เคล็ดลับ 5 ข้อจาก ThoughtWorks เมื่อองค์กรต้อง Work From Home

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สถานการณ์โรคระบาด Covid-19 ยังคงส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ผู้คนจำนวนมากจำเป็นต้องอยู่แต่ในที่พักอาศัย องค์กรก็ต้องปรับวิธีการทำงานเพื่อความปลอดภัยของพนักงานเพื่อให้ธุรกิจยังดำเนินต่อไปได้ การ Work From Home ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาไปแล้วในตอนนี้ หลายคนหลายองค์กรก็ได้มีประสบการณ์ทำงานจากที่บ้านเป็นครั้งแรก การเปลี่ยนวิธีการทำงานมาเป็นการทำงานระยะไกลอย่างกะทันหัน หลายบริษัทอาจยังไม่คุ้นชิน และพบว่าค่อนข้างยากในการปรับตัว    

เคล็ดลับ 5 ข้อจาก ThoughtWorks เมื่อองค์กรต้อง Work From Home

ในสถานการณ์เช่นนี้ ThoughtWorks บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ใน 13 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์การทำงานแบบติดต่อสื่อสารทางไกล กับทีมงานทั่วโลกในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางให้แก่องค์กรอื่นๆ และผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดคู่มือแนะนำวิธีการทำงานระยะไกล หรือ 'The Remote Work Playbook’ เพื่อไปปรับใช้ พร้อมมองว่าในวิกฤตเช่นนี้ อาจเป็นโอกาสที่องค์กรจะได้ทดลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ ให้สอดคล้องกับยุคสมัยมากขึ้นด้วย เคล็ดลับ 5 ข้อจาก ThoughtWorks เมื่อองค์กรต้อง Work From Home

เคล็ดลับ 5 ข้อจาก ThoughtWorks มีดังนี้

  1. เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มทำงานระยะไกล: หากต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานอย่างกะทันหันอาจเกิดความไม่ราบรื่นบ้างในช่วงแรก จึงควรลำดับความสำคัญให้ดี และสื่อสารสถานการณ์ให้ชัดเจน รวมทั้งจัดสอนวิธีการใช้เครื่องมือออนไลน์ต่างๆ ที่สำคัญ เพื่อให้พนักงานทำงานต่อจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากใครสามารถทำงานจากระยะไกลได้เลย ก็ให้เริ่มได้ทันที
  2. จัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือที่ครบครัน: องค์กรต้องเตรียมความพร้อม จัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทำงานออนไลน์ให้พนักงาน ทั้งด้านฮาร์ดแวร์อย่างคอมพิวเตอร์และหูฟังที่มีประสิทธิภาพ การเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือ VPN ในกรณีที่จำเป็น การจัดการด้านความปลอดภัยในการเข้าใช้งานระบบต่างๆ และอาจเตรียมเครื่องมือเสริมการทำงานอื่นๆ ด้วย เช่น Zendesk, Jira Service Desk และ Freshdesk เป็นต้น  
  3. วิธีสื่อสารและรูปแบบการทำงานต่างๆ: วิธีการสื่อสารเวลาทำงานระยะไกลนั้นมีหลากหลายรูปแบบและมีเครื่องมือที่เหมาะสมให้เลือกใช้มากมายที่ตอบโจทย์การทำงานเหล่านี้ เช่น
    - การสนทนาทั่วไปในทีม (Chat) สามารถใช้ Slack, Google Chat
    - การประชุมกับลูกค้า การถ่ายทอดสดและการบันทึกวิดีโอ สามารถใช้ Zoom, MS Teams
    - การสร้างห้องหรือจับคู่สนทนา สามารถใช้ Tuple, TeamHub
    - บอร์ดและพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน บริหารโปรเจค ระดมสมอง สามารถใช้ Trello, Jira, Kanbanize, Monday.com, Jamboard
    - การตรวจสอบ Code ทาง GitHub, GitLab

ซึ่งแต่ละเครื่องมือก็มีข้อดีข้อจำกัดแตกต่างกันไป บริษัทต้องตรวจสอบดูความพร้อมและความเหมาะสมของแต่ละเครื่องมือสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน

องค์กรต้องกำหนดรูปแบบการทำงานขั้นตอนต่างๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำตามได้ ตั้งแต่การจัดวางแผนตารางงานระยะยาว ตั้งโจทย์การทำงานที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน และประชุมเพื่ออัพเดทสถานการณ์รายวัน

