'บมจ.โอสถสภา (OSP)' โชว์ศักยภาพรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วยหลัก Agility พร้อมบริหารจัดการต้นทุนภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ได้ดีกว่าแผน หนุนผลการดำเนินงานปี 2563 ทำกำไรสุทธิ 3,504 ล้านบาท เติบโต 7.5% พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ครองตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในเมียนมาร์ มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง พร้อมเปิดรับพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ ขณะที่บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังในอัตรา 0.65 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายเงินปันผลทั้งปี 1.1 บาทต่อหุ้น ตอกย้ำนโยบายสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น
นายธนา ไชยประสิทธิ์ รักษาการ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า ปี 2563 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม OSP ใช้การบริหารธุรกิจแบบ Agility ที่เน้นความรวดเร็ว ยืดหยุ่น และแสวงหาโอกาสจากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่เข้มแข็ง ทำให้ OSP สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ได้ดี ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและดีกว่าแผนงานที่วางไว้ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2563 มีรายได้รวม 26,129 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,504 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงมีสถานะทางการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง พร้อมเปิดรับพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ
แม้ภาพรวมของตลาดหดตัวผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวัง แต่ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่เข้มแข็ง ทำให้โอสถสภาสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดของสินค้าทั้งกลุ่มเครื่องดื่มและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล สวนกระแสตลาดโดยความมั่นใจในคุณภาพที่ผู้บริโภคมีต่อ แบรนด์เอ็ม-150 ช่วยเสริมให้กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 54.5% ขณะที่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ 'ซีวิท' ช่วยผลักดันการขยายตัวของตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์ที่ 9% และซีวิทยังครองอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 31% ในปีที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังช่องทางใหม่ๆ อาทิ ร้านไก่ย่างห้าดาว ร้านส่งพัสดุเคอรี่ และทำตลาดแบบเน้นการบริโภคในครัวเรือน
ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลนั้น สามารถทำส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในไตรมาส 4/2563 เช่นกัน โดยเฉพาะแบรนด์เบบี้มายด์ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในหมวดสินค้าสบู่เหลวและแป้งฝุ่น
ขณะที่ตลาดในประเทศเมียนมาร์นั้น บริษัทฯ ยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 30% มีโรงงานแห่งใหม่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ในเมียนมาร์ได้อย่างมีคุณภาพ รวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง ผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในเมียนมาร์อาจมีผลกระทบต่อการขนส่งและการดำเนินงานในระยะสั้น ซึ่งบริษัทฯ มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้วยความสำเร็จของผลการดำเนินงานที่ขยายตัวได้ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 จึงมีมติเสนอจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2563 ในอัตรา 1.1 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงิน 3,304 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น คงเหลือเงินปันผลที่ต้องจ่ายเพิ่ม 0.65 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 และจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นต่อไป
"สำหรับแผนดำเนินงานในปี 2564 นั้น บริษัทฯ จะเน้นกลยุทธ์สร้างความเข้มแข็งใน 5 มิติ ได้แก่ สร้างการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ขยายตลาดเครื่องดื่มซีวิท ขยายธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการ Fit Fast Firm และขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืน (Sustainability) เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น" นายธนา กล่าว
'บมจ. โอสถสภา (OSP)' ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสถานการณ์โลก ยืนยันเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรและผู้บริโภค โดยโรงงานผลิตเครื่องดื่มในประเทศเมียนมาร์ยังคงดำเนินการตามปกติรองรับแผนการดำเนินธุรกิจ นางสาวรติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 จุดศูนย์กลางที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ ไม่ได้สร้างความ
ทรูมันนี่ สนับสนุนแบรนด์ซุปไก่สกัด ผ่านโซลูชัน TrueMoney for Business ชูระบบทำ Real-time Cashback เสริมแคมเปญ "ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด"
—
ทรูมันนี่ ผู้นำด...
สวทช. จับมือมูลนิธิ SOS และ จ.ปทุมธานี สร้างชุมชนรักษ์อาหาร ดัน "ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล" ต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่น
—
สวทช. จับมือมูลนิธิ SO...
'สธ.-มข.-สครท.-ชสท.' เร่งพัฒนา "ผู้บริหารสาธารณสุขอำเภอระดับสูง รุ่นที่ 3" บูรณาการพื้นที่ส่งเสริมสุขภาพประชาชน รอบรู้ ห่างไกล NCDs
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธ...
BWG ประกาศผลการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2568 พร้อมรายงานการเติบโตด้านรายได้ กำไร และการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืน
—
บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด(มห...
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุน TThai70ESGX และ TThaiESGX ช่วยลูกค้าบริหารภาษี - ลดหย่อนสูงสุด 800,000 บาท
—
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้น 70 ไทยเพื่อความยั่ง...
TFM ไตรมาส 1/68 ฟอร์มแกร่งกวาดกำไรสุทธิเติบโตทะลุ 26.8% สะท้อนความสำเร็จ กลยุทธ์การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ รุกปรับพอร์ตสินค้ามาร์จิ้นสูง
—
TFM ไตรมาส ...
'UBE' คว้ามาตรฐาน ISO 14064-1:2018 รายแรกในอุตสาหกรรมเอทานอลไทย เดินหน้ายกระดับองค์กรลดก๊าซเรือนกระจก มุ่งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน
—
'บมจ. อุบล ไบโอ เอท...
กปภ. เดินหน้า Step Test Day ปี 2เร่งซ่อมท่อแตก หยุดน้ำรั่วไหล เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ
—
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จัดกิจกรรมโครงการ Step Test Day ปี...