SGP ปรับแผนสู้โควิด-19 เตรียมทำธุรกิจใหม่นำเข้าและจำหน่ายน้ำมันดีเซล ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ถือเป็นจังหวะที่ดี หลังผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของสิงคโปร์ที่เป็นเจ้าตลาดใน CLMV ล้มละลาย SGP จึงเตรียมนำเข้าน้ำมันดีเซล ไปจำหน่ายแทน เพื่อกระจายฐานรายได้และทดแทนการขาย LPG ล่าสุดประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ทำรายได้ 16,507.05 ล้านบาท มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 475.20 ล้านบาท
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า กรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ขยายตัวเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา มีผลทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร และศูนย์การค้า ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักในประเทศมีความจำเป็นต้องหยุดให้บริการชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส มีผลกดดันต่อปริมาณการขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังเดือนมีนาคม 2563
โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ขยายไปยังธุรกิจใหม่ คือ การนำเข้าและจำหน่ายน้ำมันดีเซล ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เนื่องจากมองว่าเป็นจังหวะที่ดี หลังผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศสิงคโปร์ ที่เป็นเจ้าตลาดใน CLMV ล้มละลาย บริษัทฯจึงนำเข้าน้ำมันดีเซลไปจำหน่ายแทน เพื่อกระจายฐานรายได้ จากปัจจุบันประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งได้รับผลกระทบการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มโรงแรม ศูนย์การค้า โรงงานอุตสาหกรรม ปิดดำเนินธุรกิจชั่วคราว
ก่อนหน้านี้บริษัทได้ซื้อบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต จำกัด หรือ TPP เมื่อปลายเดือนมกราคม 2563 ซึ่งให้บริการคลังเก็บสินค้าเหลว ซึ่งปัจจุบันมีคลังเก็บที่ยังคงว่างอยู่จำนวน 2 ถัง จึงนำมาใช้เก็บน้ำมันดีเซล เพื่อนำไปจำหน่ายต่อในกลุ่มประเทศ CLMV ได้ ขณะนี้บริษัทได้นำเข้าน้ำมันดีเซลมาแล้ว โดยล็อตแรกมีปริมาณ 40 ล้านลิตร ซึ่งอยู่ระหว่างการสูบถ่ายจากเรือน้ำมันเข้ามาเก็บไว้ในถังเก็บ โดยเมื่อแล้วเสร็จน้ำมันดีเซลดังกล่าวจะถูกส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV ต่อไป
ล่าสุดประกาศผลประกอบการในงวดไตรมาส 1 ปี 2563 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 475.20 ล้านบาท ลดลง 84.84 ล้านบาท หรือลดลง 15.15% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 560.04 ล้านบาท
โดยมีรายได้รวม 16,507.05 ล้านบาท ลดลง 1,141.64 ล้านบาท หรือลดลง 6.47% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 17,648.69 ล้านบาท เป็นผลมาจากปริมาณการขายก๊าซ LPG ทั้งในประเทศและต่างประเทศปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.23
ในส่วนของภาวะราคาเฉลี่ยก๊าซ LPG ตลาดโลก มีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจากเดือนมกราคม 2563 ที่ระดับ 577.5 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 235 เหรียญสหรัฐต่อตันในเดือนเมษายน 2563 ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิท-19 แต่สำหรับในเดือนพฤษภาคมราคาเฉลี่ยก๊าซ LPG เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 105 เหรียญสหรัฐต่อตัน อยู่ที่ 340 เหรียญสหรัฐต่อตัน
"สยามแก๊ส" คว้า Human Rights Awards 3 ปีซ้อน ยืนหนึ่งองค์กรธุรกิจต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน
สยามแก๊สฯ (SGP) ต้อนรับสมาคมธุรกิจแก๊สจากประเทศจีน เยี่ยมชมคลังสยามสุขสวัสดิ์ ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และมองโอกาสขยายการลงทุนเพิ่มในอนาคต
กลุ่มสยามแก๊ส (SGP) มอบยางรถบรรทุก 400 เส้น สนับสนุนกองกำลังบูรพา เสริมภารกิจด้านความมั่นคงชายแดน
สยามแก๊สฯ (SGP) ได้รับคะแนน "ดีเยี่ยม" จากการประเมิน AGM Checklist 2568
SGP รับโล่ชื่นชมโครงการ "ทิ้ง ทู แทรช" ตอกย้ำความมุ่งมั่นองค์กรสีเขียว ร่วมสร้างวัฒนธรรมลดขยะและก๊าซเรือนกระจก
SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
สยามแก๊สฯ สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม 3 โครงการใหญ่ "ปันรักษ์ ปันสุข - ป่าไร้ควัน - ร้อยต้น ล้านลมหายใจ" สร้างความยั่งยืนชุมชนและสิ่งแวดล้อม
SGP เปิดคลังแก๊ส LPG ยักษ์ใหญ่ ณ เมืองจูไห่อย่างเป็นทางการ พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 อย่างแข็งแกร่ง ขยายศักยภาพธุรกิจพลังงานในระดับสากล
SGP ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings" ในระดับ "AA" ประจำปี 2567