“สุวิทย์” เสนอกระบวนทัศน์ 7 ขยับปรับเปลี่ยนโลกสู่วาระขับเคลื่อนประเทศ ชี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ถูกบรรจุไว้ในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ด้าน สอวช. ชูธงนำนโยบายเชิงสังคมแก้วิกฤต สร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ย้ำต้องปลูกฝังตั้งแต่ครอบครัว

“สุวิทย์” เสนอกระบวนทัศน์ 7 ขยับปรับเปลี่ยนโลกสู่วาระขับเคลื่อนประเทศ ชี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ถูกบรรจุไว้ในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว

ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภาพอนาคตประเทศไทยหลังวิกฤตโควิด
19 ผ่านการประชุมออนไลน์ นำเสนอเปเปอร์ “โลกเปลี่ยน คนปรับ ความพอเพียงในโลกหลังโควิด”
โดยมีผู้เข้าประชุมจากหลายภาคส่วน ทั้งเครือข่ายนักวิจัย ภาคสังคม มหาวิทยาลัย
ภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อสารมวลชน “สุวิทย์” เสนอกระบวนทัศน์ 7 ขยับปรับเปลี่ยนโลกสู่วาระขับเคลื่อนประเทศ ชี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ถูกบรรจุไว้ในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.
ได้แลกเปลี่ยนถึงบทความในหนังสือเรื่อง “โลกเปลี่ยน คนปรับ
ความพอเพียงในโลกหลังโควิด” ที่ได้เขียนขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยหยิบยกประเด็นความไม่สมดุลทั้งมนุษย์กับมนุษย์
และมนุษย์กับธรรมชาติ และข้อพึงระวังที่ต้องร่วมกันหลุดพ้นเพื่อจะนำพาประเทศและประชาคมโลกไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ตลอดจนการเสนอทางออกของประเทศผ่านการปรับกระบวนทัศน์การพัฒนาจาก “โลกที่มุ่งพัฒนาสู่ความทันสมัย”
(Modernism) เป็น “โลกที่มุ่งพัฒนาสู่ความยั่งยืน”
(Sustainism) ที่เน้นความคิดฐานรากแบบ “การผนึกกำลังร่วม”
แทนการยึดตนเองเป็นที่ตั้ง เพราะเชื่อว่าเมื่อความคิดฐานรากเปลี่ยน โครงสร้างเชิงระบบก็จะถูกปรับ
และความคิดฐานรากที่ถูกต้องภายใต้การผนึกกำลังกันจะทำให้เกิดการบูรณาการในระบบ เมื่อระบบต่าง
ๆ ถูกบูรณาการ โลกที่ไร้สมดุล ก็จะค่อย ๆ ถูกปรับเป็น โลกที่สมดุล อันจะนำมาสู่สันติสุขและความมั่นคง
ในขณะที่ความเสี่ยงและภัยคุกคามก็จะถูกลดทอนลง และโลกที่สมดุลนี่เองที่จะนำพาพวกเราไปสู่พลวัตความยั่งยืนแทนวิกฤตซ้ำซากและวิกฤตเชิงซ้อน
อย่างที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน “สุวิทย์” เสนอกระบวนทัศน์ 7 ขยับปรับเปลี่ยนโลกสู่วาระขับเคลื่อนประเทศ ชี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ถูกบรรจุไว้ในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว

ดร. สุวิทย์ กล่าวว่า ในมุมของตนเอง โควิด
19 เป็นตัวเร่งการปรับเปลี่ยน ก่อให้เกิดการขยับปรับเปลี่ยนโลก 7 ประการ คือ
ขยับที่ 1 จาก โมเดลตลาดเสรี สู่
โมเดลตลาดร่วมสร้างสรรค์ ขยับที่ 2 จากการผลิตและการบริโภคที่มุ่งเน้นการแข่งขันให้กับตน
สู่การผลิตและการบริโภคที่มุ่งเน้นการผนึกกำลังความร่วมมือ ขยับที่ 3 จากการมุ่งเน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สู่
การมุ่งเน้นที่ขับเคลื่อนที่สมดุล ขยับที่ 4 จากชีวิตที่ร่ำรวยทางวัตถุ
สู่ ชีวิตที่รุ่มรวยความสุข ขยับที่ 5 จากเศรษฐกิจเส้นตรง
สู่เศรษฐกิจหมุนเวียน ขยับที่ 6 จากระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สู่การสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของมนุษย์ ขยับที่ 7 จากการตักตวงผลประโยชน์จากส่วนรวม สู่การรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม

