นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราช กรุ๊ป และ กัลฟ์ เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของประเทศที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตไฟฟ้า การจับมือกันของทั้งสองบริษัทจะทำให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกองสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมได้ดียิ่งขึ้น และยังตอบสนองนโยบายความมั่นคงด้านพลังงานและการส่งเสริมให้ประเทศเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานของอาเซียนด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างพันธมิตรธุรกิจตอบสนองยุทธศาสตร์การเติบโตของบริษัทฯ สู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านพลังงานและระบบสาธารณูปโภคที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วย
"บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า โครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,400 เมกะวัตต์ จะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีคุณูปการต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว เพราะจะช่วยให้ระบบไฟฟ้าในภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศมั่นคงและตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเล็งเห็นว่า ราช กรุ๊ป และกัลฟ์ มีทิศทางและเป้าหมายธุรกิจที่สอดคล้องกันจึงมีโอกาสขยายความร่วมมือเป็นพันธมิตรลงทุนโครงการอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งจะเสริมหนุนการสร้างมูลค่ากิจการของบริษัทฯ ให้เติบโตบรรลุเป้าหมาย 200,000 ล้านบาทในปี 2566 อีกด้วย" นายกิจจา กล่าว
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง ขนาดกำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยหน่วยผลิตไฟฟ้าจำนวน 2 ชุด ชุดละ 700 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง พัฒนาและดำเนินการโดยบริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดยบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด โครงการนี้ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 และมีกำหนดการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2567 สำหรับหน่วยผลิตไฟฟ้าชุดที่ 1 และปี 2568 สำหรับหน่วยผลิตไฟฟ้าชุดที่ 2 ปัจจุบัน โครงการนี้อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลโดยสังเขป บมจ. ราช กรุ๊ป
บมจ. ราช กรุ๊ป (เดิมชื่อ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2543 มี ทุนจดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 14,500 ล้านบาท มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 45% บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้ง โดยลงทุนถือหุ้นผ่านบริษัทย่อย และบริษัทร่วมทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การลงทุนมุ่งเน้นธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก ต่อมาได้ขยายการลงทุนสู่ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้าและพลังงาน ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนโครงการต่างๆ ใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สปป.ลาว ออสเตรเลีย จีน และอินโดนีเซีย ประเทศไทยถือเป็นฐานประกอบธุรกิจหลัก สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ratch.co.th
EGCO Group เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นโรงไฟฟ้า Linden Cogen เป็น 38% เสริมแกร่งกลยุทธ์การลงทุนในสหรัฐอเมริกา
บี.กริม เพาเวอร์ ปิดการขายหุ้นกู้ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ด้วยยอดจองซื้อกว่า 2 เท่า ขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจตอบรับ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
EGCO Group ฉลุย! โรงไฟฟ้า Quezon ฟิลิปปินส์ คว้าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ 15 ปี
EGCO Group ปิดดีลขายหุ้นโรงไฟฟ้า RISEC ในอเมริกา
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เดินหน้าพัฒนาพลังงานของประเทศไทยจากการสร้างโรงไฟฟ้าหินกองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 1,400 เมกะวัตต์
BGRIM ปิดการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจตอบรับ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
EGCO Group ขายหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้า RISEC อเมริกา ให้ SHELL
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เสร็จสิ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ขนาด 5,300 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย