้ง โซเชียลอิมแพคท์ ผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน — สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอ...