ด้วย วิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยมหิดลสู่การเป็น "มหาวิทยาลัยระดับโลก (World Class University)" และเป็น "ปัญญาของแผ่นดิน" (Wisdom of The Land) ได้พยายามผลักดันงานวิจัยสู่ระดับโลก โดยการส่งเสริมและสนับสนุนนักวิจัยให้ไปสู่การค้นพบองค์ความรู้เชิงลึก และมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เดวิด รูฟโฟโล ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหนึ่งในความภูมิใจของมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะที่เป็น "ปัญญาของแผ่นดิน" และเป็นความภูมิใจของคนไทย
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เดวิด รูฟโฟโล สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ด้วยอายุเพียง 23 ปี ในปี 2534 และได้เริ่มทำงานในประเทศไทย ในฐานะอาจารย์สอนฟิสิกส์ จนสามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้เป็นอย่างดี และได้รับสัญชาติไทย ตั้งแต่ปี 2555
นอกจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน "รังสีคอสมิก" ซึ่งเป็นกัมมันตรังสีรอบโลก และได้พัฒนาความรู้เกี่ยวกับ "พายุสุริยะในอวกาศ" โดยมีผลงานเด่นจากการพัฒนาโปรแกรมจำลองรังสีคอสมิก เพื่อใช้ในการพยากรณ์ล่วงหน้า ก่อนที่จะเกิดคลื่นกระแทกจากพายุสุริยะเข้ามากระทบโลก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เดวิด รูฟโฟโล ยังเป็นแกนนำคนสำคัญในการสร้างทีมนักวิจัย เพื่อจัดตั้ง สถานีตรวจวัดอนุภาคนิวตรอนสิรินธร ณ ยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อวัดจำนวนและพลังงานของรังสีคอสมิกในประเทศไทย ตลอดจนให้ความรู้แก่สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปในเรื่องพายุสุริยะ อนุภาคพลังงานสูง และเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ทั่วไป ส่งผลให้ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น และทุนเมธีวิจัยอาวุโส สกว.ถึง 2 ครั้งที่ผ่านมา
ล่าสุดสามารถคว้าทุนระดับโลกที่ให้เวลาวิจัยถึง 10 ปี จาก Australian Antarctic Division (AAD) ประเทศออสเตรเลีย จากการเสนอโครงการ "Cosmic ray monitoring at Mawson and Kingston to study space weather and space physics" ร่วมกับ คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เดวิด รูฟโฟโล เป็นหัวหน้าโครงการ
ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2563 จะมีการล่องเรือ RSV Aurora Australis ไปยังสถานี Mawson ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการวิจัยถาวรแห่งแรกของประเทศออสเตรเลีย และมีการปฏิบัติการต่อเนื่องยาวนานที่สุดในทวีปแอนตาร์กติกา โดย อ.ดร.อเลฮานโดร ซาอิส ริเบรา อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ นายประดิพัทธ์ เหมืองห้า นักศึกษาปริญญาเอกของภาคฯ จะร่วมเดินทางไปเพื่อปฏิบัติภารกิจปรับปรุง และดูแลอุปกรณ์วัดรังสีคอสมิก ซึ่งเป็นอนุภาคจากอวกาศ ด้วยอิเล็กทรอนิกส์พิเศษ และเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลที่คณะนักวิจัยได้ริเริ่มและพัฒนาขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เดวิด รูฟโฟโล กล่าวว่า ทุนที่ได้รับจาก AAD นี้ ได้จากการชิงทุนโดยวิธีปกติ โดย AAD ให้การสนับสนุนในรูปแบบของโลจิสติกส์ ซึ่งครอบคลุมไปถึงการเดินทางทางเรือด้วย คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 4.8 ล้านบาทต่อครั้ง ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 10 ปี ซึ่งมีกำหนดเดินทาง 3 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มือดีอย่าง อ.ดร.อเลฮานโดร ซาอิส ริเบรา ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค จากประสบการณ์ 16 ปีที่ทำงานกับภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยมหิดล และยังได้เปิดโอกาสให้ นายประดิพัทธ์ เหมืองห้า นักศึกษาปริญญาเอกของภาคฯ ได้เดินทางไปร่วมเปิดประสบการณ์ และร่วมภารกิจในครั้งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาด้วย
