สจล. โชว์ผลงาน “ดีไซน์ดิสรัปชัน” ลดเสี่ยงโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชน – ห้องเรียน – โรงพยาบาล พร้อมรับมือคลายล็อกดาวน์เฟส 5

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

  • อธิการบดี สจล. ชี้ 3 เทรนด์ดีไซน์ดิสรัปชัน ต้องรักษาความสะอาด – ต้อง User friendly – ต้องให้สังคมเข้าถึงได้
  • เปิดผลสำรวจ นักศึกษาจำนวน 52.5% มีความสุขในระดับน้อยมากในช่วง Study from Home สจล. เผยความพร้อมห้องเรียนแบบ New Normal รับการกลับมาเรียนอย่างปลอดภัย

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารกระบัง (สจล.) เปิด 3 คอนเซ็ปต์งานออกแบบที่เปลี่ยนไป เพื่อการอยู่ร่วมกันในยุคหลังโควิด-19 (Design disruption) ได้แก่ 1) งานออกแบบเพื่อสุขอนามัยส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวม 2) งานออกแบบเพื่อความสะดวกต่อผู้ใช้งาน และเพื่อความสวยงาม และ 3) งานออกแบบที่สังคมเข้าถึงได้ พร้อมนำร่องโชว์ห้องเรียน New Normal ต้อนรับการเปิดเทอมในเดือนสิงหาคม ที่จะมีทั้งการเรียนแบบในห้องเรียนปกติ และแบบออนไลน์ โดยจากผลสำรวจพบว่า นักศึกษาจำนวน 52.5% มีความสุขในการเรียนแบบ Study from Home ในระดับน้อยที่สุด จากอุปสรรคด้านบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวยถึง 71.4% และปัญหาด้านอินเทอร์เน็ตและการสื่อสาร 62.4% ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังพบว่านักศึกษาและประชาชนจำนวน 90% มีความยินดีใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างเหมาะสมกับผู้ใช้งาน (User friendly) นอกจากนี้ยังเตรียมนำแนวคิดดีไซน์ดิสรัปชันมาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ (High risk) เช่น โรงเรียน ต้องคำนึงถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ที่ต้องรักษาระยะห่าง (Physical distancing) โรงพยาบาล ต้องตั้งจุดคัดกรองตั้งแต่ก่อนเข้าอาคาร เพื่อเรียกความมั่นใจของประชาชนในการกลับมาใช้ชีวิตปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) อย่างปลอดภัย หลังมาตรการคลายล็อกดาวน์เฟส 5

สจล. โชว์ผลงาน “ดีไซน์ดิสรัปชัน” ลดเสี่ยงโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชน – ห้องเรียน – โรงพยาบาล พร้อมรับมือคลายล็อกดาวน์เฟส 5

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ตลอดช่วงเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา สจล. ได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ตรวจคัดกรอง และรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อาทิ นวัตกรรมตู้ตรวจเชื้อความดันลบ ความดันบวก รถตู้โมบายล์ Swab Test ระบบ AI คัดกรองอุณหภูมิ เป็นต้น ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวเป็นผลสำเร็จจากการบูรณาการองค์ความรู้ด้านต่างๆ หนึ่งในองค์ความรู้ที่มีบทบาทสำคัญคืองานออกแบบอันชาญฉลาด ที่มีส่วนอย่างยิ่งในการผลิตนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่งานออกแบบจะยังคงมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมต่อไป โดยเฉพาะในด้านการออกแบบที่เปลี่ยนไปเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัยในยุคหลังโควิด-19 (Design disruption) โดย สจล. ได้เปิดตัว 3 แนวคิดดีไซน์ดิสรัปชัน ประกอบด้วย สจล. โชว์ผลงาน “ดีไซน์ดิสรัปชัน” ลดเสี่ยงโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชน – ห้องเรียน – โรงพยาบาล พร้อมรับมือคลายล็อกดาวน์เฟส 5

  1. งานออกแบบเพื่อสุขอนามัยส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวม ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลง ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น แต่การดูแลสุขอนามัยส่วนตัวในพื้นที่ส่วนร่วมยังคงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ งานออกแบบจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) การติดตั้งระบบฆ่าเชื้อด้วย UV-C หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ตามจุดต่างๆ การเลือกใช้วัสดุที่ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ การออกแบบระบบกรองอากาศเพื่อป้องกันเชื้อโรค เป็นต้น
  2. งานออกแบบเพื่อความสะดวกต่อผู้ใช้งาน และเพื่อความสวยงาม นอกจากหลักการออกแบบที่ต้องคำนึงถึงสุขลักษณะแล้ว การออกแบบยังต้องคำนึงถึงความสะดวกต่อการใช้งาน (User friendly) โดยหลักการออกแบบเพื่อผู้ใช้ทุกกลุ่ม (Universal design) จะต้องคิดครอบคลุมมากขึ้น ไปถึงการออกแบบให้ทุกคนเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างปลอดภัย และปลอดเชื้อไปพร้อมกัน ในขณะเดียวกัน การออกแบบเพื่อความสวยงามก็ยังคงเป็นสิ่งที่นักออกแบบต้องพัฒนาควบคู่กันไป
  3. งานออกแบบที่สังคมเข้าถึงได้ อีกหนึ่งแนวคิดที่สำคัญอย่างยิ่งของดีไซน์ดิสรัปชันคือ การออกแบบต้องสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงในสังคม ซึ่งถือเป็นความท้าทายของนักออกแบบที่ต้องวางแผนกระบวนการผลิตงานออกแบบออกมาเป็นจริงได้ ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ การคำนวณต้นทุน ปริมาณการผลิตที่สมเหตุสมผล ตลอดจนการประเมินความสามารถในการใช้งานได้จริงในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น เพื่อให้งานออกแบบสามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคมได้เป็นวงกว้าง

ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สจล. ได้นำร่องประยุกต์ใช้แนวคิดการออกแบบดังกล่าว ในห้องเรียนเพื่อต้อนรับการกลับมาเปิดภาคเรียนในเดือนสิงหาคม ที่จะยังคงมีการเรียนทั้งในรูปแบบออนไลน์ และการเรียนในห้องเรียนอย่างปลอดภัยภายใต้สิ่งอำนวยความสะดวก และมาตรการป้องกันการติดเชื้อ โดยจากผลสำรวจพบว่า นักศึกษาจำนวน 52.5% มีความสุขในการเรียนแบบ Study from Home ในระดับน้อยที่สุด เนื่องจากอุปสรรคด้านบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวยถึง 71.4% และปัญหาด้านอินเทอร์เน็ตและการสื่อสาร 62.4% ฯลฯ อย่างไรก็ตาม สจล. ยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบการเรียนรูปแบบออนไลน์ควบคู่ไปกับการเรียนในห้องเรียนแบบ New Normal เพื่อความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ในอนาคต อีกทั้งผลสำรวจยังพบว่าคนทั่วไปและนักศึกษาจำนวน 90% พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ด้าน ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล. ได้เตรียมนำแนวคิดดีไซน์ดิสรัปชันมาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบในพื้นที่ความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ (High risk) และพื้นที่สาธารณะที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก หลังมาตรการคลายล็อกดาวน์เฟส 5 ซึ่งมีแนวโน้มที่ผู้คนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามวิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่มากยิ่งขึ้น (New Normal) โดยตัวอย่างพื้นที่สาธารณะที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล. กำลังเดินหน้าพัฒนางานออกแบบเพื่อยกระดับการอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัย ได้แก่ งานออกแบบในโรงเรียน ต้องคำนึงถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ที่ต้องรักษาระยะห่าง (Physical distancing) โดยใช้ระบบแบ่งกลุ่มจำนวนนักเรียนต่อห้อง การใช้ที่กั้นระหว่างโต๊ะเรียน โต๊ะอาหาร เป็นต้น งานออกแบบในโรงพยาบาล ต้องให้ความสำคัญกับการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งโรคติดต่ออื่นๆ โดยการตั้งจุดคัดกรองตั้งแต่ก่อนเข้าอาคาร ซึ่งอาจใช้ระบบการออกแบบห้องตรวจคัดกรองแบบความดันบวกเพื่อให้แพทย์ใช้ตรวจคัดกรองผู้มีความเสี่ยงติดเชื้ออย่างปลอดภัย การติดตั้งระบบกรองอากาศในบริเวณที่แพทย์ต้องทำหัตถการให้แก่ผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ เป็นต้น

ในขณะที่ การออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้าน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ต้องมีการออกแบบที่รองรับการอยู่ร่วมกันของคนแต่ละวัยอย่างปลอดภัย โดยลักษณะโดยทั่วไปของครอบครัวไทย เป็นครอบครัวที่มีคน 4 รุ่น อาศัยอยู่ร่วมกัน ได้แก่ รุ่นปู่ย่าตายาย รุ่นพ่อแม่ รุ่นลูก และเด็กเล็ก ซึ่งคนในกลุ่มวัยทำงานและวัยเรียนอย่างรุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อมากกว่าผู้ที่อยู่แต่ในบ้าน จากการต้องออกจากบ้านไปทำงานหรือไปเรียน ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ รุ่นปู่ย่าตายาย เป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ด้วยระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่ต่ำกว่าคนวัยอื่น ดังนั้น การอยู่ร่วมกันในบ้าน จึงต้องมีการแบ่งเขต (Zoning) ระหว่างคนวัยเรียน ทำงาน และผู้สูงอายุ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากผู้ที่ออกไปข้างนอกเป็นประจำ โดยอาจออกแบบให้ผู้สูงอายุอยู่ในห้องนอนติดกระจกใสชั้นล่าง เพื่อให้ยังมองเห็นคนในครอบครัว และไม่รู้สึกว่าถูกแยกขาดจากกันมากเกินไป นอกจากนี้ แม้ว่าสถานที่ทำงานหลายแห่งจะกลับมาเปิดทำการตามปกติ แต่แนวโน้มการทำงานจากที่บ้านจะมีเพิ่มขึ้น ดังนั้น การออกแบบบรรยากาศ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการทำงานที่บ้าน (Work station) ก็เป็นอีกเทรนด์ออกแบบที่น่าสนใจ ผศ.ดร.อันธิกา กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สจล. ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวคอนเซ็ปต์ New Design for New Normal เมื่อเร็วๆ นี้ ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารกระบัง (สจล.) สำหรับผู้ที่สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักบริหารงานทั่วไปและประชาสัมพันธ์ สจล. โทรศัพท์ 02-329-8111 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/kmitlofficial


ข่าวสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้า+สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าวันนี้

เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 200,000 บาท ชวนนักเรียน-นักศึกษา ร่วมออกแบบโมเดลธุรกิจสีเขียวฉบับคนรุ่นใหม่! ตอบโจทย์โลกที่ยั่งยืน

วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (International College Panyapiwat Institute of Management) ร่วมกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย (HSBC Thailand) บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG Group) เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย (Accenture Thailand) คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL Business School) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. ร่วมกับ มศก. และ สจล. แถลงข่าวความสำเร็จ MSME ไทย สู่ธุรกิจสีเขียว — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร ...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์แ... สวทช. - สพฐ. - สจล. ปั้นเยาวชน EEC สู่นักสร้างสรรค์อาหารยุคใหม่ ในโครงการ "EEC FOOD INNOVATION" — เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง...