ก.ล.ต. ลงโทษผู้แนะนำการลงทุน ฐานแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานจากธนาคารในช่วงต้นปี 2563 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 นายองอาจ ซึ่งเป็นผู้แนะนำการลงทุนและผู้จัดการสาขาของธนาคาร ได้แสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสจากการปฏิบัติงาน โดยนายองอาจได้ขอยืมเงินจากลูกค้าด้วยการทำรายการขายคืนหน่วยลงทุนของลูกค้าจำนวน 800,000 บาท โดยไม่มีลายมือชื่อของลูกค้า
ในใบคำสั่งขาย จากนั้นถอนเงินจำนวนดังกล่าวจากบัญชีเงินฝากของลูกค้าโดยใช้สมุดบัญชีและใบถอนเงินที่ลูกค้าลงลายมือชื่อฝากไว้ แล้วโอนเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง

ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายองอาจไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต* โดยแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสจากการปฏิบัติงาน ก.ล.ต. จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2** ของนายองอาจ และจะรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เมื่อพ้นระยะ 12 เดือน นับจากวันที่ 17 ตุลาคม 2563 ซึ่งมีผลทำให้นายองอาจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการสาขาหรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าในส่วนของธุรกิจตลาดทุนตามระยะเวลาดังกล่าวด้วย

ก.ล.ต. ขอเน้นย้ำว่า ผู้ลงทุนไม่ควรมอบหมายหรือสั่งการให้ผู้แนะนำการลงทุนทำรายการขายคืนหน่วยลงทุนแทน รวมถึงฝากสมุดบัญชีเงินฝากและลงนามในแบบฟอร์มคำขอถอนเงินเปล่าไว้กับผู้แนะนำการลงทุน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้แนะนำการลงทุนหรือบุคคลอื่นใช้เป็นโอกาสในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน

• ข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
• ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด
• ข่าวธนาคารไทยพาณิชย์
• ข่าวซื่อสัตย์สุจริต
• ข่าวธนาคารไทยพาณิช