คลังเปิดตัวเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com รวมทุกมาตรการด้านการเงินดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ COVID - 19 ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ร่วมกับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จัดทำเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com เพื่อเผยแพร่มาตรการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบการจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการ

คลังเปิดตัวเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com รวมทุกมาตรการด้านการเงินดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ COVID - 19 ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง

นายกมลภพ วีระพละ รองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับ สมาคมสถาบันการเงิน     ของรัฐ จัดทำเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรวบรวม และเป็นช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลมาตรการด้านการเงินของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง ในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตรงความต้องการของลูกค้า ประชาชนและผู้ประกอบการ  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคาร จึงได้มีนโยบายอย่างเร่งด่วนให้ ธอส. ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงิน  ของรัฐ ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการพัฒนา Website ดังกล่าว โดยได้วางโครงสร้างการออกแบบเว็บไซต์ เน้นความสะดวกและง่ายต่อการสืบค้นหาข้อมูลมาตรการด้านการเงินต่าง ๆ  โดยสามารถเลือกค้นหาได้ทั้งตามสถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่ง ประกอบด้วย 1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 2.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3.ธนาคารออมสิน 4.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 5.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 6.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) 7.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย  8.บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) และ 9.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และเลือกตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่ 1.เกษตรกรและ SMEs เกษตรกร 2.ประชาชนฐานรากและบุคคลทั่วไป 3.ผู้ประกอบการ SMEs 4.ผู้ประกอบการนำเข้า – ส่งออก และ 5.Non-Bank   ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ยังมีการจัดกลุ่มตามการช่วยเหลือเป็นด้าน ได้แก่ พักชำระเงินต้น/ดอกเบี้ย ลดอัตราดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือเติมสินเชื่อใหม่ให้เพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการเงินให้กับประชาชน และผู้ประกอบการ ตลอดจนสนับสนุนแหล่งเงินให้กับประชาชน   และผู้ประกอบการให้มีสภาพคล่องหรือมีเงินทุนไปใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเงื่อนไขในแต่ละมาตรการนั้น   จะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละแห่งเป็นผู้พิจารณาอนุมัติตามความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ คลังเปิดตัวเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com รวมทุกมาตรการด้านการเงินดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ COVID - 19 ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง

ทั้งนี้ ลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถเข้าดูข้อมูลเว็บไซต์ดังกล่าวได้ทาง www.เราไม่  ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com หรือเข้าทางเว็บไซต์ของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ www.gfa.or.th นอกจากนี้  ยังสามารถคลิกแบนเนอร์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และเว็บไซต์ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง โดยเมื่อลูกค้าประชาชนหรือผู้ประกอบการสนใจเลือกใช้มาตรการใด  ได้แล้วสามารถคลิกลิงค์เข้าไปยังเว็บไซต์ของสถาบันการเงินของรัฐที่สนใจเพื่อดูรายละเอียดมาตรการ  และติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ เป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการลดความเสี่ยงจากการที่ต้องเดินทางไปติดต่อสถาบันการเงินต่าง ๆ ด้วย สำหรับช่องทางการเข้าสืบค้นหาข้อมูลมาตรการด้านการเงินดังกล่าว สามารถเข้าดูได้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป   คลังเปิดตัวเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน-ด้านการเงิน.com รวมทุกมาตรการด้านการเงินดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ COVID - 19 ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง


ข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง+สำนักงานเศรษฐกิจการคลังวันนี้

รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประจำเดือนธันวาคม 2563

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) มีผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 917 ราย ใน 74 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (543 ราย) รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง (147 ราย) ภาคเหนือ (115 ราย) ภาคตะวันออก (64 ราย) และภาคใต้ (48 ราย)

รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประจำเดือนกันยายน 2563

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) มีผู้ที่...

ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 27

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นางสาวเกตสุดา สุประดิษฐ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกับกระทรวงการคลัง... ภาพข่าว: "จัดงานโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ครั้งที่ 1/2563" — สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกับกระทรวงการคลังและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานโครงการตลาดทุนพบภา...

คณะสภาธุรกิจอาเซียน-สหภาพยุโรป (EU-ASEAN Business Council: EU-ABC) เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมนายชาญกฤช ...

เป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2563

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2563 ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... ธนาคารกรุงไทย ร่วมฉลองครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง เคียงข้างไทยในทุกก้าวสำคัญ — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียร...

ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิ... ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น" มากสุดเป็นประวัติการณ์ — ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น"...