  1. คอยสนับสนุนและอยู่เคียงข้างบุคลากรของคุณ: เรื่องที่สำคัญไม่แพ้เครื่องมือและกระบวนการคือพนักงานองค์กรต้องพร้อมสนับสนุนพนักงานเพื่อให้การทำงานราบรื่น มีประสิทธิภาพ และมีประสบการณ์ที่ดี เช่น  จัดเตรียมข้อมูลที่จำเป็นให้พนักงานใหม่ทางออนไลน์เพื่อทำความเข้าใจองค์กรและจับคู่กับพนักงานปัจจุบันที่พร้อมคอยให้คำแนะนำ จัดเวลาให้มีการคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถามไถ่ความเป็นอยู่เรื่อย ๆ  รวมทั้งมีช่วงเวลาที่พนักงานได้ผ่อนคลายและใช้เวลาว่างร่วมกันทางออนไลน์ทุกวันๆ ละ 15 – 60 นาที เช่น เล่นเกม กีฬา พูดคุยสังสรรค์ หรือ ทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ผ่านทางออนไลน์

นอกจากนี้ องค์กรควรมีความยืดหยุ่นและเข้าใจพนักงานที่อาจต้องเผชิญความท้าทายหรือจัดการชีวิตส่วนตัวไปพร้อมกัน เช่น การดูแลลูกที่วิ่งเล่นภายในบ้าน หรือสภาพจิตใจที่เศร้าหมองจากเหตุการณ์ต่างๆ เป็นต้น

  1. อย่าลืมจัดการความคาดหวังกับบุคคลอื่น: นอกจากการติดต่อสื่อสารภายในแล้ว องค์กรควรสื่อสารกับบุคคลที่เกี่ยวข้องภายนอกอย่างต่อเนื่องและพูดคุยเพื่อปรับเปลี่ยนแผนงานและเป้าหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป มีการบันทึกการประชุมและความเคลื่อนไหวไว้เพื่อแจ้งความคืบหน้าต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ Covid-19 ถือเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างจากปกติทั่วไป จึงต้องมีการปรับใช้ให้เหมาะสม และจำเป็นที่ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน

ดาวน์โหลด 'The Remote Work Playbook’ ของ 'ThoughtWorks ฉบับเต็มได้ที่: http://www.thoughtworks.com/remote-work-playbook


ข่าวความปลอดภัย+การทำงานวันนี้

อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ชวนองค์กรทั่วโลกดูแลความปลอดภัยและสุขภาพในที่ทำงาน ด้วยการพลิกโฉมการฝึกอบรม-สนับสนุนพนักงาน เนื่องในวันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสากล

บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS ) ผู้นำระดับโลกด้านบริการสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัย เรียกร้องให้องค์กรทั่วโลกแสดงความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน เนื่องในวันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสากล (World Day for Safety and Health at Work) เพราะการล้มป่วยและบาดเจ็บจากการทำงานยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวลในระดับสากล ขณะที่ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยทุก ๆ ปีมีพนักงานราว 2.93 ล้านคนเสียชีวิตจากโรคที่

ดีป้า ชี้ตราสัญลักษณ์ dSURE ที่มอบให้กับผ... ดีป้า ชู dSURE กลไกกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ระดับ 4.0 — ดีป้า ชี้ตราสัญลักษณ์ dSURE ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านคว...

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทย... โครงการสัมมนาวิชาการ AI & Cyber Intelligence: The Future of Human-Machine Collaboration & Security — คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัย...

เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ... ภาคก่อสร้างไทยยืนแกร่ง ย้ำมาตรฐานความแข็งแรง ปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นภาคอสังหาฯ ไทย — เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา สร้างความต...

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระ... รมต.แรงงานเปิดโครงการด้านความปลอดภัยที่ยั่งยืน — นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิด "โครงการประชุมเชิงปฏ...

เสริมศักยภาพการทำงานด้วย Microsoft 365 E3... คินดริล จับมือ กรุงศรี ร่วมทรานส์ฟอร์มการทำงานสู่ "Modern Workplace" — เสริมศักยภาพการทำงานด้วย Microsoft 365 E3 เพื่อส่งมอบประสบการณ์"ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน...

บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน... TBN ร่วมงาน DX Day 2025 ยกระดับองค์กรสู่ Work Smart with DX — บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN ผู้นำด้าน Intelligent Digital Platform ไ...