“โควิด 19 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งของมนุษยชาติ
อันที่จริงแล้ว “7 ขยับ ปรับเปลี่ยนโลก” ไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกขยับล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่บนหลักคิด
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ปัญหาคือพวกเราเพียงแค่ตระหนักรู้ แต่ไม่ได้ลงมือทำ
ในโลกหลังโควิด มนุษย์จะอยู่รอดได้ เราต้องลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ในโลกก่อนโควิด เรามองตัวเองเป็นเพียงพลเมืองของประเทศ มุ่งเน้นสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กร
ให้กับประเทศ แต่ ณ วันนี้ ในโลกหลังโควิด เราต้องร่วมกันฟื้นฟูโลกให้ดีขึ้น เราต้องเป็นทั้งพลเมืองของประเทศและเป็นพลเมืองของโลกในเวลาเดียวกัน
โดยผมมีแนวคิดในการเสนอวาระขับเคลื่อนประเทศ เตรียมพร้อมสู่โลกหลังโควิด
ผ่านการชูบีซีจี โมเดล เป็นคานงัดสำคัญให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประเทศ
เมื่อบริบทโลกเปลี่ยนไป
ถึงเวลาที่ต้องทบทวนยุทธศาสตร์ประเทศว่ายังควรใช้แผนเดิมหรือไม่ นอกจากนี้
บริบทโลกในปัจจุบันการดิสรัปชั่นไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจเท่านั้น
แต่ยังมีการดิสรัปชั่นเรื่องความเสี่ยงและภัยคุกคาม
ที่ส่งผลกระทบทั้งต่อมิติเศรษฐกิจ ตลอดจนมิติทางสังคมของประเทศด้วย เพราะฉะนั้น
เราควรเร่งทบทวนเพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง ผ่านการปรับกระบวนทัศน์การพัฒนาชุดใหม่ของประเทศ
ซึ่งผมเสนอเรื่อง 7 ขยับปรับเปลี่ยนโลก
และนำมาจัดทำเป็นพิมพ์เขียวยุทธศาสตร์ประเทศ
และนำสู่วาระขับเคลื่อนการปฏิรูปที่มุ่งผลลัพธ์การขับเคลื่อนที่สมดุล
ทั้งด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความอยู่ดีมีสุขของสังคม การรักษ์สิ่งแวดล้อม
และภูมิปัญญาของมนุษย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำมาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งการเติบโตอย่างยั่งยืน การแบ่งปันความมั่นคง และการมีสันติภาพที่ถาวร” ดร.
สุวิทย์ กล่าว

ทั้งนี้
ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนกันอย่างกว้างขวาง โดย ดร. กิติพงค์  พร้อมวงค์  ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวอช.) ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า การแก้วิกฤตการณ์ต่างๆ
รวมถึงโควิด 19 จะแก้โดยใช้เพียงเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแก้ด้วยการปลูกฝังจากภายในจากจิตวิญญาณ
 โดยอาศัยนโยบายเชิงสังคมที่ต้องลงไปถึงหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคมอย่างครอบครัว
ที่จะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนท่าทีหรือพฤติกรรมที่พึงประสงค์
โดยสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องสั่งสมตั้งแต่วัยเด็ก บ่มเพาะจนเกิดเป็นนิสัย
เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าสิ่งที่เราทำวันนี้ย่อมส่งผลต่อลูกหลานในอนาคต
เราจึงจำเป็นที่จะต้องปรับให้ถูกต้องแต่ต้น นโยบายต้องลงลึกถึงระดับครอบครัว
ซึ่งเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวช่วยแก้สิ่งที่คนได้รับการปลูกฝังไม่ได้

“กระทรวงการอุดมศึกษาฯ
ไม่ใช่แค่กระทรวงด้านวิทยาศาสตร์ แต่เรามีคณาจารย์
บุคลากรด้านการอุดมศึกษาที่มีศักยภาพทั้งด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์
และสาขาอื่นๆ
ที่จะมาช่วยบูรณาการความคิดแบบข้ามศาสตร์เพื่อมาร่วมหาแนวทางที่จะนำมาซึ่งความปกติสุขของประเทศหลังวิกฤตการณ์โควิด
นอกจากนี้ ในส่วนการทำนโยบายเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของประเทศ ก็ต้องปรับกระบวนทัศน์ใหม่
ต้องเน้นการสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ใช่แค่เพียงการสนับสนุน ให้สิทธิประโยชน์เพื่อให้เกิดแรงจูงใจเท่านั้น
เพราะการสร้างแรงบันดาลใจจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมจากภายในที่จะส่งผลออกมายังพฤติกรรมมากกว่าการใส่ตัวเงินหรือผลประโยชน์”
ดร. กิติพงค์  กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ได้จากการประชุม จะนำไปพัฒนาบทความ “โลกเปลี่ยน
คนปรับ ความพอเพียงในโลกหลังโควิด” ให้สมบูรณ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะ และ
สอวช. จะใช้เป็นข้อมูลประกอบการพัฒนานโยบายและแผนการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ต่อไป


ข่าวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง+กระทรวงการอุดมศึกษาวันนี้

เปิดตัว 15 นักธุรกิจ พอแล้วดี The Creator "ดีพอและพอดี" ในงานพอแล้วดี XP 2568 นำศาสตร์พระราชามาพัฒนานักธุรกิจที่สร้างสรรค์ยั่งยืนและพร้อมก้าวต่อไปในระดับนานาชาติในปี 2569

พอแล้วดี The Creator โครงการที่พัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ ภายใต้ "ความพอดีที่ดีพอ" ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy SEP) ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ควบคู่ไปกับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) จัดงาน "พอแล้วดี XP 2568" พร้อมแถลงข่าวความสำเร็จของการคัดสรรและพัฒนา 15 นักธุรกิจ ในโครงการพอแล้วดี The Creator รุ่นที่ ๙.๑ ปี ๒๕๖๘ จากทั่วประเทศ พร้อมเล่าเรื่องราวกิจกรรมอื่นๆในปีที่ผ่านมา อาทิ การจัดงานพอแล้วดี XP ใน

ทั้ง คน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สะท... ทรู คอร์ปอเรชั่น ผ่านการรับรองมาตรฐานภาคอุตสาหกรรม มอก.9999 ด้วย 4 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง — ทั้ง คน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สะท้อนองค์กรดิจิทัลต้นแบบ...

กระทรวงแรงงานจัดงานใหญ่ พิธีมอบประกาศเกีย... TCMC รับมอบรางวัลจากกระทรวงแรงงาน — กระทรวงแรงงานจัดงานใหญ่ พิธีมอบประกาศเกียรติคุณสถานประกอบกิจการ และรัฐวิสาหกิจต้นแบบแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอ...

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพ... กคช. จัด OPEN HOUSE เปิดบ้าน "บมจ.เคหะสุขประชา" — นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดบ้าน OPEN HOUSE...