บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) บริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์ระดับโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น "องค์กรที่น่าทำงานด้วย จาก HR Asia " (Best Companies to Work For in Asia 2020 (Thailand Edition) ประกาศเพิ่มนโยบายให้สิทธิ์การลาเพื่อดูแลบุตร(Parental Leave) แก่พนักงานชาย ที่มีบุตรแรกเกิดได้ 98 วัน โดยยังได้รับค่าตอบแทน เพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มุ่งเน้นในการให้ความสำคัญของการบริหารบุคลากรด้วยความเท่าเทียมกันและเห็นคุณค่าของความหลากหลายในองค์กร (Diversity & Inclusion) นโยบายที่ประกาศล่าสุดนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มสวัสดิการให้แก่พนักงานชายในการใช้สิทธิ์ลาคลอดเพื่อดูแลภรรยาและบุตรแรกคลอดแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงกลุ่มคู่ชีวิตที่ไม่ได้สมรสตามกฎหมายและเพศทางเลือก หรือผู้ที่รับอุปการะบุตรที่ต้องได้รับการดูแลอีกด้วย ซึ่งสิทธิ์ดังกล่าวนี้ต่อยอดมาจากการปรับตัวขององค์กรในการบริหารบุคคลให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบันที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเสริมศักยภาพและต่อยอดการพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
มธุกร ศัลยพงษ์ หัวหน้าฝ่ายประจำประเทศไทยในส่วนการบริหารงานบุคคลและองค์กร บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) กล่าวว่า "เรามีความภาคภูมิใจและยินดีที่ได้ประกาศนโยบายใหม่นี้ให้แก่บุคลากรในองค์กรของเรา ซึ่งยังถือเป็นองค์กรแรก ๆ ในประเทศไทยที่ได้มอบสวัสดิการในลักษณะนี้ให้แก่พนักงานชาย นับจากเริ่มประกาศนโยบายนี้มา เรามีพนักงานชายจำนวนหนึ่งแล้วที่ได้ใช้สิทธิ์นี้ ทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดีจากพนักงานและครอบครัวของพนักงานอีกด้วย ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่เรามุ่งมั่นเสมอมาในการให้ความสำคัญในการบริหารบุคลากรให้เท่าเทียมและเคารพในความแตกต่างของแต่ละคนนั้นเป็นที่ยอมรับ เราเชื่อมั่นว่าการส่งเสริมและเข้าใจถึงสภาพวัฒนธรรมและสังคมโลกในปัจจุบันจะช่วยสร้างศักยภาพในการทำงานให้แก่บุคลากรของเราได้เป็นอย่างดี"
การให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของความหลากหลายใน โนวาร์ตีส ไม่ได้จำกัดเฉพาะในเรื่องของความแตกต่างทางเพศ แต่รวมถึงความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา ความเชื่อ วัย และประสบการณ์ ซึ่งการบริหารบุคลากรในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยเสริมศักยภาพในการทำงานให้แก่บุคลากรของบริษัทได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยจัดค่านิยมและวัฒนธรรมขององค์กรใหม่เพื่อสะท้อนความเป็นจริงของคนในยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ รวมไปถึงการจำกัดระยะห่างทางสังคมระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โนวาร์ตีส ได้ให้อิสระแก่พนักงานในการบริหารจัดการความรับผิดชอบของตนเอง (Choice of Responsibility) โดยพนักงานสามารถเสนอและตัดสินใจในเรื่องสถานที่ที่ตนเองสะดวกทำงาน รวมไปถึงวิธีการและเวลาในการทำงานตามความเหมาะสมของตนเองและเพื่อนร่วมงานได้ ซึ่งองค์กรมีความเชื่อว่าการให้อิสระในการบริหารจัดการแก่พนักงานจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานในความรับผิดชอบของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมไปกับการจัดการและปรับสมดุลการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี
"แนวความคิดนี้ริเริ่มจากการตระหนักถึงความแตกต่างและความหลากหลายของประชากรจากทั่วโลก โดยความหลากหลายนี้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อการบริหารงานของบริษัทที่สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน ดังนั้นบุคลากรจึงสามารถเป็นตัวเองได้อย่างแท้จริง และมีความสบายใจในทุก ๆ วันของการทำงาน รวมถึงเข้าใจและยอมรับในทุกความแตกต่าง เมื่อเกิดการยอมรับในความแตกต่างแล้ว จะส่งผลสะท้อนสู่แรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อให้บุคลากรสามารถคิดค้นและนำเสนอความคิดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงสามารถแสดงศักยภาพที่มีอยู่ออกมาได้อย่างแท้จริง" มธุกร กล่าวสรุป
ซีพี-เมจิ ตอกย้ำความสำเร็จ แบรนด์สร้างคน คนสร้างชื่อ พาบาริสต้าไทยคว้ารางวัลลาเต้อาร์ตโลก 2 ปีซ้อน
V-ZUG รังสรรค์อนาคต ด้วยหัวใจแห่งความยั่งยืนในทุกรายละเอียด
V-ZUG ผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเวทีเสวนารวมกูรูด้านดีไซน์ สถาปัตยกรรมและอาหาร แบ่งปันนิยามใช้ชีวิตบนความยั่งยืน
V-ZUG ร่วมงาน Milan Design Week 2025 เสนอผลงาน "Banquet Echoes" ผสมผสานนวัตกรรม ศิลปะอาหาร และความยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์ ไลอ้อน ประเทศไทย คว้ารางวัลระดับนานาชาติ จากเวที International Exhibition of Inventions Geneva ย้ำความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืน
คลายร้อนรับซัมเมอร์ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษจาก ลองจิวิตี้ ฮับ บาย คลินิก ลา แพรรี กรุงเทพฯ กับโปรแกรม "Age Reversal"
ปักหมุด! แลนด์มาร์คแห่งใหม่ Swatch ณ วัน แบงค็อก สาขาใหญ่ที่สุดในโลก รวมพื้นที่สองชั้นกว่า 600 ตารางเมตร
CEO กลุ่มบริษัทบางจากร่วม World Economic Forum Aviation Day 2025 ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ผลักดันการบินยั่งยืนด้วย SAF
"Out of the Nest องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ" ผงาดเวทีนานาชาติอีกครั้ง ในเทศกาล Fribourg Film Festival 2025 ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์