ทำความรู้จัก "อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่" เรื่องไม่เล็ก… และไม่ควรมองข้าม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

หลายคนอาจจะมีความเข้าใจว่า ปัญหาสุขภาพอย่างเรื่องกลั้นปัสสาวะไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเท่านั้น จริงๆ แล้วผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคทางสมอง โรคซึมเศร้า ก็อาจทำให้เกิดภาวะ "กลั้นปัสสาวะไม่อยู่" ได้ด้วยเหมือนกัน

ทำความรู้จัก "อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่" เรื่องไม่เล็ก… และไม่ควรมองข้าม

"กลั้นปัสสาวะไม่ได้"…สัญญาณทางร่างกายที่เราต้องฟัง
ผู้ที่มีความเสี่ยงจากภาวะเช่นนี้ สังเกตอาการเริ่มต้นได้ง่ายๆ คือ ปัสสาวะบ่อยมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน แถมยังมีอาการปัสสาวะเล็ด เมื่อไอ จาม หัวเราะ หรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหว ปวดปัสสาวะเมื่อไหร่ต้องเข้าห้องน้ำทันที และมีอาการเหมือนปัสสาวะไม่สุดอยู่เสมอจนถึงอาการหนักคือ กลั้นไม่ได้เลย ราดทันทีเมื่อปวดปัสสาวะ ทำความรู้จัก "อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่" เรื่องไม่เล็ก… และไม่ควรมองข้าม

เรามาดูกันว่าปัจจัยเสี่ยงสู่ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ มีอะไรบ้าง

  • อายุที่มากขึ้น ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป พบว่ามีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ถึง 15-35%
  • โรคอ้วน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดแรงบีบต่อกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น
  • การคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ / การผ่าตัด เช่น การผ่าตัดมดลูก, การผ่าตัดต่อมลูกหมาก
  • โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคพาร์กินสัน ภาวะสมองเสื่อม

เทคนิคป้องกันปัญหา "กลั้นปัสสาวะไม่ได้" ทำอย่างไรดี?
อย่างไรก็ตามถึงแม้ภาวะดังกล่าวจะสร้างความกังวลใจและสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการเกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้โดยการบริหารกล้ามเนื้อหูรูดให้แข็งแรง ซึ่งมีวิธีง่ายๆ ดังนี้

  1. ฝึกขมิบกล้ามเนื้อหูรูด ขมิบทำเหมือนกำลังกลั้นปัสสาวะ โดยขมิบครั้งละประมาณ 5 วินาที แล้วหยุด10 วินาที ทำซ้ำแบบนี้ 10 ครั้ง เริ่มต้นอาจจะทำวันละ 3 เวลาในตอนเช้า กลางวัน และเย็น ทุกวัน แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนให้ถี่ขึ้น
  2. ฝึกควบคุมการขับถ่าย พยายามกลั้นปัสสาวะให้นานขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ก่อนที่จะไปปัสสาวะ ให้ยืดระยะเวลาระหว่างการเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง ให้นานขึ้น แต่ไม่ควรกลั้นนานเกินไป
  3. ทานอาหารที่มีกากใย เพื่อป้องกันอาการท้องผูก ลดความดันในช่องท้อง
  4. ไม่ควรเบ่งปัสสาวะอย่างรุนแรงและปัสสาวะให้หมด หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย และงดสูบบุหรี่ ไม่ดื่มน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้ไตทำงานหนัก และเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด
  5. ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม อย่าปล่อยให้น้ำหนักมากจนเกินไป เพื่อลดแรงบีบต่อกระเพาะปัสสาวะของหน้าท้อง

จะเห็นว่าอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ สามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลให้สูญเสียโอกาสบางอย่างในชีวิต เช่น ไม่สามารถเดินทางไปสถานที่ไกลๆได้ เพราะมีข้อจำกัดด้านห้องน้ำ อาจนอนหลับไม่สนิทเพราะกังวลเรื่องการปัสสาวะ และอาจส่งผลให้กลายเป็นคนไม่ชอบออกไปข้างนอก และไม่กล้าเข้าสังคมไปในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับความกังวลเรื่องปัสสาวะต่างๆ รวมถึงปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นั่นก็คือ กางเกงซึมซับ ที่ช่วยให้คุณได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเดิม โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาปัสสาวะอีกต่อไป

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กางเกงซึมซับนั้น ควรมั่นใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์มีคุณภาพที่ดี มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน อย่างกางเกงซึมซับจาก เซอร์เทนตี้ (Certainty) ที่ใส่สบาย มี เทคโนโลยี Air Dry ที่ไม่เพียงช่วยให้คุณรู้สึกแห้งสบายไม่อับชื้น แต่ยังมั่นใจในทุกกิจกรรมที่ทำ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วซึม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ 3 พลัส คือ ลดแบคทีเรีย ลดกลิ่น สัมผัสนุ่มสบายผิว พร้อมขอบขาตั้งป้องกันการรั่วซึม ช่วยให้คุณคลายกังวลเรื่องปัญหาปัสสาวะไปได้เลย

ปัญหาเรื่องปัสสาวะเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่เพียงแต่กับผู้สูงอายุ อย่าลืมหมั่นสังเกตพฤติกรรมและอาการของตัวคุณเอง ที่สำคัญหากท่านที่มีปัญหาในการกลั้นปัสสาวะ ลองเลือกผลิตภัณฑ์กางเกงซึมซับเป็นตัวช่วยเพื่อให้คุณใช้ทุกเวลาแห่งความสุขร่วมกับคนที่คุณรักได้อย่างเต็มที่ พร้อมมั่นใจในทุกกิจกรรมที่ทำได้โดยไร้กังวล ทุกที่ ทุกเวลา


ข่าวโรคความดันโลหิตสูง+ความดันโลหิตสูงวันนี้

"ซองเต้ซอส" น้ำปลาโซเดียมและโพแทสเซียมต่ำเพื่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจ ครั้งแรกของโลก ผลงานนักวิจัย มจธ. ด้วยเทคโนโลยีการแยกสารผ่านเยื่อด้วยไฟฟ้า

จากรายงานของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปัจจุบัน มีผู้ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังระยะที่ 1-5 สูงถึงกว่า 1,000,000 ราย ซึ่งผู้ป่วยโรคไตนั้น จะต้องลดอาหารที่มีส่วนผสมของโซเดียมและโพแทสเซียม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ที่ผ่านมาสถาบันโภชนาการหลายแห่ง ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีความพยายามที่จะใช้นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และโภชนาการในการลดปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมที่ผู้ป่วยได้รับให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หากแต่ในอาหารเป็นจำนวนมากมีทั้งโซเดียมและโพแทสเซียมอยู่แทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะใน

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับฝ... ขอเชิญร่วมกิจกรรมตรวจสุขภาพฟรี เนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติ — คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช ขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจท...

"โรคความดันโลหิตสูง" โรคยอดฮิตในผู้สูงอาย... โรคความดันโลหิตสูงในมุมมองของแพทย์แผนจีน โดย คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว — "โรคความดันโลหิตสูง" โรคยอดฮิตในผู้สูงอายุ หากมองในทางแพทย์แผนปัจจุบัน สาเหตุข...

รับมือสุขภาพอย่างไรเมื่อ "โลกเดือด" ? หลา... รับมือสุขภาพอย่างไรเมื่อ "โลกเดือด" ? — รับมือสุขภาพอย่างไรเมื่อ "โลกเดือด" ? หลายคนอาจกำลังกังวลและตกใจกับข่าวที่เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิด...

โรงพยาบาลไทยนครินทร์ให้การต้อนรับคณะครู น... รพ.ไทยนครินทร์ให้การต้อนรับคณะครู นักเรียน โรงเรียนลาซาล กรุงเทพ — โรงพยาบาลไทยนครินทร์ให้การต้อนรับคณะครู นักเรียน โรงเรียนลาซาล กรุงเทพ ในโอกาสที่เข้าม...

ความเค็มไม่ใช่แค่การเติมเกลือลงไปในอาหาร ... ม.มหิดล หวังคนไทยห่างไกลภัยจากอาหารรสเค็ม ด้วยนวัตกรรม "ชุดทดสอบความชอบรสเค็ม" — ความเค็มไม่ใช่แค่การเติมเกลือลงไปในอาหาร แต่ยังรวมถึงอาหารและขนมที่แฝงไปด...