การประชุมสุดยอดจีน-กลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออก (CEEC) ครั้งที่ 9 เดิมทีมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 แต่ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ได้หยุดชะงักตามไปด้วย
ในปี 2563 มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออกอยู่ที่ระดับ 1.0345 แสนล้านดอลลาร์ และทั้งสองฝ่ายได้ยกระดับความร่วมมือในหลากหลายด้าน เช่น วัคซีน การค้า และเศรษฐกิจสีเขียว ในการประชุมสุดยอดซึ่งจัดขึ้นผ่านทางออนไลน์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
เป้าหมายร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
ความร่วมมือของทั่วโลกในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คือประเด็นร้อนของประชาคมโลกในขณะนี้ และจีน-กลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออก ก็จะเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้กล่าวสุนทรพจน์หลักในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ว่า ทั้งสองฝ่ายจะพยายามร่วมกันในด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพ การแบ่งปันประสบการณ์ และการทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะของโลก
นายสี จิ้นผิง เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ประเทศเซอร์เบียได้รับวัคซีนจากบริษัทจีนแล้ว 1 ล้านโดส นอกจากนั้นยังมีการสร้างความร่วมมือระหว่างบริษัทวัคซีนของจีนกับฮังการี และจีนจะพิจารณาสร้างความร่วมมือในลักษณะนี้กับประเทศอื่นในกลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออกหากมีความจำเป็น
นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นายสี จิ้นผิง ได้ดำเนินการทางการทูตผ่านคลาวด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเข้าร่วมหรือเป็นประธานการประชุมออนไลน์หลายครั้ง รวมถึงการสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำประเทศอื่น ๆ และผู้บริหารองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อให้จีนได้มีส่วนช่วยในการวิจัย พัฒนา และแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ความร่วมมือทางการค้าจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังในการผลักดันการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
นายสี จิ้นผิง เปิดเผยว่า ตลอด 5 ปีนับจากนี้ จีนตั้งเป้าว่าจะนำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออก คิดเป็นมูลค่ากว่า1.7 แสนล้านดอลลาร์ และจะพยายามกระตุ้นการส่งออกสินค้าเกษตรจากกลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออกมายังจีนให้มากขึ้นสองเท่า ตลอดจนยกระดับการค้าขายสินค้าเกษตรระหว่างสองฝ่ายให้ได้ 50%
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีจีนยังตอกย้ำว่า ควรมีการเพิ่มบทบาทของรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการผสานความร่วมมือข้ามภูมิภาคเข้ากับความร่วมมือภายใต้โครงการBelt and Road
ปัจจุบัน 17 ประเทศสมาชิกในกลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออก ได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือหลายฉบับกับจีน เพื่อร่วมกันสนับสนุนโครงการBelt and Road
ขณะเดียวกัน รถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป ได้วิ่งไปมาหาสู่กัน12,400เที่ยวในปี 2563 โดยเดินทางผ่านและไปยังจุดหมายปลายทางสำคัญหลายแห่ง เช่น โปแลนด์ ฮังการี และสาธารณรัฐเช็ก
เมื่อปีที่แล้ว รถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป วิ่งไปมาหาสู่กัน12,400 เที่ยว โดยมีการขนส่งสินค้าต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ไปยังทวีปยุโรปซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโรคระบาด
ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีการลงนามในเอกสารความร่วมมือ 88 ฉบับ และมีการตอกย้ำถึงการส่งเสริมความก้าวหน้าในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการแลกเปลี่ยนคนและวัฒนธรรม
แนวทางในการบรรลุเป้าหมาย
ภารกิจที่กล่าวถึงข้างต้นไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคหลังโควิด ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งทะลุ 100 ล้านรายไปแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ด้วย
ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันอังคาร จีนได้ตอกย้ำให้มีการรักษาความร่วมมือจีน-กลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออก เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
นายสี จิ้นผิง ตอกย้ำว่า การเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างคือกุญแจสำคัญในการรักษาความร่วมมือ โดยจีนและกลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออกได้พัฒนาหลักการที่มีคุณลักษณะเฉพาะและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า การตัดสินใจผ่านการปรึกษาหารือกัน การส่งมอบประโยชน์ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาร่วมกันผ่านการเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง และการเติบโตมากขึ้นผ่านการพัฒนานวัตกรรม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ
ความท้าทายและโอกาสมักมาพร้อมกันเสมอเมื่อเกิดวิกฤต
ทั้งนี้ ความร่วมมือจีน-กลุ่มประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออก เกิดขึ้นในปี 2555 ท่ามกลางวิกฤตหนี้สินยุโรป และหลังจากที่ทั่วโลกเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจทรุดตัวครั้งรุนแรงในปี 2563 ทุกสายตาต่างหันมาจับจ้องความร่วมมือนี้อีกครั้ง ด้วยความคาดหวังที่มีมากกว่าเดิม
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่ https://news.cgtn.com/news/2021-02-09/Cooperation-not-postponed-China-CEEC-gear-up-for-vaccines-trade-XK2S63XmeI/index.html
สำนักเลขาธิการคณะกรรมการจัดงานดิจิทัล ไชนา ซัมมิต เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา การประชุมสุดยอด ดิจิทัล ไชนา ซัมมิต หรือ Digital China Summit (DCS) ครั้งที่ 8 ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการที่นครฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน งานนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานสำคัญหลายแห่ง ได้แก่ คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สำนักงานข้อมูลแห่งชาติ สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซแห่งประเทศจีน กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ และรัฐบาลประชาชนมณฑลฝูเจี้ยน รวมทั้งได้รับความร่วมมือในการจัดงานจากคณะกรรมการพัฒนา
จัดการประชุมสุดยอด One NTT DATA Summit เปิดเวทีชูพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของ AI และนวัตกรรมดิจิทัล
—
จัดการประชุมสุดยอด One NTT DATA Summitเปิดเวทีชูพลังแห่...
โจ ไช่ ประธานของอาลีบาบา กับ มุมมองด้านการพัฒนา AI
—
นายโจ ไช่ ประธานของอาลีบาบา กรุ๊ป แลกเปลี่ยนมุมมองของอาลีบาบาเกี่ยวกับอนาคตของ AI ในระหว่างการประชุ...
นักวิชาการจีน-ผู้แทนต่างชาติตบเท้าร่วมงานประชุมสุดยอดนานาชาติครั้งที่ 3 ว่าด้วยการใช้ระบบ BDS ที่เมืองซูโจว
—
คณะกรรมการจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยการใช้งาน...
การประชุมสุดยอด Asia-Pacific Digital Talent Summit 2024 ร่วมจัดโดยหัวเว่ย มูลนิธิอาเซียน และองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO)
—
ความมุ่งมั่...
การประชุมนานาชาติว่าด้วยการท่องเที่ยวภูเขาและกีฬากลางแจ้ง ประจำปี 2567 เปิดฉากขึ้นที่มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน
—
การประชุมนานาชาติว่าด้วยการท่องเที่ยวภูเขาและ...
ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นจากกว่า 60 ประเทศตบเท้าเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS+ Fashion Summit 2023
—
การประชุมสุดยอดบริกส์พลัสแฟชั่น (BRICS+ Fashion Summit) ...