มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ขอรณรงค์ให้ทุกคนช่วยสนับสนุนให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไปในช่วงโควิด-19 ระบาด ตอกย้ำถึงความสำคัญและประโยชน์ของนมแม่ ซึ่งมีภูมิต้านทานที่จะทำให้เด็กไม่ป่วยบ่อย ลดการไปโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวโดยเฉพาะในยุคของโควิดนั้น ลูกของแม่ที่ยังคงได้กินนมจะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระและภูมิต้านทานโรคจากน้ำนมแม่ด้วย
จากข้อมูล ณ วันที่ 28 เมษายน 2563 จากองค์การอนามัยโลก และงานวิจัยจากทั้งประเทศจีนและอีกหลายประเทศ ยังไม่พบว่ามีเชื้อโควิด-19 ในน้ำนมแม่ แม่ที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงสามารถให้นมได้ โดยเน้นเรื่องการป้องกันการแพร่เชื้อด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด และ เว้นระยะห่าง
มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ขอความร่วมมือ ไม่บริจาคนมผงให้กับแม่ผู้ที่กำลังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เนื่องจากการเสริมนมผงให้กับลูกที่ได้รับนมแม่อยู่แล้ว จะทำให้ขบวนการสร้างน้ำนมของแม่ลดน้อยลง และอาจหมดไป ลูกสูญเสียโอกาสได้รับประโยชน์มหาศาลทั้งในระยะสั้น และระยะยาวของนมแม่ และเมื่อหมดนมบริจาค อาจไม่สามารถจัดหานมผงมาเลี้ยงลูกต่อจากภาระค่าใช้จ่าย จึงขอสนับสนุนการให้บริจาคสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ อาทิ ของใช้ทารก อาหาร หรือเงินให้กับแม่ผู้กำลังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แทนนมผง
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะบริจาคนมผงให้กับเด็กและทารกและเด็กเล็ก ควรปรึกษาแพทย์พยาบาล ด้านอนามัยแม่และเด็กในหน่วยงานสาธารณาสุข หรือเจ้าหน้าที่หน่วยสังคมสงเคราะห์ในจังหวัด หากท่านใดมีข้อสงสัย ติดต่อ “บริการแพทย์พยาบาลอาสามูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย” ในวันที่ 1 - 31 พ.ค. 2563 ได้ในเวลา 09.00 - 18.00 น. โทร 091-998-0009, 095-001-8333 หรือ Line @nnn7233b FB Page : มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย
กรมอนามัย จับมือ WHO – ยูนิเซฟ – มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เดินหน้ารณรงค์ ย้ำนมแม่ดีที่สุด
สธ. ร่วมกับเครือข่าย ตั้งเป้าปี 68 เด็กไทยอย่างน้อยร้อยละ 50 กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน
ภาพข่าว: ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การผ่าตัดคลอดบุตรทางหน้าท้อง
รวมเครือข่าย “พลังรัก นมแม่” ครั้งแรกในประเทศไทย สร้างสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่