รับมือสุขภาพอย่างไรเมื่อ "โลกเดือด" ?
หลายคนอาจกำลังกังวลและตกใจกับข่าวที่เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยถึงสภาวะโลกร้อนขณะนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว และย่างเข้าสู่ "ภาวะโลกเดือด" ซึ่งจริงๆ ภาวะโลกเดือดนั้นค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหาเราสักระยะหนึ่งแล้วเพียงแค่เราไม่ทันสังเกตเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าสภาพอากาศที่ร้อนจัดแบบนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อเราในหลายๆ ด้านรวมถึงสุขภาพของเราด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ต้องทำงานหนักกลางแจ้ง คนที่มีปัญหาสุขภาพ เช่นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และผู้สูงอายุ ฯลฯ ที่อาจเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคจากความร้อน และอาจส่งผลทำให้เสียชีวิตได้
** จากสถิติทั่วโลกในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตจากความร้อนของผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นราว 2 ใน 3 และอุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 60,000 รายเฉพาะในยุโรปเมื่อปีที่แล้ว
ในเมื่อภาวะ "โลกเดือด" เกิดขึ้นแล้ว และเราก็ไม่อาจควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก แต่เราสามารถจัดการตัวเราเองได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราเองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
** ในวันที่สภาพอากาศร้อนจัดแนะนำว่า ให้อยู่ในที่ร่ม, สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ, หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ลดการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก และดื่มน้ำเยอะๆ รักษาร่างกายให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
ไม่ว่าสภาพแวดล้อมหรืออากาศ จะเปลี่ยนแปลงบ่อยแค่ไหน เราก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด
ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็นเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคไตเสื่อม องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ประชากรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม รายงานการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนไทยระหว่างปี พ.ศ. 2551-2552 พบว่าคนไทยบริโภคโซเดียมเฉลี่ยเกินกว่าคำแนะนำถึง 2 เท่า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ช่วงอายุ 19-59 ปี ที่มีการบริโภคโซเดียมสูงถึง 2,961
อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
—
เบาหวานเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆได้เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดัน...
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
—
ปัจจุบันความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคที่ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งรวมทั้งหลอด...
โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน "ฆาตกรเงียบ" ที่คร่าชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือน รู้ทันก่อนสายเกินไป
—
"โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน" หรือ Coronary Artery Disease คือโรคที...
เนื่องในวันความดันโลหิตสูงโลก มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ แนะวิธีป้องกัน 'ภัยเงียบ' ที่คร่าชีวิตคนไทย
—
ความดันโลหิตสูง (Hypertension: HTN) เป็นโรคหัวใจและหลอดเ...
โรงพยาบาลหัวเฉียวดูแลหัวใจผู้ประกันตนสิทธิประกันสังคมทั่วประเทศ ด้วยการรักษา 7 หัตถการโรคหัวใจและหลอดเลือด
—
โรงพยาบาลหัวเฉียว ได้รับความไว้วางใจจากสำนักง...
โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติก…ภัยร้ายที่อาจมองข้าม รู้ทันสัญญาณอันตราย! ก่อนสายเกินแก้
—
"โรคลิ้นหัวใจ" นับเป็นปัญหาสำคัญที่สัมพันธ์กับสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย ...
ขอเชิญชวนพยาบาลและบุคลากรสุขภาพเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ECG Interpretation and Nursing Care
—
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญพยาบาลและบ...