นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (17 ธ.ค.62)มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา และเพชรบูรณ์ รวม 54 อำเภอ314 ตำบล 2,798 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 7 ชุมชน โดยเชียงราย ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 14 อำเภอ 76 ตำบล651 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอดอยหลวง อำเภอเวียงแก่น อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงของ อำเภอขุนตาล อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอพาน อำเภอเทิง อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอป่าแดด น่าน ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) ในอำเภอนาน้อย รวม 5 ตำบล 45 หมู่บ้าน เพชรบูรณ์ ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 5 อำเภอ 33 ตำบล 194 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอน้ำหนาว อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอศรีเทพ อำเภอหนองไผ่ และอำเภอหล่มเก่า นครพนม ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) ในอำเภอปลาบาก รวม 8 ตำบล 51 หมู่บ้านมหาสารคาม ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 6 อำเภอ 43 ตำบล 542 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอแกดำ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอชื่นชม อำเภอเชียงยืน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอยางสีสุราช บึงกาฬ ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 4 อำเภอ32 ตำบล 238 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอพรเจริญ อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอปากคาด และอำเภอโซ่พิสัย หนองคาย ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 8 อำเภอ 41 ตำบล 358 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอท่าบ่อ อำเภอเฝ้าไร่ อำเภอรัตนวาปี อำเภอสระใคร อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอโพนพิสัย อำเภอสังคม และอำเภอโพธิ์ตาก บุรีรัมย์ ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 6 อำเภอ45 ตำบล 481 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอพลับพลาชัย อำเภอประโคนชัย อำเภอโนนดินแดง อำเภอละหานทราย อำเภอหนองหงส์ และอำเภอนางรอง กาฬสินธุ์ ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) ในอำเภอยางตลาด รวม 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน กาญจนบุรีประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 6 อำเภอ 22 ตำบล 195 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอพนมทวน อำเภอเลาขวัญ อำเภอท่าม่วงอำเภอบ่อพลอย อำเภอหนองปรือ และอำเภอห้วยกระเจา ฉะเชิงเทรา ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) รวม 2 อำเภอ 5 ตำบล 16หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอแปลงยาว ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปภ. ได้ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ด้วยการจัดชุดปฏิบัติการสำรวจข้อมูลสถานการณ์น้ำ ข้อมูลแหล่งน้ำและประมาณการใช้น้ำในพื้นที่หมู่บ้านตำบล และอำเภอ โดยแยกเป็น น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงสำรวจและจัดทำบัญชีแหล่งน้ำ ควบคู่กับการปรับปรุงบัญชีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งให้เป็นปัจจุบัน อีกทั้งตรวจสอบภาชนะกักเก็บน้ำให้ใช้การได้เพียงพอ พร้อมกำหนดจุดแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคที่เข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนเกษตรกรให้ปรับวิถีทำการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
สงกรานต์นี้ เดินทางอย่างไร้กังวล! FWD ประกันชีวิต แจกประกันอุบัติเหตุฟรี 30,000 สิทธิ์
มท.1 มอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตามโครงการ "มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน" ในพื้นจังหวัดกาญจนบุรี
สกสว.พร้อมเป็นโซ่ข้อกลางรับมือเอลนีโญ สานทัพมหาดไทยหนุนทำแผนปฏิบัติการ
ไทยเบฟ สนับสนุนทีม USAR ช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี
ปิดท้ายคาราวาน "ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก" ส่งต่อ "การให้" ที่ยั่งยืน กับโครงการ "ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 23" สู่พี่น้องชาวพะเยา
LINE ประเทศไทย เปิดตัว LINE ALERT บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง นำร่องความร่วมมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ และกรมอุตุนิยมวิทยาฯ
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา