บล.ไทยพาณิชย์ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในไตรมาสที่ 3/64 เข้าสู่วัฏจักรที่ถูกขับเคลื่อนด้วยการเติบโต มองเป้า SET Index โดยอิงกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,600 จุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บล.ไทยพาณิชย์ มองวัฏจักรตลาดหุ้นไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านจากที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความหวัง (Hope phase) เข้าสู่ช่วงเวลาที่ถูกขับเคลื่อนด้วยการเติบโต (Growth phrase) ซึ่งเชื่อมโยงกับการเติบโตของกำไรตามปัจจัยพื้นฐานมากกว่าการปรับเพิ่ม valuation โดยประเมินระดับเหมาะสมของ SET Index สำหรับปี 2565 อิงกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,600 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้เปลี่ยนกลุ่มลงทุน จากกลุ่มหุ้นวัฏจักรเป็นกลุ่มหุ้นเชิงรับที่มีปัจจัยพื้นฐานเฉพาะตัวเป็นแรงขับเคลื่อนกำไร มี valuation ที่สมเหตุสมผล และพึ่งพาแรงส่งทางเศรษฐกิจมหภาคน้อยมาก โดยจุดเข้าซื้อสำคัญอยู่ที่ 1,500 - 1,550 จุด หุ้นแนะนำ ได้แก่ CRC, GPSC, PM, RJH และ SFT

บล.ไทยพาณิชย์ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในไตรมาสที่ 3/64 เข้าสู่วัฏจักรที่ถูกขับเคลื่อนด้วยการเติบโต มองเป้า SET Index โดยอิงกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,600 จุด

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจมหภาคกำลังจะเปลี่ยนไป หลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเร็วกว่าคาดในช่วงที่ผ่านมา นำโดย สหรัฐฯ และ จีน โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีนในไตรมาสที่ 3/64 จะเริ่มชะลอตัวลง รวมถึง นโยบายเศรษฐกิจทั้งด้านการเงินและการคลังจะเริ่มตึงตัวขึ้น เช่น การชะลอการอัดฉีดสภาพคล่อง และ การปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ เป็นต้น ซึ่งเป็นนโยบายที่ตรงข้ามกับในช่วงปี 2563 ด้านกลุ่มประเทศในยุโรปถือว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวได้ดี โดยข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายๆตัวกำลังฟื้นตัวไปที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติ covid-19 ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนายังคงฟื้นตัวช้า เนื่องจากอัตราการได้รับวัคซีนยังคงต่ำทำให้ไม่สามารถควบคุมการระบาดของ covid-19 ได้ รวมถึง กำลังเผชิญกับความเสี่ยงการระบาดของ covid-19 สายพันธุ์ใหม่

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ต้องจับตาในช่วงไตรมาสที่ 3/64 นอกเหนือจากการระบาดรอบใหม่ของ covid-19 แล้ว คือ อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งมีการปรับตัวขึ้นแรงในไตรมาสที่ 2/64 โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวและจะเริ่มชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปี 2564 ดังนั้น หากอัตราเงินเฟ้อไม่มีสัญญาณชะลอตัวตามคาด จะกลับกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะกดดันบรรยากาศการลงทุน เนื่องจากจะทำให้ตลาดมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

สำหรับ แนวโน้มเศรษฐกิจไทย การระบาดระลอก 3 ของ covid-19 ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ 2/64 ซึ่งถือว่าต่อเนื่องจากการระบาดรอบที่ 2 ในช่วงปลายปี 2563 ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยด้านการบริโภคถือว่าช่วยลดผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มได้บ้าง แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คือ การฉีดวัคซีน ให้ได้ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจภายในประเทศและการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ในไตรมาส 4 ล่าสุดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 2564 ไว้ที่ระดับ 2%

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาสที่ 3/64 การที่ SET Index ฟื้นตัวมาถึงระดับก่อนเกิดวิกฤติ covid-19 แล้ว แม้ว่าวิกฤติ covid-19 ยังไม่จบ บ่งชี้ว่า ราคาหุ้นได้สะท้อนความหวังของนักลงทุนไปมากแล้ว ทำให้ประเมินว่าวัฏจักรตลาดหุ้นไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านจาก Hope phase (ช่วงเวลาที่ตลาดถูกขับเคลื่อนด้วย valuation) สู่ Growth phase (ช่วงเวลาที่ตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยการเติบโตตามปัจจัยพื้นฐาน) ดังนั้น นักลงทุนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยเราประเมินว่า หุ้นเชิงรับจะปรับตัว outperform ตลาด เพราะมี ความชัดเจนของกำไรที่สูงกว่าและมีความผันผวนที่ต่ำกว่ากลุ่มหุ้นวัฏจักร เป้าหมาย SET index ปี 2565 ที่อิงกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,600 จุด สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2565 จะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาด กลยุทธ์หลักของเราในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดใน 2H64 คือ การเปลี่ยนกลุ่มเล่นและเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและ valuation สมเหตุสมผล เราเชื่อว่าหุ้นวัฏจักรน่าจะสะท้อนการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งไปเรียบร้อยแล้ว และแนะนำให้มองหาโอกาสเข้าซื้อหุ้นเชิงรับที่มีการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจโดยจุดเข้าซื้อที่สำคัญอยู่ที่ 1,500-1,550 จุด

หุ้นเด่นไตรมาสที่ 3/64 แนะนำ หุ้นขนาดเล็กและหุ้นเชิงรับ ที่มีปัจจัยพื้นฐานเฉพาะตัวเป็นแรงขับเคลื่อนกำไร มี valuation ที่สมเหตุสมผล และพึ่งพาแรงส่งทางเศรษฐกิจมหภาคน้อยมากในการผลักดันให้มีผลตอบแทนสูงกว่าตลาด หุ้นแนะนำคือ CRC, GPSC, PM, RJH และ SFT

  • CRC : คาด SSS 2QTD เติบโต 30%YoY จากฐานต่ำของปีก่อน และเติบโตเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของเดือนพ.ค. 64 จากฐานปกติหลังสาขาต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการซึ่งยืนยันการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่ใน 2H64 จะได้อานิสงส์จากโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้โดยเฉพาะธุรกิจแฟชั่นและธุรกิจฮาร์ดไลน์ในประเทศไทย
  • GPSC : กำไร 2Q64 จะปรับตัวขึ้น QoQ จากการหยุดซ่อมบำรุงลดลง ต้นทุนก๊าซลดลง และการดำเนินงานเต็มไตรมาสของโรงไฟฟ้า GE เฟส 5 ขณะที่การระบาดของโควิด-19 รอบนี้กระทบต่ออุปสงค์จากภาคอุตสาหกรรมน้อยกว่าปีก่อน
  • PM : คาดกำ ไร 2Q64 ลดลง QoQ ตามฤดูกาล แต่เติบโต YoY จากการที่บริษัทและคู่ค้ามีแผนออกสินค้าใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการขยายตัวแทนและศูนย์การกระจายสินค้าพร้อมทั้งเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์
  • RJH : คาดกำไร 2Q64 ลดลง โตเด่น YoY จากรับรู้รายได้บริการตรวจโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง (Net Cash 66 ล้านบาท) อีกทั้งราคาหุ้นยัง Laggard โดยปัจจุบันซื้อขายด้วยอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (PER) ล่วงหน้าปี 2564 และ 2565 ที่ 22.7 เท่า และ 21 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 52.0 เท่า และ 35.4 เท่า ตามลำดับ
  • SFT : คาดกำไร 2Q64-4Q64 นิวไฮต่อเนื่อง หนุนจากอุปสงค์เติบโตในลูกค้าทุกกลุ่ม และกำลังการผลิตใหม่ที่เริ่มผลิตตั้งแต่เดือนมิถุนายน

ข่าวแนวโน้มตลาดหุ้นไทย+ตลาดหุ้นไทยวันนี้

Krungthai CIO ทีมกลยุทธ์การลงทุน มอง Thai ESG เป็นทางเลือกการลงทุนยั่งยืน สร้างผลตอบแทนจังหวะตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว

Krungthai CIO ทีมกลยุทธ์การลงทุน มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัว หลังราคาหุ้นปรับลดลงไปมาก ขณะที่ กนง. ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะสร้างโอกาสด้วยกองทุน Thai ESGX ตอบโจทย์การวางแผนการเงินระยะยาว รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี ทีมกลยุทธ์การลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) วิเคราะห์ตลาดและการลงทุนว่า ถึงแม้ตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นในปีนี้อย่างยากลำบาก โดยมีการปรับตัวลดลงไปมากกว่า 15% ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ปัจจุบันระดับดัชนีถือว่าอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับระดับดัชนีในช่วงโควิด-19

ถึงคิวของหุ้นที่มีสตอรี่เด่นจะกลับมาแล้ว!... Gossip News: STI หุ้นที่นักวิเคราะห์จับตามอง เหตุพื้นฐานดี กำไรแกร่ง แนะนำซื้อ — ถึงคิวของหุ้นที่มีสตอรี่เด่นจะกลับมาแล้ว! บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย...

“AECS” คาด SET สัปดาห์นี้ 1,720-1,750 จุด คัดหุ้นปลอดภัย ชู SYNEX , HARN, BAFS , ASK น่าเก็บเข้าพอร์ต

บล.เออีซี มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวไซต์เวย์ ในกรอบ 1,720 -1,750 จุด ปัจจัยภายต่างประเทศเป็นบวก ขณะที่ภาวะในประเทศกดดัน ทั้งเงินบาทแข็งค่า สงครามการค้าฉุดภาคส่งออก...

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน ... เข้าสู่ไตรมาส 2 ลงทุนอย่างไรดี? — นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วง...