ตรวจให้ดี...ทำไมมีลูกยาก เพื่อเตรียมวางแผนให้คุณตั้งครรภ์ได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมื่อมีครอบครัว ความต้องการมีลูกเพื่อมาเติมเต็มให้เป็นครอบครัวให้สมบูรณ์ จึงเป็นเรื่องที่หลายคนคาดหวัง แต่อีกหลายครอบครัวกลับประสบกับภาวะมีบุตรยาก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในคู่สามีภรรยายุคใหม่ ดังนั้น การรู้เท่าทันและวางแผนชีวิตคู่ในเรื่องการตั้งครรภ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้จัดการได้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องเสียใจกับคำว่าสายเกินไปที่จะตั้งครรภ์

ตรวจให้ดี...ทำไมมีลูกยาก  เพื่อเตรียมวางแผนให้คุณตั้งครรภ์ได้

นพ.ปภากร มิ่งมิตรพัฒนะกุล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการเจริญพันธุ์และรักษาผู้มีบุตรยาก ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า ภาวะการมีบุตรยาก หรือ ภาวะการมีลูกยาก(Infertility) หมายถึง เมื่อคู่สมรสที่มีความสัมพันธ์ ทางเพศเป็นปกติเป็นเวลา 12 เดือนขึ้นไป แล้วยังไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น หรือ 6 เดือนขึ้นไปถ้าฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 35 ปี โดยในระหว่างนี้ไม่มีการใช้การคุมกำเนิดใดๆ บางคนอาจเคยมีลูกมาแล้ว มีความประสงค์อยากจะมีลูกใหม่ และได้พยายามอยู่นานเกินกว่า 1 ปีก็ยังไม่สำเร็จ กลุ่มนี้ถือว่ามีอาการภาวะมีลูกยากเช่นกัน ต้องพิจารณาตรวจหาสาเหตุและแก้ไขรักษา ตรวจให้ดี...ทำไมมีลูกยาก  เพื่อเตรียมวางแผนให้คุณตั้งครรภ์ได้

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ยากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงโอกาสที่ตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลดลงนั้นมาจากคุณภาพของไข่เป็นหลัก เพื่อความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นเราอาจต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกในการปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์(ไข่และตัวอสุจิ)ดังนี้ เซลล์ร่างกายประกอบด้วยโครโมโซมทั้งหมด 46 ชิ้นหรือ 23 คู่ การที่ทารกจะลืมตาดูโลกนั้นมีจุดเริ่มต้นจากเซลล์สืบพันธุ์ (Gamete) ของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเซลล์สืบพันธุ์นี้ก็จะนำเอาสารพันธุกรรมของพ่อและแม่ไปรวมกันเกิดขึ้นเป็นชีวิตใหม่ขึ้นมา กลไกการแบ่งโครโมโซมจาก 46 ชิ้นในเซลล์ร่างกายปกติไปเป็น 23 ชิ้นในไข่นั้น ไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกครั้ง หมายความว่าไข่บางใบอาจแบ่งโครโมโซมได้ 23 ชิ้น หรืออาจมากไปเป็น 24 ชิ้น หรืออาจขาดไปเหลือแค่ 22 ชิ้น ดังนั้น เมื่อไข่ใบที่มีจำนวนโครโมโซมไม่ปกติ แม้ไปผสมกับอสุจิที่มีจำนวนโครโมโซมปกติ ตัวอ่อนที่เกิดมาจะมีจำนวนโครโมโซม ไม่ปกติ อาจมากกว่าหรือน้อยกว่า 46 ชิ้น ทำให้ตัวอ่อนแสดงความผิดปกติในหลายรูปแบบ ได้แก่ ตัวอ่อนหยุดการแบ่งเซลล์ตั้งแต่ยังไม่ฝังตัว ตัวอ่อนฝังตัวไม่ได้ ตัวอ่อนฝังตัวได้แต่ไม่สามารถสร้างอวัยวะและเนื้อเยื่อได้ตามปกติหรือท้องลม ตัวอ่อนฝังตัวได้แต่แท้งในระยะต่อมา หรือตัวอ่อนเติบโตจนคลอดออกมา แต่มีความผิดปกติทางร่างกายหรือสติปัญญา ซึ่งอัตราความคลาดเคลื่อนของโครโมโซมในไข่จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้นในแต่ละปี จึงทำให้ผู้หญิงที่มีอายุมากตั้งครรภ์ยาก พลังงานในเซลล์ไข่จะด้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้การแบ่งเซลล์ของตัวอ่อนมีประสิทธิภาพด้อยลง แบ่งเซลล์ได้ช้า มีโอกาสแท้งบุตรสูงขึ้น และมีโอกาสการคลอดบุตรที่เป็นดาวน์ซินโดรมตามอายุที่มากขึ้น ตัวเลขการตั้งครรภ์จึงลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

การมาพบแพทย์เพื่อเริ่มตรวจหาสาเหตุภาวะมีบุตรยาก แพทย์จะเริ่มซักประวัติเบื้องต้นทั่วๆ ไป เช่น การคุมกำเนิดที่เคยใช้ ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ ประวัติประจำเดือน (ซึ่งจะช่วยบอกว่าฝ่ายหญิงนั้นมีปัญหาไข่ไม่ตกหรือไม่) ประวัติการผ่าตัด โรคประจำตัว และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงประวัติทางฝ่ายชายที่อาจช่วยบอกถึงคุณภาพของน้ำอสุจิ ได้แก่ ประวัติการเป็นคางทูม การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา เป็นต้น จากการซักประวัติเบื้องต้นจะเป็นแนวทางที่ดีในการสืบค้นหาสาเหตุต่อไป การจดหรือจำประจำเดือนประมาณ 3 – 6 เดือนก่อนพบแพทย์จะช่วยในการตรวจรักษาที่ดีขึ้น จากนั้นจะเป็นการตรวจเลือดทั่วไป ได้แก่ การตรวจเอดส์ ซิฟิลิส และตับอักเสบบี ซึ่งโรคเหล่านี้จะมีผลต่อทารกในครรภ์ได้ รวมทั้งอาจตรวจหาพาหะโรคเลือดจางธาลัสซีเมียในคู่สมรสที่สงสัยว่าอาจเป็นพาหะ การตรวจทั้งหมดนี้แนะนำให้ตรวจพร้อมกันทั้งสามีและภรรยา

นพ.ปภากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีวิธีที่ช่วยให้สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างที่ต้องการมากขึ้น เช่น 1.การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF – In Vitro Fertilization) โดยการนำไข่และเชื้ออสุจิที่สมบูรณ์ออกมาผสมด้านนอกหรือในจานแก้วที่มีสารเลี้ยงตัวอ่อนทำให้เกิดการปฏิสนธิ จากนั้นจะเกิดตัวอ่อนในระยะที่สมบูรณ์ พร้อมนำกลับไปใส่ในโพรงมดลูกเพื่อฝังตัวและเติบโตในครรภ์ พร้อมที่จะตั้งครรภ์ต่อไป 2.การทำอิ๊กซี่ (ICSI - Intracytoplasmic Sperm Injection) จากปัญหาตัวอสุจิของคุณผู้ชายบางคนมีความผิดปกติจนไม่สามารถเจาะผ่านเปลือกไข่ได้ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาวิธีใช้เข็มเจาะและส่งตัวสุจิที่ดีที่สุดผ่านเปลือกไข่เข้าไปภายในเนื้อไข่โดยตรงในเวลาต่อมา โดยจะมียาฮอร์โมนช่วยกระตุ้นให้ได้ไข่หลายใบ วิธีนี้มีขั้นตอนคล้ายการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แต่แตกต่างตรงที่ IVF ไข่และอสุจิหลายตัวจะถูกนำไปผสมในจานเพาะเลี้ยง ซึ่งอสุจิจะว่ายเข้ามาผสมกับเซลล์ไข่ตามธรรมชาติ แต่ ICSI จะคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงเพียงหนึ่งตัว แล้วใช้เข็มฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการตรวจคัดกรองโครโมโซมในตัวอ่อนเพื่อช่วยคู่สมรสที่มีปัญหา เช่น กลุ่มที่ฝ่ายหญิงมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป หรือเคยมีภาวะแท้งติดกันตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป หรือคุณแม่ที่เคยคลอดบุตรที่มีโครโมโซมผิดปกติ หรือคู่สมรสที่ได้รับการตรวจพิสูจน์แล้วว่ามีลักษณะการเรียงตัวของโครโมโซมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดปกติ(Chromosomal translocation) เป็นต้น เนื่องจากโครโมโซมที่ผิดปกติในตัวอ่อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้นเป็นสาเหตุของการแท้งและความพิการแต่กำเนิดในทารกซึ่งพบมากขึ้นในกลุ่มประชากรดังกล่าว ดังนั้นการตรวจคัดกรองโครโมโซมในตัวอ่อนจึงเป็นวิธีที่จะช่วยคู่สมรสประสบความสำเร็จในการมีบุตรสมดังตั้งใจโดยไม่ต้องเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนและผลไม่พึงประสงค์ในอัตราสูงดังเช่นในอดีต

ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก รพ.กรุงเทพ พร้อมให้การดูแลทุกท่านด้วยแพทย์ที่มีความชำนาญและทีมสหสาขาวิชาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ และมีห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่ทันสมัย ได้มาตรฐานในระดับสากล เพื่อผลลัพธ์ในการตั้งครรภ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก รพ.กรุงเทพ โทร. 02-310-3014-15 Contact Center โทร. 1719 หรือ add line ID : @bangkokhospital


ข่าวศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก+ปภากร มิ่งมิตรพัฒนะกุลวันนี้

รพ.กรุงเทพจัดงานสัมมนาเรื่อง “มีลูก ไม่ยากอย่างที่คิด”

รพ.กรุงเทพจัดงานสัมมนาเรื่อง “มีลูก ไม่ยากอย่างที่คิด” วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2556 เวลา 08.30-12.00 น. ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเชิญคู่สมรสที่กำลังวางแผนจะมีบุตร และผู้สนใจ ร่วมงานสัมมนา “มีลูก ไม่ยากอย่างที่คิด” ไขทุกปัญหาแน่นอกของผู้มีบุตรยากในกิจกรรมหลากหลาย อาทิ เสวนาน่ารู้เรื่อง “มีบุตรสมใจ ด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ในโลกยุคดิจิตอล” โดย นพ.สมบูรณ์ คุณาธิคม และ นพ. ปภากร มิ่งมิตรพัฒนะกุล สูตินรีแพทย์ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์, เสวนา “สร้างสุข...เสริมสุขภาพกายใจ”

พบข้อเสนอสุดพิเศษ! บริการ ICSI และแช่แข็ง... Inspire IVF โชว์ศักยภาพการเติบโตของธุรกิจการแพทย์ ด้านการรักษาผู้มีบุตรยากใน mai FORUM 2025 — พบข้อเสนอสุดพิเศษ! บริการ ICSI และแช่แข็งเซลล์ไข่ ลดสูงสุด 4...