บพท.ชี้ทิศทางการหนุน “ม.พัฒนาพื้นที่” คลุม 76 จังหวัด เผยตัวเลขดัน ม.เป็นตลาดสร้างศก.หมุนเวียนทันที 10 ล.

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผอ.หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวถึงผลสืบเนื่องจากการปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยนวัตกรรม ว่า เป็นทั้งข่าวดีของพี่น้องประชาชน และเป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อนักวิจัยในมหาวิทยาลัย ซึ่ง รมว.กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) คาดหวังจะใช้ กระบวนการวิจัยไปสร้างวัฒนธรรมวิจัยจากภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ประชาสังคม วิสาหกิจ ภาครัฐ เพื่อทำให้กระบวนการคิดเป็นเหตุเป็นผลเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของการพัฒนาบ้านเมือง

บพท.ชี้ทิศทางการหนุน “ม.พัฒนาพื้นที่” คลุม 76 จังหวัด เผยตัวเลขดัน ม.เป็นตลาดสร้างศก.หมุนเวียนทันที 10 ล.

“การปฏิรูปครั้งนี้เป็นการควบรวม 3 องค์กรที่สำคัญของประเทศไทย ได้แก่ ระบบวิทยาศาสตร์ ระบบวิจัยและนวัตกรรม และระบบการอุดมศึกษาเข้าอยู่ภายใต้กระทรวงการอุดมการศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระบบว่าด้วยการอุดมศึกษาซึ่งมีสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมดรวมกว่า 180 สถาบัน มีหน่วยงานยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเข้ามาร่วมกันอีกหลายสิบหน่วยงาน ที่สำคัญเรามีทั้งเครือข่ายนักวิจัยเป็นเครือข่ายของนักวิจัยชาวบ้าน ชุมชน และภาคประชาสังคมเข้ามาร่วมมือกัน นับเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่จะทำให้เห็นศักยภาพว่าเราเป็นกระทรวงแห่งการอุดมศึกษา ที่สร้างปัญญาให้กับสังคมและชุมชน มีการสร้างกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เป็นกองทุนที่สามารถทำให้นักวิจัย สามารถทำงานต่อเนื่อง ทำเป็นแพคเกจขนาดใหญ่ที่สามารถทำให้เกิดผลกระทบได้จริง” บพท.ชี้ทิศทางการหนุน “ม.พัฒนาพื้นที่” คลุม 76 จังหวัด เผยตัวเลขดัน ม.เป็นตลาดสร้างศก.หมุนเวียนทันที 10 ล.

ในเชิงโครงสร้างมีการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา 3 หน่วยงาน ได้แก่ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข). หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) และ บพท. ซึ่งเป็นหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ เน้นการพัฒนาชุมชน หรือท้องถิ่นพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการรายรายย่อยในระดับพื้นที่

โดยในส่วนของ บพท. ได้เล็งเห็นศักยภาพของมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ซึ่งเข้าใจบริบทพื้นที่ดีที่สุด เกาะติดพื้นที่ในระยะยาว มีโครงสร้างกำลังคน มีความเชี่ยวชาญ และมีหน่วยสนับสนุนการวิจัยมารองรับการบริหารงานวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นโครงสร้างผลิตกำลังคนชั้นดี หากมหาวิทยาลัยสามารถทำงานวิจัยที่สร้างผลกระทบกับชุมชนสังคม คาดการณ์ว่า 180 กว่ามหาวิทยาลัย เราจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศได้อย่างแน่นอน ดังนั้นการหนุนเสริมของบพท.ต่อมหาวิทยาลัยจะใช้ทั้งเงินทุนและเครื่องมือการบริหารจัดการงานวิจัยที่มีศักยภาพและปัจจัยสนับสนุนต่างๆ เข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งมหาวิทยาลัยและสังคม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท
ผอ.บพท. ได้ยกตัวอย่างภารกิจในการสนับสนุนชุดโครงการวิจัยมหาวิทยาลัยเป็นกลไกดูดซับเศรษฐกิจพื้นที่ ที่ บพท.ผลักดันให้มหาวิทยาลัยใช้ศักยภาพของตัวมหาวิทยาลัยในด้านการเป็นหน่วยบริโภคที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ปรับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในมหาวิทยาลัย รับซื้อสินค้าชุมชน โดยหนุนงบประมาณเพียง 1.5 ล้านบาท ภายใน 8 เดือน มหาวิทยาลัย 1 แห่ง สามารถสร้างเศรษฐกิจมวลรวมให้กับจังหวัดได้ถึง 10 ล้านบาท 4 ใน 10 ล้านบาท เป็นรายได้ที่กระจายลงไปในชุมชนทันทีไม่ผ่านคนกลาง ซึ่งปัจจุบัน บพท.ให้การสนับสนุนไปแล้วทั้งสิ้น 18 มหาวิทยาลัย

“หรือกรณีการพัฒนาศักยภาพของมหาวิทยาลัย ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้ผลิตกับผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยเป็นคนกลาง หรือเป็นตลาด หากมีการออกแบบที่ดี มหาวิทยาลัยจะเป็น Good Boy ในการสร้าง demand - supply ทำสินค้าชุมชนให้เจอกับผู้บริโภคโดยตรง และจะวัดผลที่สัดส่วนรายได้ของเกษตรกร หรือผู้ผลิตต้นน้ำเยอะขึ้น เราทำอย่างนี้ใน 8 มหาวิทยาลัย ปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 13 มหาวิทยาลัย กระจายตัวอยู่ประมาณ 20 จังหวัดทั่วประเทศ” ผอ.บพท.กล่าว

ซึ่งผลลัพธ์ที่วัดผลได้เช่นนี้ทำให้ ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. ได้มอบนโยบายให้ บพท.ขยายพื้นที่ในการสนับสนุนมหาวิทยาลัยเป็นตลาดกระจายไปทั่วประเทศใน 180 กว่ามหาวิทยาลัย เชื่อว่าจะสามารถสร้างเศรษฐกิจมวลรวมได้อย่างน้อยจังหวัดละ 10 ล้านบาท 780 ล้านบาท จะเกิดขึ้นทันทีและหากเม็ดเงิน 40-50 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ชุมชน เงินจำนวน 400 กว่าล้านจะเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนอยู่ในชุมชนทันที.//


ข่าวกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์+กระทรวงการอุดมศึกษาวันนี้

วว. ร่วมหารือกับบริษัท ALBA Group Asia และวงษ์พาณิชย์ ถึงแนวทางการจัดการขยะพลาสติก

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างบริษัท ALBA Group Asia และวงษ์พาณิชย์ในการจัดการขยะพลาสติกและมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร โอกาสนี้ ดร. พัชทรา มณีสินธุ์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมด้วยคณะนักวิจัยจาก ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ (ศนว.) และศูนย์เชี่ยวชาญพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม (ศนพ.) ร่วมให้การต้อนรับ ในการนี้ ดร. เรวดี

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัย... วว. / PCAARRD ประเทศฟิลิปปินส์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร — ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง...

งาน "มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิ... สกสว. ปิดฉากความสำเร็จ "TRIUP FAIR 2024" — งาน "มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2567 (TRIUP FAIR 2024)" จัดโดย สำนั...

แผนงานท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หน่... บพข. ร่วมเวทีเสวนา ท่องเที่ยวยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในงาน TRIUP Fair 2024 — แผนงานท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการ...

รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิกา... ม.พะเยา ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม รองปลัด อว. ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ — รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยาพร้อมด้วยคณ...

ในระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 กระทรว... อาจารย์วิทยาลัยดุสิตธานีโชว์สกิลด้าน Soft Power ในงานอว.แฟร์ — ในระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได...