สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เผยผลการจัดอันดับประเทศชั้นนำด้านนวัตกรรมจากดัชนีนวัตกรรมบลูมเบิร์ก หรือ Bloomberg Innovation Index ประจำปี 2564 ภาพรวมของประเทศไทยปีนี้ก้าวกระโดดขึ้นจากอันดับที่ 40 มาเป็นอันดับที่ 36 จาก 60 ประเทศทั่วโลก โดยมิติสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศขยับขึ้นสูงกว่าเดิมถึง 8 อันดับ และติดหนึ่งในสามของประเทศชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนรองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย พร้อมวาง 3 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่ "ประเทศแห่งนวัตกรรม" ได้แก่ เชื่อมโยงงานวิจัยไปสู่นวัตกรรม ยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 และสร้างศักยภาพแห่งอนาคต
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวว่า สัปดาห์นี้มีเรื่องน่ายินดีเกี่ยวกับแวดวงระบบนวัตกรรมไทยนั่นคือ คือ บลูมเบิร์ก หน่วยงานชั้นนำระดับโลกด้านข่าวและข้อมูลด้านธุรกิจ ได้มีการจัดอันดับทางนวัตกรรม Bloomberg Innovation Index ประจำปี 2564 ขึ้น ผลปรากฏว่า ประเทศไทยขยับขึ้นถึง 4 อันดับ เดิมอันดับที่ 40 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 36 จากจำนวนประเทศที่ได้รับการจัดอันดับทั้งสิ้น 60 ประเทศ โดยบลูมเบิร์กแบ่งมิติการประเมินออกเป็น 7 มิติ ประกอบด้วย 1) สัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D Intensity) 2) มูลค่าเพิ่มจากอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing Value-added) 3) ผลิตภาพการผลิต (Productivity) 4) จำนวนบริษัทมหาชนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง (High-tech Density) 5) จำนวนนักศึกษาและบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ (Tertiary Efficiency) 6) สัดส่วนนักวิจัย (Researcher Concentration) และ 7) ความเคลื่อนไหวด้านสิทธิบัตร (Patent Activity) จะเห็นได้ว่ามิติการประเมินเหล่านี้ให้ความสำคัญกับศักยภาพของประเทศใน 3 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพด้านองค์ความรู้ ศักยภาพด้านการผลิต และศักยภาพด้านเทคโนโลยีขั้นสูง
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึง "โอกาส" ของประเทศไทยที่จะก้าวสู่ "ประเทศแห่งนวัตกรรม" และบทบาทสำคัญของ NIA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงและรับมือภาวะวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ที่ผ่านมากระทรวง อว. ได้ริเริ่มและดำเนินต่าง ๆ เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ตัวอย่างเช่น การจัดตั้งกองทุนวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เพื่อปรับโครงสร้างการจัดสรรทุนให้ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ของประเทศบนแพลทฟอร์มที่เน้นการสร้างกำลังคนและความรู้ การส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายสังคม การส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการวิจัย นอกจากนี้ ยังรวมถึงโครงการต่าง ๆ ที่เข้ามาสนับสนุนการพัฒนากำลังคน อุตสาหกรรม อาทิ โครงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ (Reskill/Upskill/New skill)
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า จากผลการจัดอันดับสะท้อนให้เห็นศักยภาพด้านนวัตกรรมของแต่ละประเทศในเวทีสากล ดังนี้ "คุณภาพ" สำคัญกว่า "ขนาด" - 8 จาก 10 ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด ล้วนเป็นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วขนาดเล็ก ที่เน้นการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนา กำลังคน และเทคโนโลยีการผลิต ลงทุนเพื่ออุตสาหกรรมอนาคต - ประเทศมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่าง อเมริกา และ จีน แม้จะไม่ได้ติด 10 อันดับสูงสุด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ 2 ประเทศนี้มีมิติด้านจำนวนบริษัทมหาชนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และมิติด้านความเคลื่อนไหวด้านสิทธิบัตร อยู่ในอันดับต้น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสสำหรับการแข่งขันและเติบโตในอนาคต
สำหรับประเทศไทย (อันดับ 36) ถือเป็นลำดับที่ 3 ของกลุ่มประเทศอาเซียน ตามหลังประเทศสิงคโปร์ (อันดับ 2) และมาเลเซีย (อันดับ 29) ในขณะที่เวียดนาม (อันดับ 55) ตามมาเป็นลำดับที่ 4 สิ่งที่น่าสนใจจากผลการจัดอันดับในปีนี้อีกประการหนึ่ง คือ ประเทศไทยสามารถทำได้ดีในมิติที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นมิติด้านสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D intensity) ที่กระโดดขึ้นถึง 8 อันดับ จากอันดับที่ 44 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 36 และ มิติด้านสัดส่วนนักวิจัย (Researcher Concentration) ที่ขยับขึ้น 3 อันดับ จากอันดับที่ 48 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 45 ซึ่งสัมพันธ์กับมิติด้านมูลค่าเพิ่มจากอุตสาหกรรมการผลิต ที่ประเทศไทยคงที่อยู่ในอันดับที่ 18 จาก 60 ประเทศ แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสำหรับภาคการผลิตก็คือ ผลิตภาพการผลิต ที่นอกจากประเทศไทยจะอันดับลดลงไป 1 อันดับ จากอันดับที่ 51 ตกไปเป็นอันดับที่ 52 แล้ว ก็จะเห็นได้ว่าอันดับของประเทศไทยก็อยู่ในอันดับท้าย ๆ จาก 60 ประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขาดประสิทธิการผลิตของแรงงาน (GDP and GNI per employed person) ที่เราต้องเร่งพัฒนา
หากวิเคราะห์ในภาพรวมของผลการจัดอันดับของประเทศไทยจะเห็นได้ว่าเราต้องมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงในการลงทุนและใช้ประโยชน์ศักยภาพด้านองค์ความรู้ ศักยภาพด้านการผลิต และศักยภาพด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศ โดยมีกลยุทธ์สำคัญดังต่อไปนี้
- เชื่อมโยงงานวิจัยไปสู่นวัตกรรม (R2I Translation) - แม้ว่าจะมีอันดับที่ดีขึ้น แต่อันดับด้านสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D Intensity) (อันดับ 36) สัดส่วนนักวิจัย (Researcher Concentration) (อันดับ 45) และความเคลื่อนไหวด้านสิทธิบัตร (Patent Activity) (อันดับ 35) ก็ยังถือว่าไม่สูงเท่าไหร่ ซึ่งทั้ง 3 มิตินี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการลงทุนและการใช้ประโยชน์งานวิจัย
- ยกระดับอุตสาหกรรม (Industrial Transformation) - แม้ประเทศไทยจะมีอันดับด้านมูลค่าเพิ่มจากอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing Value-added) ที่ค่อนข้างดี (อันดับ 18) แต่ในขณะเดียวกันอันดับด้านผลิตภาพการผลิต (Productivity) กลับทำได้ไม่ค่อยดีนัก (อันดับ 52) สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมายกระดับภาคอุตสาหกรรมและการผลิต เร่งพัฒนานวัตกรรมกระบวนการ (Process innovation) สู่อุตสาหกรรม 4.0
- สร้างศักยภาพแห่งอนาคต (Future Competency) - มิติด้านจำนวนวิสาหกกจเริ่มต้นเทคโนโลยีเชิงลึก (Deeptech) และบริษัทมหาชนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง (High-tech Density) (อันดับ 33) และจำนวนนักศึกษาและบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ (Tertiary Efficiency) (อันดับ 30) เป็นมิติที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการเติบโตในอนาคต เพราะระบบเศรษฐกิจในยุคหน้าจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นตัวขับเคลื่อน ดังนั้นการพัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งพัฒนา
จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
เอ็นไอเอ ชวนร่วมออกแบบ "ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมธุรกิจสตาร์ตอัป" หนุนกลไกสนับสนุนธุรกิจกลุ่มเทคฯ อย่างตรงจุด
ครั้งแรกในไทย นวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่ออนาคตสุขภาพสัตว์เลี้ยง
เอ็นไอเอ ผนึกพันธมิตร เปิดพื้นที่ให้ "นวัตกรรุ่นใหม่" โชว์นวัตกรรมสร้างโลกยั่งยืนใน "STEAM4INNOVATOR's Day 9.9"
เอ็นไอเอเปิดฟอรั่มโอกาสเฮลท์เทคไทย พร้อมเผยผลการจัดอันดับนวัตกรรมโลก 2025
STA รับประกาศนียบัตร SDGs for Climate X Program ตอกย้ำความมุ่งมั่น ESG และนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
NIA ร่วมกับ ซีพี ซีดดิ้ง โซเชียลอิมแพคท์ ผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จับมือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ลงนาม MOU ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยผ่านนวัตกรรมสร้างสรรค์
ITEL ร่วมขับเคลื่อน Climate X Program 2025 กับ NIA และ Sustainism ย้ำบทบาทผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม