สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เริ่มบางเบาลงในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรปที่ควบคุมได้ดี โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยหนุนต่อการทยอยเปิดเมือง และกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวในแต่ละประเทศอาจไม่เท่ากัน แต่นับได้ว่าสภาวะที่แย่ที่สุดได้ผ่านไปแล้ว
KBank Private Banking ร่วมกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง Lombard Odier มองว่า ช่วงนี้เป็นเวลาสำคัญในการติดตามว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวอย่างไร โดยมุมมองของ ดร.แซมมี่ ชาร์ Chief Economist จาก Lombard Odier ได้พูดผ่านสัมมนาออนไลน์สดจาก Geneva สรุปได้ 4 ประเด็นหลัก ดังนี้
- ความสามารถในการควบคุมโรคโควิด 19 ที่เกิดขึ้นในรอบแรก รวมทั้งความพร้อมของเครื่องมือและมาตรการ เช่น การทดสอบและติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ การรักษา ความสามารถของโรงพยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ในการรองรับผู้ป่วย รวมถึงการเว้นระยะห่างทางกายภาพและการป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัย จะช่วยให้เราจัดการสถานการณ์ได้ดีและไม่ได้รับผลกระทบหนักจนต้องกลับไปปิดเมืองอีกครั้งหากเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2
- การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้กลับไปจุดเดิมยังต้องใช้เวลา แม้จะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งด้านการเงินและการคลังที่มากเป็นประวัติการณ์ คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ในลักษณะ Nike-shaped (Swoosh-shaped) คือ เป็น V-shaped ในช่วงแรกของการเปิดเมือง และค่อยๆ ฟื้นตัวในอัตราที่น้อยลงในช่วงท้าย
- เศรษฐกิจในระยะยาวจะเติบโตช้า ดอกเบี้ยต่ำจนถึงติดลบ เงินเฟ้อต่ำ หนี้สินสูง และเกิดความไม่เท่าเทียมกันอย่างมีนัยสำคัญทางสังคมและเศรษฐกิจ
- ความเสี่ยงของการคาดการณ์นี้คือ ควบคุมการระบาดรอบ 2 ได้ไม่ดี การกีดกันทางการค้า และการถอนนโยบายอัดฉีดเศรษฐกิจเร็วกว่ากำหนด ไม่ว่าจะเป็นการลดการซื้อสินทรัพย์ ขึ้นดอกเบี้ย หรือการรัดเข็มขัดงบประมาณรัฐบาล
ด้าน นางสาว ศิริพร สุวรรณการ Financial Advisory Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย ได้ให้คำแนะนำในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน ภายใต้มุมมองต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจข้างต้น ดังนี้
- จากความสามารถในการควบคุมโรคโควิด 19 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป หุ้น และหุ้นกู้คุณภาพดี ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ กว่าเงินฝากหรือตราสารการเงินระยะสั้น เพราะดอกเบี้ยต่ำ
- เมื่อเศรษฐกิจโตอย่างช้าๆ ดังนั้น ไม่ใช่หุ้นทุกตัวจะลงทุนได้ การบริหารเชิงรุกมีบทบาทสำคัญในการค้นหาและคัดเลือกหุ้นของผู้ชนะ โดยกลุ่มที่จะได้ประโยชน์คือธุรกิจเกี่ยวกับ
(1) เทคโนโลยีเละดิจิตอล (2) ผู้สูงวัยและชนชั้นกลางที่มีรายได้สูง (3) จีน ผู้มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองและจะเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจในอนาคต (4) ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ลดโลกร้อน และพลังงานแห่งอนาคต เป็นต้น - อย่างไรก็ตาม การเติบโตในช่วงท้ายๆ จะช้าลงและตลาดการเงินจะผันผวนสูง บวกกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และข้อพิพาททางการค้า ตลอดจนความไม่แน่นอนในการเคลื่อนไหวของการเลือกตั้งสหรัฐฯ จากวันนี้จนถึงปลายปี ดังนั้น พอร์ตของนักลงทุนควรมีสินทรัพย์ที่ช่วยพยุงมูลค่าเงินลงทุน เช่น พันธบัตรรัฐบาล และทองคำ เป็นต้น
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร KBank Private Banking ยังคงยึดการลงทุนระยะยาวและการกระจายความเสี่ยงเป็นหัวใจหลักของคำแนะนำการลงทุน
เมย์แบงก์ จัดสัมมนาเจาะลึกโอกาสการลงทุน ท่ามกลางศึกยักษ์ใหญ่จีน-สหรัฐ
SME D Bank เดินหน้านโยบายรัฐ จัดมหกรรมแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืน ชู "3 ลด" ช่วยผู้ประกอบการก้าวพ้นวิกฤต สร้างโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง
กรุงเทพฯ ขยับอันดับขึ้นอีกครั้งในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index) ปี 2025 ของ Kearney ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
"โกลเบล็ก" ระบุราคาทองคำยังน่าจับตา! นักลงทุนแห่ถือครองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก
เมย์แบงก์ จัดสัมมนาเจาะลึกโอกาสการลงทุน ท่ามกลางศึกยักษ์ใหญ่จีน-สหรัฐ
KKP NeXtGen: From Study to Success ก้าวสู่ปีที่ 12 เสริมศักยภาพทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ สานต่อธุรกิจครอบครัวอย่างยั่งยืน
"โกลเบล็ก" คัดหุ้น 2 กลุ่มเด็ดน่าลงทุน "กลุ่มอาหาร-โรงไฟฟ้า"
Thailand Blockchain Week 2025 มหกรรมงานบล็อกเชนและการเงินแห่งโลกอนาคต
"ซิตี้แบงก์" คาดการณ์จีดีพีโลกครึ่งหลังปี 68 ชะลอตัวเหลือ 1.5% หลังเผชิญแรงกดดันทางการค้า พร้อมคาดจีดีพีไทยปี 68 เติบโต 2.2% ก่อนชะลอตัวเหลือ 1.6% ในปี 69 รับผลท่องเที่ยวและส่งออก