กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 1 มิ.ย.63 ถึงปัจจุบัน (6 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 13 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน ลำปาง พิจิตร และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว รวม 28 อำเภอ 51 ตำบล 108 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 512 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 จนถึงปัจจุบัน (6 มิ.ย. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 13 จังหวัด รวม 28 อำเภอ 51 ตำบล 108 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 512 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แยกเป็น ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน ลำปาง พิจิตร และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 64-ปัจจุบัน เกิดวาตภัยและลูกเห็บตกในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และกำแพงเพชร รวม 5 อำเภอ 6 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18 หลัง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 20 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จากสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระ