บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 23 โครงการ และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศอีก 41 โครงการ ประสบความสำเร็จจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ โดยผู้ลงทุนให้ความสนใจตอบรับจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ที่เสนอขายในระหว่างวันที่ 14-15 และ 18-19 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ขณะที่ บี.กริม เพาเวอร์ เผยพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้การตอบรับลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ บี.กริม เพาเวอร์ รวมถึงสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายทั้ง 9 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ที่อำนวยความสะดวกทั้งการให้ข้อมูลและเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งที่ 1/2562 ที่จะถึงกำหนดวันชำระคืนก่อนครบกำหนดครั้งแรก ในเดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวน 8,000 ล้านบาท โดย บี.กริม เพาเวอร์ กำหนดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรกไว้ที่ 5.75% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใดก็ได้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ โดยไม่จำกัดระยะเวลาและจำนวนครั้ง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ออกหุ้นกู้แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยจะปรับทุกๆ 5 ปี โดยอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ ขณะนั้น แล้วบวกส่วนเพิ่มคงที่ (Initial Credit Spread) 3.49% ต่อปี และส่วนเพิ่มตามช่วงเวลา (Step-up coupon) ตั้งแต่ 0.25% - 2.00% ต่อปี โดย บี.กริม เพาเวอร์ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ที่ระดับ "A" แนวโน้ม "คงที่" ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่เสนอขายในครั้งนี้อยู่ที่ระดับ "BBB+" โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567
นอกจากนี้ ในปี 2567 บี.กริม เพาเวอร์ ได้ประกาศยุทธศาสตร์ GreenLeap - Global and Green มุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก และผู้นำด้านการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัย โดยมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 4,071 เมกะวัตต์ ณ เดือน พฤศจิกายน 2567 เป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 ผ่านการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นด้านพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ อยู่ระหว่างการแสวงหาการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ตะวันออกกลางอย่างซาอุดีอาระเบีย และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา รวมทั้งยุโรป เพื่อกระจายความเสี่ยงจากต้นทุนพลังงาน
ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ บี.กริม เพาเวอร์กล่าวเสริมว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ มาจากความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน ทั้งในด้านยุทธศาสตร์และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้โครงสร้างทางการเงินของบี.กริม เพาเวอร์ ยังคงความแข็งแกร่ง สอดรับกับแผนการขยายการลงทุนของบริษัท ในอนาคต
บี.กริม เพาเวอร์ ปิดการขายหุ้นกู้ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ด้วยยอดจองซื้อกว่า 2 เท่า ขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจตอบรับ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
EGCO Group ปิดดีลขายหุ้นโรงไฟฟ้า RISEC ในอเมริกา
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เดินหน้าพัฒนาพลังงานของประเทศไทยจากการสร้างโรงไฟฟ้าหินกองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 1,400 เมกะวัตต์
EGCO Group ขายหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้า RISEC อเมริกา ให้ SHELL
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เสร็จสิ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ขนาด 5,300 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย
BGRIM เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ คาดเปิดจองซื้อ 14-15 และ 18-19 พ.ย. นี้ชูดอกเบี้ย 5 ปีแรก [5.75 - 5.95]% ต่อปี จ่ายทุก 6 เดือน ผ่าน 9 สถาบันการเงินชั้นนำ
ราช กรุ๊ป ประกาศกำไรสุทธิ 3,827 ล้านบาทในครึ่งปีแรก ปัจจัยหนุนจากกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของกังหันก๊าซ M701JAC ตัวที่ 6 ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) ในประเทศไทย โครงการที่มีชั่วโมงการเดินเครื่องจริง (AOH) ถึง 50,000 ชั่วโมง