ดีอีเอส ห่วงผู้ใช้โซเชียลตกเป็นเหยื่อโจรออนไลน์เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แนะแนวทางป้องกัน 5 ข้อ เรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐและเอกชนร่วมมือแก้ไขปัญหา รวมทั้งผู้พัฒนาระบบ ได้แก่ กูเกิล และแอปเปิ้ล กลั่นกรองปิดกั้นแอปผิดกฎหมาย
นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า แนวโน้มอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่สร้างความเสียหายในวงกว้าง ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นภัยใกล้ตัวเข้ามาเรื่อยๆ เนื่องจากสามารถเข้าถึงเหยื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น ในรูปแบบแอปพลิเคชันผิดกฎหมายบนโทรศัพท์มือถือ เมื่อผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ดาวน์โหลดมาใช้งาน ก็จะถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลทุกอย่างที่จัดเก็บไว้ในมือถือได้ทันที
ดังนั้น ในเบื้องต้นอยากแนะนำประชาชนทั่วไปเพื่อให้ลดโอกาสเสี่ยงที่จะกลายเป็นเหยื่อ โดยมีแนวทางการป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่สามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ 5 ข้อ ได้แก่
- การป้องกันข้อมูลส่วนตัว โดยการตั้งรหัสเข้าข้อมูลของไฟล์ข้อมูลที่ต้องการป้องกัน
- การป้องกันการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การใส่ชื่อ username และ password การใช้สมาร์ทการ์ดในการควบคุมการใช้งาน หรือกุญแจเพื่อการป้องกันการใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้อุปกรณ์ทางชีวภาพ เช่น ตรวจสอบเสียง ลายนิ้วมือ ฝ่ามือ ลายเซ็น ม่านตา เป็นต้น
- การสำรองข้อมูล โดยไม่เก็บข้อมูลไว้ที่เดียว สามารถสำรองไว้ในอุปกรณ์ที่ใช้อ่านอย่างเดียว เช่น แผ่นซีดีและแผ่นวีดีโอ
- การตั้งค่าโปรแกรมค้นหาและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นการป้องกันที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถป้องกันอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ได้
- ไม่คลิกรับไฟล์ที่ไม่รู้จักที่ส่งเข้ามาผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ไลน์ , Email หรือ SMS โดยเฉพาะไฟล์ที่มีนามสกุล .APK , .EXE เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นการ Phishing ข้อมูลส่วนบุคคลของเราไปดำเนินการในทางทุจริต รวมถึงการเชิญชวนให้รับโชคต่างๆต้องไม่หลงเชื่อโดยไม่มีการตรวจสอบ
"ล่าสุดที่มีประชาชนจำนวนมาก ตกเป็นเหยื่อแอปเงินกู้เถื่อน เป็นตัวอย่างกรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดเจนว่า การที่อนุญาตให้แอปเข้าถึงข้อมูลเพื่อที่จะดำเนินการกู้เงิน ผลที่ตามมาร้ายแรงกว่าที่คิด เพราะผู้ร้ายจะเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดของเราได้ เช่น รูปภาพ เบอร์โทรศัพท์ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ และนำข้อมูลนั้นมาข่มขู่หรือรบกวนผู้กู้ และผู้ที่รู้จักภายหลังได้ ข้อมูลที่ผู้ร้ายได้ไปแล้วไม่สามารถเรียกคืนได้อีก" นายภุชพงค์กล่าว
นายภุชพงค์ กล่าวว่า บทบาทของกระทรวงฯ ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาแอปพลิเคชันผิดกฎหมาย ยังมุ่งเรื่องการตรวจสอบเป็นหลัก เพราะแอปที่เปิดให้บริการอยู่ในประเทศไทย มีการยื่นขอเปิดไปทางผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการมือถือ ได้แก่ แอปเปิ้ล และกูเกิล จึงเป็นข้อจำกัดของกระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวัง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีเพจอาสาจับตาออนไลน์ ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ และรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า แอปพลิเคชันใดที่เข้าข่ายหลอกลวงหรือผิดกฎหมายในข้อต่างๆ สามารถแจ้งเข้ามาได้ทาง inbox คลิก m.me/DESMonitor โดยจะมีทีมงานของกระทรวงฯ และของเพจช่วยกันจับตา ตรวจสอบ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
"นอกเหนือจากมาตรการทางเทคโนโลยีที่ผู้ใช้ต้องดำเนินการ หรือมาตรการทางกฎหมายที่รัฐบาลต้องผลักดันกฎหมายต่างๆ แล้ว มาตรการสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะช่วยให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์สัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติได้นั้น คือมาตรการด้านความร่วมมือกับระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงเฉพาะหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นในด้านของผู้พัฒนาระบบหรือผู้กำหนดนโยบาย" นายภุชพงค์กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงาน เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ จนถึงสิ้นเดือน ก.พ. 64 ดำเนินการยื่นคำสั่งต่อศาล เพื่อขอให้มีคำสั่งระงับการแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมายไปแล้ว 561 คำสั่ง รวมทั้งสิ้น 20,588 ยูอาร์แอล
ดีอี - TAGTHAi ร่วม MOU ส่งเสริม "Smart Tourism" ผ่านแพลตฟอร์ม หนุนยกระดับท่องเที่ยวไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
ทส. ประชุม คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศกำหนดพื้นที่ กรุงเทพฯ และ 4 จังหวัดภาคเหนือ เป็นเขตควบคุมมลพิษ
การประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 4/2568
ข่าวดี! ODOS Summer Camp 2026 พร้อมเปิดรับสมัคร 1 ก.ย.นี้
ปตท.สผ. คว้ารางวัล AIBP ASEAN Enterprise Innovation Award 2025 จากการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับการดำเนินงาน
รองนายกฯ ประเสริฐ เปิดกิจกรรมปฐมนิเทศโครงการ ODOS Summer Camp พร้อมมอบกำลังใจแก่ 928 เยาวชนไทย ก่อนลัดฟ้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างแดน
อว. ผนึก ดีอี โดย สวทช. จุฬาฯ และ สพธอ. เตรียมการจัดตั้ง "AI Thailand Hub" เดินหน้ายุทธศาสตร์ AI นำร่อง COE ประเทศ ลุยสร้างคน สร้างมาตรฐาน บริการ AI ครบวงจร
กระทรวงดีอี อัดงบ 69 พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ปูพรมภาคการผลิต หนุนพัฒนา AI เพิ่มขีดแข่งขันประเทศไทย
สคส. เข้มเดินหน้าบังคับใช้ PDPA ลงโทษปรับหน่วยงานที่ปล่อยข้อมูลประชาชนรั่วไหล ไม่เว้นทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชน