ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารยูโอบี (ไทย)ที่ 'A-’ และอันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของ ธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT ที่ 'A-’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ได้รับการคงอันดับเครดิตที่ 'AAA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT ที่ 'bbb-’

อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ภายใต้หลักเกณฑ์บาเซล 3 สกุลเงินบาทของ UOBT ถูกปรับลดอันดับเป็น 'AA(tha)’ จาก 'AA+(tha)’   โดยการปรับลดอันดับเป็นผลมาจากการปรับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิในกรณีพื้นฐานตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตฉบับปรับปรุงล่าสุด

สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตสากลของ UOBT พิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารแม่ซึ่งคือ United Overseas Bank Limited ("UOB"; อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ AA-/เครดิตพินิจเป็นลบ) จากประเทศสิงคโปร์  UOBT มีบทบาทสำคัญมาอย่างยาวนานต่อกลยุทธ์ของธนาคารแม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ธนาคารแม่ยังเป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดในบริษัทลูก อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงในการบริหารงานและมีการผสานการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ UOBT มีการใช้ชื่อ สัญลักษณ์ทางการค้าและทำการตลาดร่วมกันกับธนาคารแม่

อันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT สะท้อนถึงความเสี่ยงในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตเครดิตภายในประเทศจากฟิทช์ ฟิทช์เชื่อว่าโครงสร้างอันดับเครดิตของ UOBT ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยสนับสนุน มีความสอดคล้องกับอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ โดยอันดับเครดิตของ UOBT ได้รับการสนับสนุนจาก UOB ซึ่งมีอันดับเครดิตสูงกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ 'BBB+' และเพดานอันดับเครดิต (country ceiling) ที่ 'A-’ อยู่หลายอันดับ

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ UOBT ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารเนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT ที่ 'bbb-' สะท้อนถึงฐานะทางการเงินของตัวธนาคารเอง ซึ่งรวมถึงฐานะเงินกองทุนและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งและโครงสร้างเครือข่ายธุรกิจ (company profile) ที่เหมาะสม UOBT มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากที่ประมาณ 3% ซึ่งส่งผลให้มีข้อจำกัดในด้านความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจและการได้เปรียบเชิงขนาด อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังได้พิจารณาถึงการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานตามปรกติจาก UOB เช่นในด้านการบริหารความเสี่ยงและความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังได้สะท้อนถึงสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่ยากลำบากมากขึ้นและผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่อ่อนแอมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและทั่วโลกที่ซบเซา แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีมาตรการผ่อนปรนเพื่อช่วยสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ แต่มาตรการเหล่านี้ไม่น่าจะหักล้างความเสี่ยงที่เกิดจากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อลูกหนี้ที่มีฐานะทางการงินที่อ่อนแอหรือเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารไทยสามารถดูได้จาก “Coronavirus Outbreak Increases Challenges for Thai Banks’ Operating Environment” ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ที่ http://www.fitchratings.com/site/pr/10116671

เนื่องจากระยะเวลาและแนวโน้มความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดของโคโรน่าไวรัส ยังมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าตามสมมติฐานกรณีฐาน ผลการดำเนินงานของ UOBT จะได้รับผลกระทบในช่วง 2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย โดยอัตราส่วนที่สำคัญในด้านการเงินจะอ่อนตัวลงจากในปี 2562 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของ UOBT อยู่ในระดับที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมและฟิทช์คาดว่าจะยังคงอยู่ระดับที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระดับการยอมรับความเสี่ยงของธนาคาร (risk appetite) ที่มีความระมัดระวัง กำไรของธนาคารจะได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สภาวะแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่น้อยลง

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตของตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2) ของ UOBT ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสอดคล้องวิธีการปรับลดอันดับเครดิตสำหรับตราสารหนี้ด้อยสิทธิจากอันดับเครดิตอ้างอิงตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสำหรับธนาคารที่ปรับปรุงล่าสุดของฟิทช์และสะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้ไม่ได้มีการปรับลดอันดับเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ดาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption)

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับได้ เนื่องจากอยู่ในระดับเดียวกันกับเพดานอันดับเครดิตของประเทศทไทยที่ 'A-'  อันดับเครดิตสนับสนุน อันดับเครดิตภายในประเทศ หรืออันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับเครดิตได้

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

หากความสามารถที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่ UOBT มีการปรับตัวลดลง อาจส่งผลให้อันดับเครดิตของ UOBT ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน แต่ทั้งนี้ธนาคารแม่ต้องถูกปรับลดอันดับเครดิตลงหลายอันดับ เนื่องจาก ณ ปัจจุบันอันดับเครดิตของธนาคารแม่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลของ UOBT และเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทยอยู่หลายอันดับ ซึ่งฟิทช์ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง

การปรับตัวลงลงอย่างมากของโอกาสที่ UOBT จะได้รับการสนับสนุนจาก UOB อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตสนับสนุน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ของธนาคารลูก ตัวอย่างเช่น การลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารแม่ลงต่ำกว่า 75% รวมถึงการลดการควบคุมการบริหารงานและการผสานการดำเนินงานที่ลดลง อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในระยะสั้น

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหากเครือข่ายทางธุรกิจของ UOBT ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยที่ธนาคารยังคงรักษามาตรฐานการยอมรับความเสี่ยงอย่างระมัดระวังและอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมโดยรวม อย่างไรก็ตามสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่ท้าทายน่าจะจำกัดโอกาสในการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงสองปีข้างหน้า

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจได้รับการปรับลดอันดับหากมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญในด้านคุณภาพสินทรัพย์และด้านผลกำไรลงไปต่ำกว่าระดับที่ฟิทช์คาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการทบทวนมุมมองของฟิทช์ต่อระดับการยอมรับความเสี่ยงของธนาคารและความเพียงพอของเงินกองทุน ตัวอย่างเช่น การปรับตัวแย่ลงของคุณภาพสินทรัพย์ซึ่งอาจสะท้อนโดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่สูงเกินระดับ 4% อย่างต่อเนื่องในขณะที่ด้านกำไรซึ่งสะท้อนโดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ต่ำกว่า 1%

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

ไม่มีปัจจัยใดที่จะทำให้อันดับเครดิตของตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2) ของ UOBT ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเนื่องจากอันดับเครดิตอ้างอิงซึ่งคืออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารเป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2) ของ UOBT จะถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารซึ่งเป็นอันดับเครดิตอ้างอิงได้รับการปรับลดอันดับ

รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:

  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่  'F1’
  • อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงอันดับที่ 'bbb-’
  • อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '1’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'AAA(tha)’
  • อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ปรับลดอันดับเป็น  'AA (tha)’ จาก 'AA+ (tha)’


ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+ฟิทช์ เรทติ้งวันนี้

BAFS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 4.75 - 5.10% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อแก่ "สถาบัน-รายใหญ่" วันที่ 9 - 14 พ.ค. นี้ รองรับการขยายตัวธุรกิจในอนาคต

BAFS เตรียมออกหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [ 4.75 5.10 ] % ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ "BBB (tha)" จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เตรียมเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ คาดจองซื้อระหว่างวันที่ 9 และ 13 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท...