นักลงทุนรุ่นใหม่ เผยตลาดหุ้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วทั่วโลกในครั้งนี้เป็นผลมาจากการทำคิวอีอย่างไม่จำกัด ทำให้สภาพคล่องส่วนเกินเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น สวนทางกับภาคเศรษฐกิจจริงที่ยังไม่เห็นภาพการฟื้นตัว ระวังทองคำ ในระยะสั้นถูกเทขาย เพราะนักลงทุนแห่ลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แต่ระยะยาวยังน่าสนใจในการลงทุนจากภาวะเงินเฟ้อ เช่นเดียวกับสินทรัพย์ดิจิทัล บิทคอยน์
นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากสภาพคล่องที่เกิดขึ้นจากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางใหญ่ของโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) ซึ่งเม็ดเงินที่เกิดจากการใช้นโยบายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ได้ทำให้งบดุลของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
“งบดุลของรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งแตะ 7 ล้านล้านดอลลาร์ ที่สำคัญ คือมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงแค่สองเดือนหลังจากสหรัฐฯ ประกาศอัดฉีดเงินแบบไม่มีจำกัด เรียกได้ว่าการอัดฉีดเงินครั้งนี้มีปริมาณเทียบเท่ากับเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากการทำคิวอี ทั้งสามครั้งในอดีต แต่นี่เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงแค่สองเดือนนิดๆเท่านั้น”
นอกจากนี้ดัชนี Dollar Index ซึ่งเทียบเคียงกับสกุลเงินหลักของโลกอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นไปได้ว่าอาจจะมาจาก Fed Fund Futures ที่เริ่มแสดงให้เห็นว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นเริ่มมีสัญญาณของการให้ผลตอบแทนที่ติดลบแล้ว ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ทำให้นักลงทุนทั่วโลก เริ่มนำเงินออกจากสกุลดอลลาร์ไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น
“สินทรัพย์การลงทุนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่มีทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน รวมถึงสกุลเงินดิจิตอล การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์มีการกลับมาแข็งค่าเล็กน้อยในช่วงวันศุกร์ (5 มิ.ย.) ที่ผ่านมาจากการรายงานตัวเลขผู้ว่างงานที่ลดลงและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม แต่ในระยะยาวยังมีปัจจัยลบอื่นที่จะกดดันเงินดอลลาร์อยู่ ไม่ว่าจะกรณีประท้วงจอร์จ ฟลอยด์ หรือความขัดแย้งกับประเทศจีน
ทั้งนี้ตลาด NASDAQ ซึ่งเป็นตลาดของบริษัททางด้านเทคโนโลยีที่ไม่เพียงแต่กลับมาอยู่ในระดับเดิมก่อนเกิดวิกฤติ แต่ได้ทำนิวไฮใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการฟื้นตัวแบบ V Shape ขณะที่ดัชนี S&P500 ก็เริ่มฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับระดับเดิมก่อนเกิดวิกฤติเช่นกัน
สำหรับตลาดหุ้นไทยได้ฟื้นตัวขึ้นยืนเหนือระดับ 1,400 จุด โดยแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติเป็นฝ่ายที่กลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย แม้ว่าสำนักวิจัยเศรษฐกิจต่างคาดการณ์จีดีพี ปีนี้ จะปรับลดลง สาเหตุที่ตลาดหุ้น รวมถึงราคาน้ำมัน ปรับตัวขึ้นสวนทางกับภาพรวมของเศรษฐกิจจริง เป็นเพราะสภาพคล่องที่มีอยู่ล้นทั่วโลกจากการอัดฉีดสภาพคล่อง ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาลงและบางประเทศมีอัตราที่ติดลบ ทำให้สภาพคล่องส่วนเกินต้องมองหาสินทรัพย์ในการลงทุนจึงเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นแทน
“หลายประเทศทั่วโลก ยกเว้นลาตินอเมริกาที่ไวรัสโควิด-19 เพิ่งจะระบาดหนัก เริ่มมีมาตรการคลายการ Lockdown ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าไปเก็งกำไรในตลาดหุ้นเพื่อเก็งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ประกอบกับคำพูดของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องแบบไม่ยั้งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเกิดความมั่นใจ อีกทั้งเงินเฟ้อที่เริ่มฟื้นตัวและอัตราการว่างงานที่เริ่มชะลอตัวลง ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าการทำคิวอีเป็นเครื่องมือที่ได้ผล อย่างไรก็ตามการที่ตลาดหุ้นขึ้นมารอบนี้เป็นผลจากสภาพคล่องและความเชื่อมั่นเท่านั้น แทบจะไม่มีเหตุผลทางด้านปัจจัยพื้นฐานของภาคเศรษฐกิจจริงเท่าใดนัก”
นอกจากนี้การที่ The Economist สื่อเศรษฐกิจชั้นนำของโลกได้ให้ความเห็นว่าตอนนี้ Wall Street และ Main Street หรือภาคการเงินและภาคเศรษฐกิจจริงได้ถูกแยกออกจากกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เป็นการชี้ชัดว่าตลาดหุ้นที่ขึ้นมาในรอบนี้มาจากสภาพคล่องที่ล้นอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ทองคำในระยะสั้นแม้จะมีการถูกเทขายจนลงมาแตะระดับ 1,700 ดอลลาร์ต้นๆ แต่ระยะยาวยังน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่ออกมาจากการทำคิวอีจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งทองคำ รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ จะสามารถให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี
“มีคำพูดว่า Don’t Fight The FED หรืออย่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเฟดคำพูดนี้อาจจะจริง คิวอีอาจจะแก้ปัญหาที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ได้ แต่เศษซากที่เกิดจากการอัดฉีดสภาพคล่องนั่นคือเงินเฟ้อจะส่งผลเสียต่อเงินดอลลาร์ในระยะยาว” นายณพวีร์ กล่าวทิ้งท้าย
จับจังหวะเดือนกันยายนทยอยสะสม "หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ - บิทคอยน์"
โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน "เรียลเอ็กซ์" ทางเลือกใหม่ของการลงทุน เปิดจองซื้อถึง 31 ส.ค.66 นี้
XSpring Digital ขึ้นเบอร์ 1 ICO Portal ไทย! ปิดดีล "SiriHub2 Token" ยอดจองล้น มองเทรนด์ลงทุนสินทรัพย์ RWA มาแรงหนุนโทเคนเติบโตทั่วโลก
Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศร่วมมือ TON บล็อกเชนตัวดังของ Telegram เปิดโอกาสการใช้งาน Web3 ให้คนไทย
ออร์บิกซ์ คว้าใบอนุญาตนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) เสริมศักยภาพสู่การเป็นแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก
Bitkub Academy จับมือ สถาบันฝึกอบรม สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ผลักดันมาตรฐานความรู้ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย
Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศร่วมมือกับ Pudgy Penguins โปรเจกต์เพนกวินสุดโด่งดัง สู่การขยาย NFT Community ในไทย
efin Group ประกาศความสำเร็จ Better Trade 2025 เวทีการลงทุนแห่งปี สร้างปรากฏการณ์ นำ AI เข้าปฏิวัติการลงทุน พร้อมรวมกูรูชั้นนำในทุกสินทรัพย์