สำหรับการตรวจวัดอนุภาครังสีคอสมิกนั้น แต่ละสถานที่จะวัดพลังงานได้ไม่เหมือนกัน ซึ่งที่แอนตาร์กติกาวัดได้พลังงานต่ำสุด ในขณะที่ประเทศไทยนั้นสามารถวัดได้พลังงานสูงสุด โดยภารกิจในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการศึกษาและเข้าใจสภาพอวกาศที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมของมนุษย์ ตลอดจนผลกระทบของพายุสุริยะและลมสุริยะที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งถึงแม้ปรากฏการณ์พายุสุริยะจะไม่ได้ทำอันตรายใดๆ ต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก แต่ก็ควรมีการเฝ้าระวัง จากอุทธาหรณ์เหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่แคนาดาในอดีต ซึ่งแสดงถึงผลกระทบของพายุสุริยะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ตลอดจนอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้กันในปัจจุบัน ดังรายละเอียดที่อธิบายใน www.facebook.com/thaispacephysics
โดยในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ รองศาสตราจารย์ ดร.พลังพล คงเสรี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ขอให้ประชาชนชาวไทยร่วมเป็นกำลังใจให้กับคณะนักวิจัยไทยที่ร่วมเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจสู่แอนตาร์กติกาในครั้งนี้ด้วย โดยกล่าวว่าภารกิจดังกล่าวเป็นการแสดงให้สังคมประจักษ์ถึงความสำคัญของงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และพิสูจน์บทบาทของการเป็น "ปัญญาของแผ่นดิน" ของมหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นความภูมิใจของคนไทย
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม
นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ)
งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป
สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
โทร. 0-2849-6210
มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ และมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัวโครงการปริญญาคู่วิชาการแพทย์สำหรับนักศึกษาไทย
ม.มหิดล ร่วมมือ ฮาร์วาร์ด - เอ็มไอที เชื่อมองค์ความรู้ระดับโลก เร่งผลักดันแผน "Medical Disruption" สร้าง Real World Impact ด้านสุขภาพ พลิกโฉมสาธารณสุขไทย
อลิอันซ์ อยุธยา ผนึก ม.มหิดล เปิดเวที "AI Driving the Future" ชี้ทิศทางใหม่ธุรกิจการเงิน-ประกัน ย้ำคนต้องมีทักษะ 3C และปรับองค์กรสู่โมเดล "ทรงเพชร" รับมือยุค AI
รับมือ Future Trend 2026 "ม.มหิดล" เดินหน้าเปิดแผน Medical Disruption ทุ่ม 3,000 ล้านบาท
บัตรเครดิต CardX JCB PLATINUM คว้ารางวัล "Business+ Product of the Year Awards 2025" สาขาผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมประเภทบัตรเครดิต สะท้อนภาพนวัตกรรมที่เข้าใจคนไทย
มหิดล-Dow ผนึกกำลังยกระดับสมองเด็กไทย สร้างทักษะ EF ปูรากฐานสู่อนาคตที่ยั่งยืน
George Mason University Korea เดินหน้าต่อยอด Study Trip ในไทย จับมือสถาบันการศึกษาและหน่วยงานรัฐชั้นนำ เสริมมุมมองกฎหมายและสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
เปิดฉากการแข่งขัน gSIC 2025! เวทีระดับนานาชาติเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงวัยด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในงาน i-CREATe 2025
Rama Channel แตะ 1,000,000 ผู้ติดตามบน YouTube ตอกย้ำบทบาทสื่อสุขภาพ จากทีมแพทย์รามาธิบดี ใกล้ชิดคนไทยยิ่งขึ้น