วิกฤติ COVID-19 ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับปัญหาโรคติดเชื้อ ซึ่งการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อ กำลังกลายเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติอยู่ในขณะนี้
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์สุธี ยกส้าน ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล (MB) มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ริเริ่มวิจัยและพัฒนาวัคซีนโรคติดเชื้อที่สำคัญในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียมานานนับ 40 ปีจากผลงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี (Dengue) ทั้ง 4 ชนิด วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) วัคซีนไข้ซิกา (Zika) และวัคซีนไข้ปวดข้อยุงลาย (Chikungunya) ซึ่งในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนมาอย่างยาวนาน ได้อธิบายการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ รวมถึงโควิด-19 (COVID-19) ว่า มีระดับความรุนแรง ตั้งแต่โรคประจำถิ่น (Endemic) จนเกิดการแพร่ขยายในวงกว้าง (Outbreak) กระทั่งกลายเป็นโรคระบาด (Epidemic) และเกิดการแพร่กระจายไปทั่วโลก (Pandemic) ซึ่งเป็นการระบาดขั้นสูงสุด จากนั้นก็อาจกลับกลายเป็นโรคประจำถิ่นต่อไปได้
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์สุธี ยกส้าน ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการวิจัย และพัฒนาวัคซีนว่า เป็นการพัฒนาเชิงรุก ซึ่งการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 มีหลักการพื้นฐานเช่นเดียวกับโรคติดเชื้อที่มีความรุนแรงโดยทั่วไป นอกจากนี้ยังอาจช่วยผู้ติดเชื้อได้โดยนำสารภูมิต้านทาน (Antibody) ของผู้ป่วย หรือผู้ติดเชื้อที่หายแล้ว มาผ่านกระบวนการในห้องปฏิบัติการแล้วฉีดให้แก่อาสาสมัคร แต่ก็ยังอาจพบข้อจำกัดบ้าง เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละรายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน จึงมีผลต่อวัคซีน หรือสารภูมิต้านทานที่ได้รับไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อให้การพัฒนาวัคซีนประสบผลสำเร็จ จึงควรมีการศึกษาถึงปัจจัยด้านวิทยาภูมิคุ้มกันร่วมด้วย
ซึ่งนวัตกรรมนั้นสร้างได้ หากเราสามารถพัฒนาวัคซีนป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่งประสบผลสำเร็จแล้ว ในอนาคตอาจสามารถพัฒนาต่อยอด เป็นนวัตกรรม โดยรวมเอาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อชนิดอื่นไว้ในเข็มเดียวกันได้ ดังนั้นจึงควรมีการวิจัยและพัฒนาวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ซี่งระหว่างรอให้วัคซีนโควิด-19 ประสบผลสำเร็จ ประชาชนควรปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด แต่ก็ไม่ควรตื่นตระหนกกันจนเกินไป จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศชาติโดยรวมด้วยได้
สำหรับก้าวต่อไปของมหาวิทยาลัยมหิดล โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล (MB) จะร่วมกับ สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) พัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกเดงกีทั้ง 4 ชนิดออกไปสู่อุตสาหกรรม โดยจะทำให้ประเทศไทยได้เป็นศูนย์กลางระดับโลกในการผลิตวัคซีนชนิดนี้ ซึ่งนอกจากวัคซีนในคนแล้ว ทางศูนย์วิจัยฯ ยังได้มีการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในเป็ดพันธุ์ไข่ จากการศึกษาเชื้อไวรัสเป็ดที่นำโดยยุงลาย เพื่อดูแลเป็ดที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตไข่เป็ดในระดับประเทศต่อไปอีกด้วย
ศูนย์ร่วมคิดพาณิชย์นวัตกรรม (MICC) โดยสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) ม.มหิดล ขอเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ เข้าร่วมงานสัมมนา Mahidol Sustainable and Modern Energy for All "Solar Cell" วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2566 (เวลา 09.00-12.00 น.)ณ MaSHARES Co-Working Space สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุลหรือทาง FB LIVE ของสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม Highlight Topic - นโยบายภาครัฐกับโซลาเซลล์- การพัฒนาเรือพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการท่องเที่ยวตามแนวปะการัง- นวัตกรรม 'เพอรอฟสไกต์'
ม.มหิดลร่วมแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีไทย-จีน เพื่อควบคุมป้องกันโรคธาลัสซีเมีย
—
สมรภูมิแห่งการควบคุมโรคธาลัสซีเมีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย ไม่เคยห่างหาย...
ม.มหิดลเสริมทักษะคิดเชิงวิเคราะห์ขั้นสูงให้นศ.ทดลองออกแบบและผลิตวัคซีน
—
โปรตีนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์ การศึกษาเกี่ยวกับโปรตีน (Proteomics) มีความส...
ม.มหิดล เร่งสร้างขุมพลังยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ
—
เมื่อโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการนำองค์ความรู้จากงานวิจัยและงา...
คณะ ICT ม. มหิดลขอเชิญคณาจารย์ นักวิจัย บุคลากร นักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล และผู้สนใจ เข้าร่วมเสวนาเชิงวิชาการ Mahidol AI Talk#2
—
คณะ ICT ม. มหิดลขอเชิญ...
ม.มหิดล ย่อโลกการแพทย์แม่นยำสร้างสรรค์ AI ช่วยออกแบบยา "MANORAA"
—
กว่าจะคิดค้นและผลิตยารักษาโรคแต่ละชนิดต้องใช้เวลากว่าหนึ่งทศวรรษ และต้องอาศัยการลงทุนด้...
ม.มหิดล พัฒนานวัตกรรม "น้ำยาทำละลายโปรตีนโปรลามีนส์" ใช้ทดสอบเพื่อหาข้อบ่งชี้โรคภูมิแพ้กลูเตนในแป้งข้าวสาลี
—
ปัจจุบันอุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้พบมากขึ้นทั่...
ม.มหิดล - ไบโอเทค ค้นพบ "โพรไบโอติกส์ต้านโรคสัตว์น้ำ" จากการวิจัยในระดับ "ยีน" ครั้งแรก
—
ความหายนะทางเศรษฐกิจจากการที่เกษตรกรฟาร์มกุ้งไทยส่วนใหญ่ต้องประส...