ที่ผ่านมาการผลิตผงปรุงรส "กลิ่นเนื้อ" ในระดับอุตสาหกรรมจะใช้การต้มวัตถุดิบในหม้อแรงดันสูงเป็นเวลานาน เพื่อให้ได้น้ำซุปเนื้อที่มีความเข้มข้นสูง ก่อนจะนำมาเข้ากระบวนการนำน้ำปริมาณมากออกไป และมาทำแห้งให้เป็นผงอีกทีหนึ่ง โดยกลิ่นเนื้อที่ผลิตจะไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์จริงเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย สินค้าที่โรงงานผลิตออกมาจะมีการจำหน่ายต่อให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหาร (Business to business marketing : B2B) เพื่อนำไปผลิตเป็นซุป ซอส และใช้ปรุงแต่งขนมขบเคี้ยว เป็นต้น แต่ด้วยกระบวนการผลิตรูปแบบเดิมนี้ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรเป็นอย่างมาก ทั้งน้ำ พลังงาน และแรงงานคน รวมถึงระยะเวลาในการผลิต ดร.วสันต์ รัตนานุภาพ ตำแหน่ง President และ CEO ของบริษัท The Mighty Co., Ltd. จึงจับมือกับ ศ.ดร.วิไล รังสาดทอง หัวหน้าศูนย์วิจัยด้านอาหารและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นักวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อยกระดับการผลิตด้วยผลงานวิจัยที่ได้มาตรฐาน
ศ.ดร.วิไล รังสาดทอง ได้อธิบายถึงกระบวนการผลิตที่ได้พัฒนาขึ้นให้กับบริษัทว่า "จากกระบวนการเดิมของบริษัท เราได้ทราบถึงขั้นตอนในการผลิตที่ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรด้านต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เราจึงได้ร่วมกันพัฒนาวิธีการที่จะลดการสูญเสียเหล่านั้นลง โดยการพยายามใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด ผ่านการใช้กระบวนการอัดรีด (Extrusion) ด้วยเครื่องเอ็กซ์ทรูเดอร์ (Extruder) แทนกระบวนการผลิตแบบเดิม ซึ่งจากการศึกษางานวิจัยที่ผ่านมา ยังไม่ค่อยมีการทำวิจัยเกี่ยวกับการนำวิธีการนี้มาใช้ผลิตผงกลิ่นเนื้อเท่าไหร่นัก"
"จากการทดสอบและพัฒนามาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เราจึงได้วัตถุดิบจำเพาะเป็นกรดอะมิโนจากพืช น้ำตาล และแป้งสาลี นำมาผ่านกระบวนการผลิตในอุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสม ได้ผลิตภัณฑ์เป็นผงกลิ่นเนื้อสีน้ำตาลสวยงามจากปฏิกิริยาเมลลาร์ด (Maillard reaction) มีกลิ่นเนื้อที่หอมตามธรรมชาติ ละลายง่ายใช้งานได้สะดวก ตรงตามโจทย์ที่ผู้ประกอบการต้องการ และผ่านมาตรฐานระดับสากลทั้งหมดที่บริษัทใช้ เช่น Food Safety, ISO, Halal และ GMP เป็นต้น"
ดร.วสันต์ เสริมเพิ่มเติมในมุมของผู้ประกอบการว่า "การผลิตด้วยรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นั้น ไม่เพียงได้ผลลัพธ์ในการทดสอบดีไม่น้อยกว่าการผลิตในรูปแบบเดิม แต่ในแง่มุมของต้นทุนการผลิตยังลดลงอีกด้วย เพราะเราสามารถผลิตได้ครั้งละปริมาณมาก ในขณะที่การสูญเสียทรัพยากรลดลง มีการใช้น้ำในปริมาณน้อยลงมาก ทำให้มีการใช้พลังงานในการผลิตลดลงไปกว่าครึ่ง ใช้เวลาในการผลิตน้อยลงมาก และยังใช้แรงงานคนน้อยลงด้วย ฯลฯ นอกจากนั้นกิจกรรมทางการค้าของเราไม่เพียงสร้างผลกำไรเลี้ยงดูพนักงานภายในองค์กรได้ แต่ยังมีส่วนในการลดการนำเข้าจากต่างประเทศได้ด้วย"
"สำหรับเรื่องตลาดกลิ่นเนื้อทางบริษัทถือได้ว่าเป็นเจ้าตลาดบุกเบิกในโซนนี้ เพราะเรามีการผลิตมากกว่า 30 ปีแล้ว แต่หากมองถึงการจะเปลี่ยนวิธีการผลิตที่ทำจนอยู่ตัวมาเป็นวิธีการผลิตใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนั่นหมายถึงการต้องเริ่มต้นใหม่แทบทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากผู้บริหารไม่กล้าเริ่มเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมก็จะไม่เกิดขึ้น เราจึงจำเป็นต้องกล้าได้กล้าเสียในระดับหนึ่ง เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงจากขนาดเล็กก่อนจะปรับขยาย (Upscale) ไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งในปัจจุบันด้วยความเชี่ยวชาญของคณะนักวิจัยทำให้ผลงานนวัตกรรมนี้ใกล้จะได้ปรับขยายไปสู่การใช้ผลิตจริงในเร็ววันนี้แล้ว"
ดร.วสันต์ ทิ้งท้ายเพิ่มเติมในด้านตลาดของผงปรุงรสว่า "เมื่อก่อนประเทศไทยมีการนำเข้าผงปรุงรสในปริมาณมาก ถ้าคิดเป็นมูลค่าทางการตลาดก็สูงถึงหลักพันล้าน เพราะสมัยก่อนเรานำเข้าทั้งหมด แต่ปัจจุบันเราสามารถผลิตเองได้แล้ว และมีสัดส่วนในการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศถึงร้อยละ 60 โดยส่งไปยังประเทศ จีน อินเดีย เกาหลี และอีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรูปแบบ B2B การเติบโตของตลาดอาหารในประเทศไทยมีลักษณะการเติบโตอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ดังนั้นแล้วการเติบโตไปข้างหน้าของวงการผู้ผลิตอาหารไทย จึงควรเติบโตด้วยฐานองค์ความรู้และนวัตกรรม (Innovation-based economy) โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green economy) และมีการใช้งานทรัพยากรอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า (Circular economy) เพื่อเสริมทัพให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้นและเดินหน้าอย่างยั่งยืน"
ธันยวดี วะสีนนท์ ดันนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนทุกวัย
คิง เพาเวอร์ ประกาศเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ นำร่องเมืองแรก ณ มหานครเซี่ยงไฮ้
"มาตรการลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหาร" สถานการณ์และผลสุ่มสำรวจโซเดียม กลุ่มขนมขบเคี้ยว กลุ่มอาหารแช่เย็น-แช่แข็ง และกลุ่มอาหารสำเร็จรูป ปี 2568 Sodium บ่อเกิดของโรค NCDs เตือนอ่านฉลากก่อนเลือกบริโภค
NRF คว้าคะแนนระดับ "ดีเยี่ยม" ในการประเมิน AGM Checklist ปี 2568 ยืนหยัดมาตรฐานสูงสุดด้านการกำกับดูแลกิจการ
โออิชิ อีทโตะ ร่วมกับ เซเว่น อีเลฟเว่น จัดเอ็กซ์คลูซีฟ เชฟส์ เทเบิ้ล โดย เชฟบิ๊ก ท็อปเชฟ ประเทศไทย 2023 เสิร์ฟประสบการณ์ไฟน์ไดน์นิ่งให้ลูกค้าคนพิเศษ
โออิชิ รุกต่างประเทศ !!! พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ ภายใต้แบรนด์ "โอโยชิ อีทโตะ" เจาะตลาดอาเซียน - ยุโรป
NRF สร้างปรากฏการณ์ในเวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025 เปิดตัว 2 ซอสใหม่แบรนด์ "พ่อขวัญ" กระแสดีเกินคาด ตอกย้ำผู้นำเครื่องปรุงรสเอเชียสู่ครัวโลก