ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ภัยแล้งพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพื้นที่การเกษตรที่เกิดจากการขาดแคลนน้ำ ณ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง อ.สตึกจ.บุรีรัมย์ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมฝนหลวงและการบินเกษตร พบถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรจากฝนทิ้งช่วงและฝนแล้งเป็นเวลานาน จึงมีแผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี 2563 เพื่อบรรเทาปัญหาฝนทิ้งช่วงและพื้นที่เกษตรที่มีน้ำไม่เพียงพอ โดยได้เร่งทำฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เกษตรและเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปฏิบัติการฝนหลวงนั้นจะครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหา ทั้งพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ลุ่มรับน้ำที่มีปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์และส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำอุปโภค - บริโภคของประชาชนด้วย
ในส่วนของการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) มีวันขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง รวม137 วัน ขึ้นปฏิบัติการรวม 670 เที่ยวบิน วันฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวงคิดเป็นร้อยละ 97.08 มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 17.88 ล้านไร่ ยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บทั้งสิ้น 7 จังหวัด ได้แก่จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดกาฬสินธุ์
จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม และจังหวัดชัยภูมิ เติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำระหว่าง
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2563 จำนวน 6 เขื่อน และเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน– 14 สิงหาคม 2563 จำนวน 5 เขื่อน และในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนล่าง) มีวันขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง รวม142 วัน ขึ้นปฏิบัติการรวม 805 เที่ยวบิน วันฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวงคิดเป็นร้อยละ 92.96 มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง จานวน 43.38 ล้านไร่ เติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2563 จำนวน 62 เขื่อน และเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 14 สิงหาคม 2563 จำนวน 52 เขื่อน
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลรวมการปฏิบัติการฝนหลวงระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ – 14 สิงหาคม 2563 นั้นมีการตั้งหน่วยปฏิบัติการ รวม 12 หน่วย รวมวันขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงทั้งสิ้น 177 วัน ขึ้นปฏิบัติการรวม 4,582 เที่ยวบิน มีวันฝนตกจากการปฏิบัติการ รวม 175 วัน คิดเป็นร้อยละ98.87 จังหวัดที่มีรายงานฝนตก รวม 67จังหวัด ทำให้มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง193.75 ล้านไร่ มีฝนตกในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวม 204 แห่ง แบ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ 34 แห่ง และเขื่อนขนาดกลาง 170 แห่ง สามารถเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวม 1,313.706 ล้าน ลบ.ม.
"ร้อยเอก ธรรมนัส" ลุยอุตรดิตถ์! เร่งช่วยเกษตรกรพ้นภัย "บัวลอย" สั่งด่วนซ่อมสะพานส่งน้ำ 14+200 คืนไร่นา 5.4 หมื่นไร่
"รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ
"รมว.อรรถกร"นำ กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกำลังภาคเอกชน พัฒนา 'จุลสาหร่าย' สู่พลังงานสะอาด-นวัตกรรมอาหารสัตว์ ยกระดับทรัพยากรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น
"รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ
กระทรวงเกษตรฯ เปิดประชุม "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรอย่างเร่งด่วน
กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา"
"รมว.อรรถกร" นำ กระทรวงเกษตรฯ เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ จ.นครศรี ยกระดับบริการถึงมือเกษตรกร หนุนองค์ความรู้ เพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ
กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล"