วันโรคอ้วนโลก World Obesity Day ในวันที่ 4 มี.ค.ของทุกปี มีขึ้นเพื่อมุ่งหวังให้ทุกคนได้ตระหนักว่าความอ้วนเป็น"โรค"ที่ควรระวัง และปัญหาเรื่องความอ้วนยังคงเป็นปัญหาสุขภาพของคนไทยเป็นอันดับต้นๆ หลายคนพยายามหาวิธีลดน้ำหนัก ก็ยังไม่ลดหรือลงช้า แต่หากเรามี passion มากพอ และ "ปรับ 3 อ. เพื่อหยุด อ.อ้วน" รวมถึงปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย ก็อาจเป็นตัวช่วยที่ดีให้น้ำหนักลดได้อย่างที่หวัง
 
                                                                                                                                        นพ.ปราโมทย์ พัชรมณีปกรณ์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาหวานไทรอยด์และต่อมไร้ท่อ ศูนย์เบาหวานไทรอยด์และต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า 5 อุปสรรคสำคัญ ที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ
1.ขาดแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก หมอได้ยินบ่อยว่า "ไม่รู้ว่าจะลดน้ำหนักไปทำไม" เคยเป็นไหมเวลาเราทำอะไรยากๆแล้วสำเร็จเป็นเพราะเรามี Passion ยากแค่ไหนก็ทำได้ การลดน้ำหนักก็เช่นกัน ถ้าคุณมี Passion มากพอ รับรองว่าทำได้ ลองหาเหตุผลที่โดนใจสักข้อ เช่น ไม่อยากป่วยเป็นโรคจากความอ้วน อยากมีสุขภาพที่ดีขึ้น ต้อง #(ไม่)หมด Passion
2.เข้าใจผิดคิดว่ากินสิ่งนี้แล้วไม่อ้วน ผลไม้ที่คนส่วนใหญ่คิดว่ากินเยอะแล้วไม่อ้วน ความจริงคือผลไม้มีน้ำตาลซึ่งให้พลังงานสูง แต่ขึ้นอยู่กับว่ากินมากแค่ไหน ยกตัวอย่าง ส้ม1 ลูก(ผลเท่าลูกเทนนิส) ให้พลังงานเท่ากับกินข้าวสวย 1 ทัพพี ถ้าไม่กินข้าวเย็นแต่กินส้มไป 5 ลูกแทน ก็แปลว่าเรากินข้าวสวยไป 5 ทัพพี อาหารทอด อาหารผัดทุกชนิด อาหารจานเดียวต่างๆ มีน้ำมันที่ซ่อนอยู่ในอาหารกลุ่มนี้ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำหวาน ชานม น้ำอัดลม #เราพังมาเท่าไหร่แล้วกับคำว่า"ไม่เป็นไรหรอกนิดเดียวไม่อ้วนหรอก"
3.ขี้เกียจออกกำลังกาย แม้จะคุมอาหารหรือกินน้อยแค่ไหน แต่ไม่ออกกำลังกายก็ทำให้การเผาผลาญไขมันได้น้อย การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การคุมอาหาร ลองเริ่มต้นครั้งละสั้นๆ 10-15 นาที แล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเป้าหมายที่วางไว้ หรือเลือกกิจกรรมที่เราชอบหรือเคยทำ เช่น ปั่นจักรยานอยู่กับที่แล้วเปิดดูซีรี่ย์ไปด้วยไม่นานก็ครบเวลาที่เราตั้งไว้แล้ว #แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย
4.เครียดมาก หาทางออกด้วยการกิน เพราะอารมณ์มีอิทธิพลต่อการกิน เช่น ทำงานใช้สมองเหนื่อยเครียดมาก ต้องการผ่อนคลายด้วยการกินบิงซู เค้กชิ้นโต หรือไอติมสัก3-4 ลูก ซึ่งถ้าใช้การกินเป็นวิธีคลายเครียดแน่นอนเราจะกินมากกว่าปกติ กลับมาถามตัวเองสักนิดว่า มีวิธีคลายเครียดวิธีอื่นนอกจากการกินไหม เช่น ไปออกกำลังกายคลายเครียดแถมได้ลดน้ำหนัก หรือนั่งหายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกยาวๆ ช้าๆ ทำไปเรื่อยๆ 1 นาทีก็เห็นผล ถ้าทำต่อหลายๆ นาที หายเครียดชัวร์ #ถ้าเครียดไม่กิน #ถ้าเครียดให้ออกกำลัง #ถ้าเครียดให้หายใจลึกๆ
5.ลดน้ำหนักแบบตึงเกินไป จนเครียด ท้อ เลิกทำ หลายคนลดน้ำหนักได้แล้วก็จริง แต่ทำได้ไม่นานก็เลิกทำเพราะอะไร ก็เพราะทำแล้วไม่มีความสุข เครียดกว่าเดิม ทำงานหรือเรียนก็เครียดอยู่แล้ว ยังจะต้องมาเครียดกับการคุมอาหารอีก การลดน้ำหนักให้สำเร็จอย่างยั่งยืนไม่ใช่การลดอย่างรวดเร็ว สิบกิโลในเวลาเดือนสองเดือนพอลดได้แล้วก็เลิกทำไป แต่สิ่งสำคัญคือความสุขในระหว่างที่ลดน้ำหนัก ถ้าบาลานซ์ได้ดีระหว่างความสุขจากกิน ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอกับน้ำหนักตัว เราจะประสบความสำเร็จในระยะยาว บางคนตั้งใจคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างดีแล้วแต่น้ำหนักลดน้อยหรือไม่ลดเพิ่ม ทำให้เสียกำลังใจ ท้อ เลิกทำ จุดนี้หมออยากให้กำลังใจว่าคนเรามีพันธุกรรมไม่เหมือนกัน การเผาพลาญไม่เท่ากัน แม้ว่าเราจะกินอาหารและออกกำลังกายเท่ากับเพื่อน แต่น้ำหนักเราอาจจะลดน้อยกว่าเพื่อนได้ ขอให้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อไป #ลดอย่างมีความสุข #ถ้าไม่ลดเราไม่เลิก #(แม้)ไม่ลด(แต่ก็)ไม่เลิก
"ปรับ 3 อ.เพื่อหยุด อ.อ้วน" อ. อาหาร ปรับลดพลังงานในอาหารลงเพียง 500 กิโลแคลอรี่ต่อวันทำได้ครบ 7 วัน น้ำหนักลดลงครึ่งกิโลกรัม อ. ออกกำลังกาย ปรับการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้นออกกำลังกายให้ได้ 150-300นาทีต่อสัปดาห์ ถ้าจะให้ดีควรออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน(Resistance exercise) 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ อ. อารมณ์ ปรับอารมณ์ให้ไม่เครียดมีสติเวลากิน หลายครั้งการลดน้ำหนักเพียงลำพังไม่สำเร็จเพราะขาดตัวช่วย อาจเข้ารับคำปรึกษาจาก 1) คุณหมอ (Endocrinologist) เพื่อหาสาเหตุของภาวะอ้วนที่อาจแฝงอยู่ เช่น โรคไทรอยด์ต่ำ โรคฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ฯลฯ ประเมินและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วน หรืออาจพิจารณายาช่วยลดน้ำหนักที่รับรองโดยอย.อย่างถูกต้องถ้ามีข้อบ่งชี้ และใช้ยาอย่างปลอดภัย 2)นักกำหนดอาหาร(Dietitian) จะช่วยประเมินอาหารที่เรากินว่ามากเกินไปหรือไม่ และกำหนดชนิด ปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม 3) นักวิทยาศาสตร์การกีฬา(Sport scientist) จะช่วยแนะนำการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ทั้งชนิดการออกกำลังกาย ความหนักเบาที่เหมาะกับบุคคล 4)พยาบาลผู้ให้ความรู้(Obesity Co-ordinator) เพื่อช่วยประเมินพฤติกรรมการกินอุปสรรคของการลดน้ำหนัก ร่วมกันตั้งเป้าหมายและให้กำลังใจในการลดน้ำหนักของเรา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เบาหวานไทรอยด์และต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร. 02-755-1129-30 แอดไลน์ : @bangkokhospital
 
                             โรงพยาบาลหัวเฉียว ให้บริการตรวจสุขภาพในงานคลินิกลอยฟ้า ปีที่ 20 "Unlock Longevity ปลดล็อคสุขภาพดีชีวิตยืนยาว"
                            โรงพยาบาลหัวเฉียว ให้บริการตรวจสุขภาพในงานคลินิกลอยฟ้า ปีที่ 20 "Unlock Longevity ปลดล็อคสุขภาพดีชีวิตยืนยาว"
                         ฟื้นฟูเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน.. ด้วยการออกกำลังกายเท้า
                            ฟื้นฟูเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน.. ด้วยการออกกำลังกายเท้า
                         รพ.หัวเฉียว ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมวันเบาหวานโลก World Diabetes Day 2024
                            รพ.หัวเฉียว ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมวันเบาหวานโลก World Diabetes Day 2024
                         เบาหวาน.. เป็นแล้วเรื้อรัง ไม่หายขาด
                            เบาหวาน.. เป็นแล้วเรื้อรัง ไม่หายขาด
                         น้ำหนักลด อ่อนเพลีย คอแห้ง อาจเสี่ยง 'โรคเบาหวาน' ไม่รู้ตัว แพทย์ รพ. วิมุต เตือน รีบพบแพทย์ก่อนเป็นอันตรายจากภาวะแทรกซ้อน
                            น้ำหนักลด อ่อนเพลีย คอแห้ง อาจเสี่ยง 'โรคเบาหวาน' ไม่รู้ตัว แพทย์ รพ. วิมุต เตือน รีบพบแพทย์ก่อนเป็นอันตรายจากภาวะแทรกซ้อน
                         โรงพยาบาลหัวเฉียวจัดงาน วันเบาหวานโลก World Diabetes Day 2023
                            โรงพยาบาลหัวเฉียวจัดงาน วันเบาหวานโลก World Diabetes Day 2023
                         HuaChiew Happy Healthy Family Day 85 ปี โรงพยาบาลหัวเฉียว
                            HuaChiew Happy Healthy Family Day 85 ปี โรงพยาบาลหัวเฉียว