กรมประมง...แจง รัฐเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของพี่น้องชาวประมง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

จากกรณีที่มีสื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าว นายกสมาคมการประมงจังหวัดพังงา เปิดเผยถึงผลการประชุมของสมาคมประมงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 โดยระบุว่า ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงไม่ยุติธรรมเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง และขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการทำประมง พร้อมขอความชัดเจนภายใน 7 วัน ในประเด็นดังต่อไปนี้ 1.หยุดกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงทั้งหมด 2.แก้ไขกฎหมายประมง 3.เร่งซื้อเรือออกนอกระบบ 4.ยกเลิกการบังคับติด VMS ในเรือที่ต่ำกว่า 30 ตันกรอส และ 5.ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางกฎหมายประมงที่ผ่านมา

กรมประมง...แจง  รัฐเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของพี่น้องชาวประมง

นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ภาครัฐได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงทั้งระบบที่สั่งสมมาช้านานในทุกขั้นตอนกระบวนการอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชาวประมงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งท่าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ภาครัฐต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้การใช้ประโยชน์ของทรัพยากรประมงในประเทศเกิดความยั่งยืน และต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตและการประกอบอาชีพของชาวประมงเป็นสำคัญ ซึ่งมีรายละเอียดในการดำเนินการ ดังนี้

1. การผ่อนคลายกฎ ระเบียบ คำสั่งที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง ซึ่งในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ตามที่สมาคมเรียกร้องนั้น คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติได้มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาคประมงและแรงงานในภาคประมง เพื่อพิจารณากลั่นกรองการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับภาคประมงและแรงงานประมง ซึ่งขณะนี้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้เกิดความเหมาะสมเพื่อผ่อนปรนและช่วยเหลือชาวประมงแล้วกว่า 12 เรื่อง อาทิ การปรับปรุงกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ. 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีการทำประมงของชาวประมง ยืดหยุ่นให้สามารถแก้ไขใบอนุญาตได้ อาทิ การแก้ไขรายการให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ปรากฏในหลักฐานทางทะเบียนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขรายการเครื่องมือทำการประมง การแก้ไขรายการพื้นที่ทำการประมง เป็นต้น อีกทั้งยังให้สามารถออกหนังสือคนประจำเรือ 2 รอบ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคประมง ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน อนุญาตให้เรืออวนล้อม อวนครอบ และปั่นไฟสามารถเปลี่ยนพื้นที่ทำการประมงได้ระหว่างลมมรสุม ผ่อนปรนให้ทำการประมง อวนครอบหมึก อวนจับแมงกะพรุน ในเขตทะเลชายฝั่ง ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีกฎระเบียบที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องชาวประมง อาทิ การพัฒนาปรับปรุง VMS ให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพในการทำงาน และไม่แตกต่างกันทั้ง VMS รุ่น 1 และรุ่น 2 ซึ่งชาวประมงสามารถเลือกใช้รุ่นใดรุ่นหนึ่งก็ได้ การลดความยุ่งยากในขั้นตอนการแจ้งเข้า - แจ้งออกของเรือประมงที่อยู่ในร่องน้ำเดียวกัน เป็นต้น ฯลฯ

2. การเสนอแก้ไขพระราชกำหนดการประมง มีการเสนอให้แก้ไขใน 18 มาตรา ประกอบด้วย ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงพื้นบ้าน 3 มาตรา และประมงพาณิชย์ 15 มาตรา ซึ่งในกระบวนการการแก้ไขกฎหมายนั้น ต้องเป็นไปตามกลไกการนำเสนอกฎหมายตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมวลและรวบรวมเพื่อนำเสนอให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาคประมงและแรงงานในภาคประมงพิจารณาแก้ไขปรับปรุงและเสนอคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติพิจารณาต่อไป

3. ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการซื้อเรือประมงออกนอกระบบคืนโดยเร็ว มาตรการในการนำเรือออกนอกระบบที่ชาวประมงได้ยื่นแจ้งความประสงค์ แบ่งได้เป็น 2 ระยะ ดังนี้
3.1 ระยะที่ 1 (ระยะเร่งด่วน) มีจำนวน 568 ลำ
(1) ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว จำนวน 305 ลำ
- ระยะที่ 1 ช่วงที่ 1 จำนวน 252 ลำ วงเงินเยียวยา 469,603,900 บาท และกรมประมงได้จ่ายชดเชยเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 13 มีนาคม 2563
- ระยะที่ 1 ช่วงที่ 2 จำนวน 53 ลำ วงเงินเยียวยา 294,850,200 บาท ได้จ่ายเงินงวดแรก 30 % ไปแล้ว และเมื่อเจ้าของเรือทำลายเรือเรียบร้อยแล้วจะจ่ายส่วนที่เหลืออีก 70 % คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคม 2563
(2) ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลให้นำเรือออกนอกระบบในส่วนที่เหลืออีก 263 ลำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการเยียวยาตามมาตรการลดจำนวนเรือประมงเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนของคณะทำงาน ตรวจสอบประวัติความถูกต้อง คุณสมบัติเรือประมงและเจ้าของเรือซึ่งจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม 2563 และนำเสนอคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือนกันยายน 2563 เพื่อเสนอของบประมาณต่อรัฐบาลต่อไป
3.2 ระยะที่ 2 เป็นกลุ่มที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมง แต่เจ้าของเรือมีความประสงค์นำออกนอกระบบ จำนวน 2,505 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างกรมประมงพิจารณาหลักเกณฑ์ในการนำออกนอกระบบให้สอดคล้องกับความสามารถในการทำการประมงของเรือประมง โดยคำนึงถึงปริมาณสัตว์น้ำที่จะทำการประมงได้อย่างยั่งยืนและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวประมงในแต่ละกลุ่มทั้งผู้ประกอบการรายย่อยและรายใหญ่ เพื่อนำเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป

4. ยกเลิกระบบติดตามเรือ หรือ VMS ปัจจุบันการติดตั้ง VMS สำหรับเรือต่ำกว่า 30 ตันกรอส ภาครัฐยังไม่มีนโยบายในการกำหนดให้มีการติดตั้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบติดตามเรือที่มีความเหมาะสมทั้งในด้านการควบคุม เฝ้าระวัง ต้นทุน และเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากร จึงได้จัดทำการทดสอบระบบติดตามเรือกับเรือ 3 กลุ่ม ได้แก่ เรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 10 ลำ เรือขนาดตันกรอส 10-29.99 จำนวน 30 ลำ และเรือขนาดตันกรอส ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป จำนวน 10 ลำ

5. มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามกฎหมาย กรมประมงได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ได้แก่

(1) โครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง วงเงินงบประมาณ 10,300 ล้านบาทซึ่งกรมประมงได้ดำเนินการเปิดรับสมัครผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ผลการดำเนินการถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2563 มีผู้ประกอบการประมงที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 2,824 ราย จำนวนเรือประมง 3,363 ลำ รวมวงเงินสินเชื่อที่ต้องการประมาณ 4,517 ล้านบาท
(2) ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการประมงแห่งชาติ พ.ศ. …. ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดแล้ว อยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงหรือดำเนินการทางกฎหมายด้านการประมง
(3) ร่างพระราชบัญญัติสภาประมงแห่งประเทศไทย พ.ศ. …อยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงหรือดำเนินการทางกฎหมายด้านการประมง
(4) การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่าง เมื่อแล้วเสร็จจะเสนอ กรทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามออกกฎกระทรวงต่อไป
(5) มีการช่วยเหลือเยียวยาจากผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 รายละ 15,000 บาท ทั้งประมงพาณิชย์ ประมงพื้นบ้าน และแรงงานในเรือประมง รวมมากกว่า 200,000 ราย

อธิบดีกล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงเข้าใจ เห็นใจ และไม่นิ่งนอนใจต่อปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง แต่ในทุกการปรับเปลี่ยนนั้น ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบเป็นไปตามกติกาสากลเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรประมง ควบคู่ไปกับวิถีความเป็นอยู่และอาชีพของพี่น้องชาวประมงที่มั่นคงผู้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ


ข่าวสมาคมการประมงจังหวัดพังงา+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

มกอช. ชูผลไม้คุณภาพไทยบุกใจคนจีน

Thai Festival 2025 ปักกิ่งคึกคัก มกอช. ชูผลไม้คุณภาพไทยบุกใจคนจีน สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรประจำกรุงปักกิ่ง เข้าร่วมจัดบูทนำเสนอมาตรฐานสินค้าเกษตรของไทย ภายในงาน Thai Festival 2025 Experience Creative Thailand in Beijing โดยได้คัดสรรผลไม้ไทยคุณภาพ อาทิ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย มะพร้าว ชมพู่ น้อยหน่า และผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป รวมถึงนวัตกรรมอาหารอนาคต (Future Food) เช่น โปรตีนจิ้งหรีดและไข่ผำ มาจัดแสดงให้ผู้เข้าชม

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...

กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล"... กรมประมง...หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล" — กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล" ในบ่อกุ้งร้าง หวังฟื้นแหล่ง...